cover 51 Avenue

51 AVENUE สัมผัสวัฒนธรรมการดื่มชาอย่างลึกซึ้ง พร้อม Spill Your Tea & Spend Your Time

cover 51 Avenue
cover 51 Avenue

Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว ขอพาไปพูดคุยกับ “คุณท็อป – ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี” และ “คุณโอปอล์ – ปานหทัย สมรรถศรบุศย์” คู่รักเจ้าของทีซาลอนสุดฮ็อต 51 AVENUE ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Spill Your Tea เพื่อให้คุณได้ Spend Your Time อย่างมีคุณภาพ ขึ้นแท่นพิกัดสุดฟินที่คนรักชาห้ามพลาด! สายคาเฟ่ต้องไป! หรือใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่แบบเอ็กซ์คลูซีฟ รับรองว่าที่นี่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน

เปิดโลกวัฒนธรรมการดื่มชา

คุณท็อป : “จุดเริ่มต้นของ 51 AVENUE มาจากความชอบที่ตรงกันของผมและเพื่อนสนิท คือคุณพิมพ์ (พิมพ์ชนก สุภัทรพันธุ์) ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเรียนด้วยกันที่อังกฤษ เริ่มจากคุยกันว่าอยากทำร้านอาหารสไตล์คาเฟ่บรรยากาศดีๆ เพื่อเป็นสถานที่สำหรับการพบปะสังสรรค์หรือใช้เวลาร่วมกัน ด้วยความที่พิมพ์มีโรงงานผลิตชา มีแบรนด์ชาพรีเมียมที่ส่งขายต่างประเทศ ส่วนผมชอบดื่มชา ชอบวัฒนธรรมการดื่มชาที่มีรายละเอียดลึกซึ้ง ผมมองว่าการดื่มชาเป็นการเปิดโลก ซึ่งหมายถึงการค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร ถือเป็นรายละเอียดของการใช้ชีวิต 51 AVENUE จึงออกมาในคอนเซ็ปต์ของทีซาลอนที่สะท้อนตัวตนของผมและพิมพ์ พอสรุปเรื่องคอนเซ็ปต์กันเรียบร้อย ผมก็นึกถึงโอปอล์ขึ้นมาเลย คิดว่าเขาน่าจะชอบ เลยชวนมาทำด้วยกันครับ

“แม้ที่นี่จะเริ่มต้นมาจากชา แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่มาที่นี่จะต้องดื่มชาเท่านั้นนะครับ ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มเมนูอื่นๆ ด้วย เช่น กาแฟ ช็อกโกแลต พวกขนมต่างๆ ก็มีหมด ไม่ว่าจะเป็นเค้ก มาการอง หรือสโคน รวมถึงยังมีอาหารคาวที่เราพยายามสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เรียกว่าฝากท้องกันได้เลย เพราะจริงๆ แล้วคอนเซ็ปต์ของที่นี่คือการเป็นสถานที่ที่ให้คนมา Spill Your Tea ซึ่งเป็นศัพท์แสลงในภาษาอังกฤษ หมายถึงมาคุยกัน มาเม้าท์กัน 51 AVENUE จึงเป็นสถานที่สำหรับนั่งสบายๆ คุยกันชิลๆ และฝากท้องได้

“เรื่องสำคัญอย่างการตกแต่งร้าน ก็เป็นไอเดียมาจากตัวตนและความชอบของผมและเพื่อนเช่นกันครับ ด้วยความที่เราโตมาด้วยกันที่อังกฤษ ไฮไลต์ของร้านจึงเป็นต้นแมกโนเลียที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตของเรา เพราะถ้าใครไปอังกฤษก็จะเห็นต้นแมกโนเลียอยู่เต็มริมถนน ขณะเดียวกันต้นแมกโนเลียยังสะท้อนถึง 51 AVENUE อีกด้วย เพราะอยู่ในสายพันธุ์เดียวกันกับต้นชา ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่มีชาแมกโนเลียด้วยครับ”

ฟินกับชามากกว่า 200 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลก

คุณท็อป : “เราคัดสรรชาเอาไว้ที่นี่มากกว่า 200 ชนิด เรียกว่ามีให้เลือกหลากหลายมากจากทั่วทุกมุมโลก เพราะจริงๆ แล้ววัฒนธรรมการดื่มชาไม่ได้มีแค่อาฟเตอร์นูนทีแบบอังกฤษ ยังมีแบบเยอรมัน แบบออสเตรีย แบบจีน แบบญี่ปุ่น รวมถึงยังมีวัฒนธรรมการดื่มแชมเปญคู่กับชาตอนบ่าย ซึ่งที่นี่มีครบเลยครับ

