6 ปีไม่เคยหยุดนิ่ง เปิดเบื้องหลังอาณาจักรเพชรแฟนซี “Gemholic” ของ ปัน-รมย์มนันท์ ติรณศักดิ์กุล

account_circle

ขอปรบมือดังๆ ให้กับ “ปัน – รมย์มนันท์ ติรณศักดิ์กุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจมฮอลิค จำกัด ที่สามารถเปลี่ยนความหลงใหลใน “เพชรสี” ให้กลายเป็นอาณาจักร Gemholic ใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่สร้างภาพจำด้วยเอกลักษณ์ ความพิถีพิถัน และความจริงใจในการส่งต่ออัญมณี

Truly Yours

“ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน ต้องยอมรับว่าความรู้เรื่องเพชรสีสำหรับคนไทยยังไม่แพร่หลาย คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเพชรมีแค่สีขาว แต่ความจริงเพชรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมีหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น เหลือง เขียว ฟ้า ชมพู ไปจนถึงสีแดง โดยเพชรเหล่านี้มีมูลค่าสูงกว่าเพชรขาว เพราะเป็นเพชรหายาก หากเทียบตามอัตราการขุด ถ้าเจอเพชรขาว 3,000 กะรัต จะมีเพชรสีอยู่แค่ 1-2 กะรัตเท่านั้น ฉะนั้นราคาจึงแพงกว่าไปโดยปริยาย อย่างเพชรสีแดงเป็นเพชรราคาสูงที่สุด นั่นคือ 100 ล้านบาทต่อ 1 กะรัต และไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด  แต่ต้องประมูลแข่งกันในงานโชว์เคสอัญมณีหายาก แม้กระทั่งเพชรสีฟ้า และสีชมพูที่หายากรองลงมา คนมักคิดว่าจะซื้อได้ในราคา 200,000 บาท ต่อ 1 กะรัตเท่าเพชรขาว แต่ความจริงมูลค่าสูงกว่านั้น

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Gemholic จึงเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับเพชรสีผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง ทั้งบทความบนเว็บไซต์ รวมถึงโพสต์ต่างๆ บนแพลตฟอร์มอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ค โดยคอนเทนต์ทั้งหมดปันเป็นคนเขียน และเรียบเรียงเองกับมือ ซึ่งเราเน้นเนื้อหาให้กลับมาอ่านได้อยู่เสมอ เช่น เพชรแฟนซีคืออะไร สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเพชรสี และระดับความเข้มของสีของเพชรแฟนซีตามมาตรฐาน GIA มีกี่ระดับ ทำให้จากเมื่อก่อนที่เพชรแฟนซีไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในเมืองไทย กลับกลายเป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมในวงกว้างพอๆกับเพชรสีขาว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จของเราค่ะ” (ยิ้ม)

“นอกจากให้ความรู้เกี่ยวกับเพชรสีแล้ว Gemholic มีปณิธานที่แน่วแน่ว่าจะไม่มุ่งเน้นเพื่อปิดการขายอย่างเดียว แต่เราจะให้ลูกค้าทำความเข้าใจก่อน เช่น บางคนอาจไม่มีความรู้เรื่องเพชรสีเลย เราก็จะให้เวลาเขาศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลทั้งจากเว็บไซต์ของแบรนด์หรือแหล่งที่น่าเชื่อถือต่างๆ เพื่อให้เขาเข้าใจอย่างแท้จริงว่า สินค้าที่กำลังจะได้มาแลกกับเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าจริงๆ สิ่งนี้จึงทำให้ Gemholic เป็นรายชื่ออันดับต้นๆของประเทศไทยที่คนนึกถึงว่า ซื้อเพชรสีจากที่นี่แล้วสบายใจ”

คุณภาพควบคู่ดีไซน์

“เพชรสีของเราส่วนใหญ่มีใบรับรองจากสถาบัน GIA (Gemological Institute of America) ดังนั้นคุณสมบัติต่างๆ และคุณภาพของเพชรได้ถูกการันตีโดย GIA ทำให้ลูกค้าสามารถวางใจได้ว่าจะได้คุณภาพตามที่กำกับไว้อย่างชัดเจน”

“ในกรณีที่ลูกค้าไม่ต้องการซื้อสินค้าในราคาสูง เราก็มีเพชรที่ไม่มีใบรับรองเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นเพชรธรรมชาติ ไม่ใช่เพชร CVD (Chemical Vapor Deposition) หรือเพชร Lab-Grown ที่ถูกสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ รวมถึงเพชร HPHT (High Pressure High Temperature) ที่ผ่านความร้อน และแรงดันสูงเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และสี โดยส่วนใหญ่เพชรของ Gemholic จะถูกขุดมาจากแหล่งประเทศในทวีปแอฟริกา และออสเตรเลีย ก่อนถูกส่งมาเจียระไนที่เบลเยียม อิสราเอล และอินเดีย”

