หากสาวๆ กำลังมองหารองเท้าคู่ใจ ที่ทั้งใส่สบายและใส่สวย เชื่อว่ารองเท้าที่ผสมผสานหลักสรีรศาสตร์และแฟชั่นเข้าด้วยกันอย่าง La Bella จะต้องเป็นหนึ่งในแบรนด์อันดับต้นๆ ที่สาวๆ ลิสต์เอาไว้ในใจอย่างแน่นอน Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาไปพูดคุยกับ 2 ผู้บริหารหญิงเก่งแห่ง La Bella ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อนซี้ที่มีแพชชั่นเดียวกัน “คุณแอน – ดร. บรินดา แฮนเซ่น” นักการตลาดออนไลน์ระดับท็อปของเมืองไทย และ “คุณนุช – พิรีพรรณ อนุพงษ์ไพบูลย์” นักธุรกิจสาวที่คลุกคลีอยู่ในวงการเครื่องหนังอย่างยาวนาน เพื่อเจาะลึกถึงเรื่องราวการปลุกปั้นแบรนด์จนประสบความสำเร็จแบบสุดปัง และความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์รองเท้าคุณภาพคับแก้ว ที่ขึ้นชื่อว่าใส่สบายบนความสวย จนขึ้นแท่นรองเท้าลูกรักของสาวๆ เพราะใส่แล้วติดใจจนต้องมีติดตู้

สตาร์ทจากแพชชั่น
คุณแอน : “จุดเริ่มต้นของ La Bella มาจากความตั้งใจของเราสองคน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่ทำธุรกิจด้วยกันอยู่แล้ว เรามีแพชชั่นร่วมกันว่า อยากทำรองเท้าที่ใส่สบาย ไม่ใช่แค่ใส่สวยหรืออินเทรนด์แฟชั่นอย่างเดียว แต่ต้องใส่สบายในระดับเดียวกับรองเท้าสุขภาพเลย อยากให้ทุกคนมั่นใจว่า ถ้าเป็นรองเท้าของแบรนด์นี้ ใส่สบายทุกคู่ ทุกรุ่นแน่นอน เพราะส่วนตัวแอนเป็นคนผิวบาง รองเท้ากัดง่าย พอปรึกษานุช จึงเกิดไอเดียกันว่า คงจะดีถ้าเราสามารถสร้างสรรค์รองเท้าที่ใส่สบายจริงๆ มาแก้ปัญหานี้ได้”
คุณนุช : “นับตั้งแต่วันนั้นจนมาถึงวันนี้ La Bella ใกล้จะเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ทุกความสำเร็จเกิดจากการช่วยกันของเราสองคน อย่างเรื่องการบริหารธุรกิจ เราจะปรึกษากัน ช่วยกันคิด ช่วยกันทำเสมอ แต่จะแบ่งหน้าที่หลักออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนของโปรดักต์ที่นุชเป็นคนดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งเรื่องดีไซน์ เลือกวัสดุ จนถึงทดลองใส่ด้วยตัวเอง อีกส่วนที่สำคัญมากๆ คือมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งแอนเป็นคนจัดการ เพราะเขาเชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ มีประสบการณ์สูงมาก เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจดังๆ เยอะเลยค่ะ”

Key to Success 1 : Winning Product
คุณแอน : “แนวคิดของเราคือเริ่มต้นจากการไล่ล่าคุณภาพของสินค้าให้ดีที่สุดก่อน แล้วความสำเร็จเชิงธุรกิจจะตามมาเอง ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้าง Winning Product และการสื่อสารกับลูกค้าอย่างจริงใจ โดย Winning Product ของเราจะยึดคอนเซ็ปต์การเป็นรองเท้าที่ใส่สบายจริงๆ จนทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าใส่แบรนด์ไหนๆ ก็ไม่สบายเท่านี้ ต้องกลับมาซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งจากโจทย์นี้เราจึงศึกษาหลักสรีรศาสตร์ที่ใช้ในรองเท้าสุขภาพ แล้วนำมาผสมผสานกับเทรนด์แฟชั่น เพื่อทำให้ La Bella เป็นรองเท้าที่ทั้งใส่สบายและใส่สวย จนกลายเป็น Winning Product ที่ดีที่สุดในตลาด และขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งที่แตกต่าง
“โดยในขั้นตอนการไล่ล่าคุณภาพของสินค้าให้ดีที่สุด นุชถือเป็นหัวเรือใหญ่ เพราะครอบครัวนุชเขาอยู่กับธุรกิจเครื่องหนังมายาวนานกว่า 20 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณแม่ ดังนั้นเขาจึงสามารถเลือกสรรและเสาะหาแมททีเรียลที่ดีที่สุดมาได้ เวลามีงาน Exhibition เกี่ยวกับเครื่องหนังที่ต่างประเทศ นุชจะเดินทางไปตลอด อย่างงานที่อิตาลี นุชจะไปทุกปี ตรงนี้ถือเป็นความโชคดีของ La Bella ที่เป็นการต่อยอดธุรกิจจากที่ครอบครัวนุชเขาถนัดอยู่แล้ว ทำให้เราได้ใช้แมททีเรียลที่ดีไม่แพ้แบรนด์ระดับโลก ทั้งหนังแบบต่างๆ และวัสดุซับแรงกระแทกที่จะช่วยในการเดิน โดยจุดยืนของเราคือการคำนึงเรื่องคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง หมายความว่าเราจะไม่ยอมลดคุณภาพของสินค้า เพื่อลดต้นทุนอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้นุชยังศึกษาหลักสรีรศาสตร์ที่ใช้ในรองเท้าสุขภาพ เพื่อค้นหาว่ารองเท้าแบบไหนที่ใส่แล้วเดินสบาย ไม่กัด ไม่เจ็บ ไม่เมื่อย รวมถึงดีไซน์รูปลักษณ์ให้แตกต่างจากรองเท้าสุขภาพทั่วไป คือมีความแฟชั่น ใส่ออกมาแล้วสวย ช่วยให้เท้าดูเรียว และแมตช์กับลุคต่างๆ ได้ง่าย”
คุณนุช : นอกจากที่แอนเล่าไป ในขั้นตอนการสร้างสรรค์รองเท้าทุกรุ่นของ La Bella นุชยังทดลองใส่เดินเยอะๆ ด้วยตัวเองก่อนที่จะปล่อยสินค้าออกไปขายเสมอ อย่าง Demo คู่แรก นุชใส่เดินเที่ยวดิสนีย์แลนด์ไปประมาณสองหมื่นกว่าก้าว ปรากฏว่าไม่เมื่อย ไม่กัดเลย ตอนนั้นรู้สึกใจฟูมาก ดีใจที่การสร้าง Winning Product ของเรามาถูกทางแล้ว”