“นอกจากนี้เรายังมีชารูปแบบใหม่ๆ ที่ครีเอตจากชาร้อน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเรา โดยนำมาสร้างสรรค์เป็นชาเย็นแบบลักซ์ชัวรี่หลากหลายรสชาติ เช่น ชายูซุ ชาโรสลิ้นจี่ ชาลาเต้ อีกทั้งยังมีเจลลี่ที่ทำจากชาสำหรับเคี้ยวกรุบๆ คู่กับชา เพื่อเอาใจคนที่ชอบชาไข่มุก รวมถึงยังมีชาค็อกเทลที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม และชาที่ไม่ใส่คาเฟอีนสำหรับเด็กๆ หรือคนที่แพ้คาเฟอีน โดยทุกเมนูของเราไม่เพียงใส่ใจแค่เรื่องรสชาติ แต่ยังลงดีเทลเรื่องกลิ่นเป็นพิเศษอีกด้วย ส่วนอีกเรื่องที่เราให้ความสำคัญคือการเลือกกาน้ำชาให้เหมาะกับชาแต่ละชนิด เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นการดื่มชาที่นี่จึงเป็นการเปิดประสบการณ์พิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น”

คุณโอปอล์ : “ชาของ 51 AVENUE โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมๆ ที่สัมผัสได้ และความหลากหลายที่จะเป็นประสบการณ์ใหม่ให้กับคุณได้เสมอ ซึ่งชาแต่ละชนิดมีความหอมแตกต่างกันไป โดยเราพยายามคัดสรรมาให้ครบแบบครอบคลุมที่สุด ดังนั้นนอกจากการเปิดประสบการณ์ให้กับตัวเองแล้ว ชาของที่นี่ยังเหมาะสำหรับเป็นของขวัญ ของฝากอีกด้วย ถือเป็นการเปิดประสบการณ์พิเศษให้กับคนที่รัก หรือใครที่ไม่ถนัดดื่มชาก็สามารถมาที่นี่ได้ เพราะเราช่วยแนะนำได้ค่ะ”

คัดสรรความอร่อยอย่างพิถีพิถัน

คุณท็อป : “อย่างที่เล่าให้ฟังว่าทุกคนสามารถฝากท้องกับที่นี่ได้เลย เพราะนอกจากชาแล้ว ยังมีอีกหลากหลายเมนูอาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่งทุกเมนูเราคัดสรรตั้งแต่วัตถุดิบ เลือกใช้ของดี หลายเมนูที่เราใส่เห็ดทรัฟเฟิลลงไป อย่างพวกขนมก็จะตกแต่งด้วยทองคำ ส่วนเรื่องสำคัญอย่างรสชาติ เราก็ชิมเองทั้งหมด เพื่อปรับสูตรให้ลงตัวที่สุด

“บางเมนูก็มาจากความชอบของเราเองครับ ยกตัวอย่าง Panini ที่ผมชอบทาน แต่หาแบบที่อร่อยถูกใจได้ยากในเมืองไทย เราก็ครีเอตสูตรเฉพาะออกมาเป็น Panini อกไก่ใส่แครนเบอร์รี่และชีส อย่างโอปอล์ชอบทาน French Toast ที่นี่จึงมีหลากหลายแบบให้เลือกเลยครับ ส่วนเมนูเบสิกๆ อย่างพาสต้าและสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า สูตรของเราก็อร่อยไม่เหมือนใคร รับรองว่าหาทานรสชาติแบบนี้จากที่อื่นไม่ได้อย่างแน่นอน หรือใครที่เป็นสายคลีนก็สามารถมาที่นี่ได้ เพราะขนมของเราไม่ได้หวานมาก แต่เป็นความหวานแบบกำลังดีที่ถือเป็นความลักซ์ชัวรี่”

คุณโอปอล์ : “นอกจากชาจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว อาหารเช้าของเราก็จัดเต็มเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น English Breakfast หรือ Greek Breakfast เรียกว่ามีเมนูอาหารเช้าจากทั่วทุกมุมโลก เพราะปอเป็นคนที่ชอบทานอาหารเช้ามาก จึงนำไอเดียมาปรับใช้ในการครีเอตเมนูต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงเรายังเสิร์ฟความอร่อยแบบ All Day บางคนคิดว่าถ้ามาที่นี่จะต้อง Afternoon Tea เท่านั้น แต่ความจริงแล้วเรามีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เริ่มตั้งแต่ Breakfast จนถึง Dinner คือทุกคนสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยค่ะ