“ส่วนเรื่องการขึ้นตัวเรือน Gemholic ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก มาตรฐานการขึ้นตัวเรือนของเรานั้นเป็นระดับสากล ระดับเดียวกับแบรนด์จิวเวลรี่ระดับโลก ตัวเรือนต้องหนา แต่ไม่เทอะทะ แต่ก็ต้องไม่บางจนให้ความรู้สึกก๊องแก๊ง สัมผัสต้องรู้สึกหรูหรา ที่สำคัญดีเทลต้องละเอียด ละมุน และงานต้องเรียบร้อย นอกจากนี้ดีไซน์ยังมีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร และเน้นความอลังการ”

กุญแจความสำเร็จ

“เรื่องธรรมดาของการทำธุรกิจคือ มันมีทั้งวันที่ขายดี และมีวันที่ขายไม่ดี สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกไม่ว่าจะเป็น โรคระบาด สงครามกลางเมือง สงครามการค้า ความไม่แน่นอน และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความมั่นใจของผู้บริโภค หลายคนที่เจอเหตุการณ์เหล่านี้อาจถอดใจจนปิดตัวธุรกิจแล้วรอให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาทำใหม่เพราะไม่ต้องการแบกรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ในทางกลับกันปันกลับมองว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดีหรือร้าย ความสม่ำเสมอ และการไม่หยุดพยายามเป็นสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเราได้ไปต่อ ในวันที่ขายดี หาเงินได้ก็อย่าเอาเงินไปใช้นอกระบบ ใช้เท่าที่จำเป็น เก็บเงินไว้เผื่อวันที่ขายของไม่ได้ ส่วนในวันที่ขายของไม่ได้ก็อย่าตกใจ และอย่าถอดใจ ทำงานให้หนักยิ่งกว่าเดิม ที่สำคัญต้องรู้จักคิดบวก และเรียนรู้ที่จะรักษาหัวใจตัวเองเวลาเจออุปสรรค และเดินหน้าต่ออย่างเดียว หากเราถอดใจ และถอยหลังกลับในวันที่เราเจอปัญหา อีกปีสองปีเศรษฐกิจกลับมาดีตอนนั้นเราจะกลับมายากแล้ว มีคนมาแทนที่เราแล้ว ธุรกิจมันคือเกมๆ หนึ่งที่ต้องเดินกันยาวๆ ไม่มีพื้นที่ให้คนอ่อนแอ”

อาณาจักร Gemholic

“ร้านเพชรไม่ใช่กิจการของครอบครัวที่ส่งต่อจากคุณพ่อคุณแม่ แต่เป็นธุรกิจที่เราเริ่มจากความฝันที่อยากประสบความสำเร็จ บวกกับการเห็นช่องว่างของวงการจิวเวลรี่ในประเทศไทยที่ยังไม่ค่อยคนรู้จักเพชรแฟนซี และในตอนนั้นยังไม่มีคู่แข่งมากนัก เราจึงเริ่มจากการขายออนไลน์ เน้นซื้อมาขายไป จากนั้นเก็บหอมรอมริบจนครบหนึ่งปีก็ขยับขยายมาเปิดหน้าร้านใจกลางสุขุมวิท – อโศก ที่ศูนย์การค้า Terminal 21 แต่ด้วยความทะเยอทะยาน ปันจึงไม่อยากหยุดอยู่ตรงนี้ เราวางเป้าหมายใหม่อีกครั้งว่า อยากมีตึกเพชรแฟนซีบนที่ดินของตัวเอง จนผ่านมาได้สี่ปีที่มีหน้าร้าน และทุกอย่างเริ่มลงตัว เราก็ลุยแผนที่วางไว้ทันที เริ่มหาจากทรัพย์ธนาคารที่ลงประกาศขาย ตระเวนขับรถไปหลายที่ จนมาเจอตึกที่สุขุมวิท 71 เป็นธนาคารเก่าที่กำลังรื้อถอน ด้วยโลเคชั่นติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก และไม่อยู่นอกเมืองเกินไป จึงจัดสินใจซื้อทันที และสร้าง Flagship Store ของ Gemholic ขึ้นมาภายในระยะเวลาหนึ่งปีกว่า

“แน่นอนว่า อุปสรรคระหว่างการก่อสร้างเกิดขึ้นเยอะมาก แต่เรื่องที่ปันกังวลเป็นพิเศษคือ เราเป็นผู้อาศัยใหม่ในละแวกนี้ ขณะที่เพื่อนบ้านอยู่กันมาหลายสิบปีแล้ว ฉะนั้นเราต้องเข้าหาเขาอย่างอ่อนโยน และละมุนละม่อม อย่างก่อนเริ่มก่อสร้าง ปันซื้อขนมมาฝากลุง ป้า น้า อาที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง พร้อมขอโทษ และบอกพวกเขาล่วงหน้าไว้เลยว่า จะมีการก่อสร้างตึกเกิดขึ้น อาจมีเสียงดังรบกวน ถ้าผู้รับเหมามีการกระทบกระทั่งสามารถบอกเราได้ทันที ทุกอย่างจึงผ่านไปอย่างราบรื่น”