“ส่วนอีกเมนูที่ขอแนะนำคือสโคน ถือเป็นเมนูฮิตเลยค่ะ ลูกค้าชื่นชอบกันมากๆ จนกลายเป็นกระแสที่เกิดจากการบอกต่อกันแบบปากต่อปาก หลายคนถึงขั้นซื้อกลับบ้านกันเลยทีเดียว ทั้งทานเองและเป็นของฝาก เห็นแล้วก็ปลื้มใจที่หลายคนเอ็นจอยกับขนมของเราขนาดนี้”  

พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ

คุณโอปอล์ : “ถ้าถามถึงกระแสตอบรับจากลูกค้า ก็ถือว่าดีมากเลยค่ะ หลายคนติดใจชา ชอบที่ได้ลองรสชาติและกลิ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะเรามีชามากกว่า 200 ชนิด เรียกว่ามาซ้ำหรือมาลองของใหม่ได้ตลอด หลายคนชอบรสชาติของขนมและอาหารที่อร่อยไม่ซ้ำใคร หลายคนชอบบรรยากาศของร้านที่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย ให้อารมณ์เหมือนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเราพยายามครีเอตไอเดียใหม่ๆ อย่างล่าสุดก็มีมุมถ่ายรูปข้างนอกร้านแล้ว ขอบอกเลยว่าแสงสวยมาก ถูกใจสาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปแน่นอน”

คุณท็อป : “แม้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราจึงไม่หยุดพัฒนาครับ เราพยายามสร้างสรรค์และปรับเปลี่ยนตาม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด เช่น ทำเมนูใหม่ๆ ทำเมนูพิเศษตามเทศกาล ที่สำคัญคือพยายามทำให้ 51 AVENUE เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ทุกคน ไม่ว่าใครก็สามารถมานั่งชิลหรือนั่งทำงานที่นี่ได้ จะมากับเพื่อนหรือครอบครัวก็ได้ เพราะเราอยากให้ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับการใช้เวลาร่วมกัน เป็นสถานที่ที่สร้างความสุขให้กับคนทุกเพศ ทุกวัย”

บทบาทคู่รักนักธุรกิจ

คุณท็อป : 51 AVENUE ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในความสัมพันธ์ของผมและโอปอล์ครับ คือเราคบกันบนพื้นฐานของความไม่คาดหวัง เพราะโดยธรรมชาติผมเป็นคนคาดหวังกับทุกอย่างในชีวิต คราวนี้ก็เลยบอกตัวเองและบอกเขาด้วยว่าไม่ต้องคาดหวังนะ แต่เราจะเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน เพราะผมมองว่าความคาดหวังเป็นเหมือนโปรโมชั่น ซึ่งทำให้เราไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน

“ดังนั้นการทำธุรกิจร่วมกันสำหรับเราสองคน จึงเป็นเหมือนอีกหนึ่งบทเรียนของความสัมพันธ์ ทำให้เราได้เรียนรู้กัน เติบโตไปด้วยกัน เราไม่ได้หวังว่าจะต้องได้เงินเท่าไหร่จากตรงนี้ แต่เราหวังการเติบโตในมุมของความสัมพันธ์มากกว่าครับ

“อีกทั้งผมยังมองว่าความรักก็คล้ายการทำธุรกิจ เพราะความรักย่อมมีทั้งมุมที่ดีและไม่ดี ต้องเจอปัญหาบ้าง ความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง เพื่อให้เกิดการปรับจูนกันและกัน ส่วนในการทำธุรกิจก็ย่อมต้องเจอปัญหา ซึ่งจะเป็นบทเรียนให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ เหมือนกับความรักนั่นเอง ซึ่งหากเรายอมรับได้ ไม่คาดหวัง เข้าใจกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความรักก็จะเติบโตต่อไปได้ครับ”

คุณโอปอล์ : “การทำธุรกิจร่วมกันทำให้ได้ค่อยๆ เรียนรู้กันไป เราเรียนรู้จากเขา เขาเรียนรู้จากเรา ส่วนความไม่คาดหวังในมุมมองของโอปอล์ คือไม่คาดหวังว่าใครจะต้องเก่งเหมือนใคร เพราะไม่มีใครที่เก่งทุกอย่าง หากใครเก่งเรื่องอะไรหรือถนัดตรงไหนก็ไปทำตรงนั้น ต้องแชร์กัน ต้องช่วยกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีต่อกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาลงตัวที่สุดในแบบของเราค่ะ”

51 AVENUE

โครงการ Velaa Sindhorn Village ถนนหลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

โทร. 06-2446-2422

Facebook : 51 AVENUE

Praew Recommend

keyboard_arrow_up