“ปัจจุบัน Flagship Store ของ Gemholic เปิดให้บริการมาได้ 6 เดือน หากเทียบกับหน้าร้านที่ Terminal 21 แล้ว ที่นี่มีความเป็นส่วนตัว และพื้นที่รับรองมากกว่า ลูกค้าที่มาก็จะได้รับความสะดวกสบาย ขณะเดียวกันเราก็ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น หากลูกค้าอยากเข้ามาชมเพชร ต้องนัดเวลาล่วงหน้า พร้อมแจ้งรายละเอียดของรถ และเลขทะเบียนรถเอาไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการดูแลอย่างรัดกุม”

“แม้ตึกนี้เป็นความภาคภูมิใจที่ Gemholic ก้าวไปอีกขั้น แต่เราก็ยังคอยมองหาโอกาสการเติบโตตลอด ในอนาคตก็มีแพลนสำหรับจัดงานโชว์เคสเพชรแฟนซีสีร่วมกับคู่ค้าจากต่างประเทศ เหมือนเป็นการขยายตลาดเพชรสีให้ใหญ่ และเข้าถึงง่ายมากขึ้น”

Another Side…

“สำหรับความสำเร็จที่ Gemholic เติบโตมาขนาดนี้ ขอยกเครดิตส่วนหนึ่งให้คุณพ่อ ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ท่านจึงปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่าการบริหารธุรกิจมักมีอุปสรรคให้คอยแก้ปัญหาตลอด จงอดทน อย่ายอมแพ้ แล้วทุกอย่างจะผ่านไป

“อีกคนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ สามี คุณซี – นพ.กุรุวินท์ ลิ้มสมุทรเพชร (รังสีแพทย์ประจำ รพ.บำรุงราษฎร์) ด้วยนิสัยส่วนตัว เขาเป็นคนอ่อนโยน เวลาที่มีเรื่องร้อนใจ เขาจะให้คำปรึกษาอย่างใจเย็น ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้เราสบายใจมากขึ้น”

คุณซีเสริม “ฟังดูแล้วอาจดูเหมือนเราต่างกัน อย่างเขาเป็นคนเร็ว ผมอาจทำอะไรช้าหน่อย แต่เรามีหลายอย่างที่เหมือนกันมาก ทั้งชอบไปเที่ยว ตระเวนหาร้านอาหารรสเด็ด ที่สำคัญเราค่อนข้างเรียบง่ายครับ เหมือนงานแต่งงานในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราให้โจทย์กับออแกไนเซอร์ว่าธีมงานเป็นสีขาว ผสมความแวววาว ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์เพชรสีซึ่งธุรกิจของคุณปัน จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นแบบ เราสองคนชอบและตอบตกลงทันที ไม่มีแก้เลยครับ” (หัวเราะ)

คุณปันเสริมต่อ “พวกเราเรียบง่ายแม้กระทั่งพิธีการค่ะ เรากระชับเวลางานให้สั้นที่สุด ไม่มีเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เราอยากให้ทุกคนมาเป็นแขก แล้วร่วมสนุกด้วยกันมากกว่า พิธีโยนดอกไม้ก็เปลี่ยนเป็นจับฉลากแจกเพชร 3 รางวัลให้กับแขกในงาน ถือเป็นกิจกรรมสร้างความตื่นเต้นภายในงาน ส่วนชุดเจ้าสาว ปันมีเพียงหนึ่งชุดค่ะ เป็นชุดที่ได้มาจากห้องเสื้อดีไซเนอร์ชาวอินโดนีเซีย เราเห็นว่าผลงานของเขาเป็นงานปักที่มีความละเอียด อลังการ และไม่เหมือนใคร ที่สำคัญปันชุดเจ้าสาวปันสีฟ้าค่ะ”

“ในวันที่เครียดก็มีเขาอยู่ข้างๆ ซึ่งอนาคตก็อยากให้เขาเป็นหน่วยซัพพอร์ตจิตใจแบบนี้ต่อไป ไม่คาดหวังให้เขามาแบ่งเบาปัญหาในธุรกิจ เพราะแต่ละคนก็มีความถนัดที่แตกต่างกัน เขาเป็นคุณหมอเราก็อยากให้เขาประสบความสำเร็จ และไปให้สุดในสายอาชีพของเขา แค่คอยอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจ คอยมาแชร์วันสนุกๆ ด้วยกันก็เพียงพอแล้ว” (ยิ้ม)


Praew Recommend

keyboard_arrow_up