Key to Success 2 : Sincere Marketing การตลาดแบบจริงใจ
คุณแอน : “ส่วนในการสื่อสารกับลูกค้า La Bella สื่อสารผ่านคาแร็คเตอร์ของแบรนด์ นั่นคือ Sincere หรือความจริงใจ ถ้าเปรียบ La Bella เป็นคนๆ หนึ่ง เรานิยามให้เป็นผู้หญิงนิสัยดี เฟรนด์ลี่ จริงใจ ซึ่งสะท้อนผ่านทุกอย่างที่เราสื่อสารถึงลูกค้า ตั้งแต่รูปถ่ายที่ดูสะอาดตา แคปชั่นเชิญชวนอย่างเป็นกันเองและจริงใจ ไปจนถึงการพูดคุยกับลูกค้าของแอดมินที่ได้รับคำชมเยอะมาก เพราะการเทคแคร์ที่ดีทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ของเรา ดังนั้นคาแร็คเตอร์ของแบรนด์จึงถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงทำให้การซื้อขายรองเท้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น
“กลยุทธ์ Sincere Marketing ของเราอีกอย่าง คือรีวิวที่มาจากความรู้สึกจริงๆ ของผู้สวมใส่ที่เป็นคนมีชื่อเสียง เช่น คุณแอฟ-ทักษอร คุณพอลล่า เทเลอร์ รวมถึงพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุดอย่างคุณคิมเบอร์ลี่ แอนน์ โวลเทมัส ที่มาบอกเล่าความใส่สบายแบบไม่มีสคริปต์ เราใช้วิธีถามความรู้สึกว่าใส่ La Bella แล้วประทับใจอะไร แล้วให้เขาเล่าไปตามธรรมชาติ ซึ่งทุกท่านจะพูดตรงกันว่า ใส่แล้วรู้สึกนุ่มเท้าและสบายมากๆ บางท่านพูดออกมาเองว่า ไม่เคยใส่รองเท้าอะไรสบายขนาดนี้ โดยเราเชื่อว่าสมัยนี้ลูกค้าดูออกว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือคำโฆษณา ซึ่งความเป็นธรรมชาตินี้เองเป็นความจริงใจที่ลูกค้าสัมผัสได้ และนำไปสู่การเปิดใจให้กับรองเท้า La Bella”

ยืนหนึ่งตลาดออนไลน์
คุณแอน : “หลายคนถามว่า ทำไมเราถึงขายรองเท้าออนไลน์ ด้วยความที่แอนเป็นนักการตลาดออนไลน์ มีประสบการณ์ในธุรกิจออนไลน์กว่า 10 ปี จากสิ่งที่เจอกับตัวเอง ทำให้แอนเชื่อว่าตลาดออนไลน์จะเติบโตโตมากในเมืองไทย บวกกับการขายออนไลน์มีข้อดี คือไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดหน้าร้าน ทำให้เราสามารถขายของที่มีคุณภาพดีเกินราคาไปไกลมาก ซึ่งแอนเชื่อว่าถ้าเราส่งการสื่อสารที่ดีไปถึงลูกค้าได้ ช่องทางออนไลน์ถือเป็นตลาดที่เหมาะกับยุคนี้
“สำหรับกระแสตอบรับในช่วงแรก ถือว่าดีเกินคาด เกิดการซื้อครั้งแรก เกิดการบอกต่อ และเกิดการซื้อซ้ำ ยอดขายโตเร็วมาก ทำให้เจอปัญหาเยอะทีเดียว เช่น แอดมินรับออเดอร์ไม่ทัน สินค้า Sold Out ไวมาก สินค้าขาดตลาด ซึ่งเราถือว่าเป็น Happy Problem ที่ทำให้เราเรียนรู้และพัฒนาให้ดีขึ้นค่ะ”
คุณนุช : “อีกสิ่งหนึ่งที่เราใส่ใจกันมากๆ ในการขายรองเท้าออนไลน์ คือการสร้างความมั่นใจและความสบายใจให้กับลูกค้า เพราะบางคนอาจไม่ไว้ใจการซื้อรองเท้าออนไลน์ เราจึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เขา หากลูกค้าไม่ถูกใจสินค้า หรือหากลูกค้าเจอปัญหาซื้อผิดไซส์ เราก็มีใบเปลี่ยนสินค้าไปให้ทุกออเดอร์ หรือกรณีที่ลูกค้าอยากลองสินค้าก่อน ในช่วงแรกๆ เรามีบริการส่งแมสเซนเจอร์ไป ทำให้ลูกค้าประทับใจมากๆ ส่วนปัจจุบันเราเปิดโชว์รูมที่ออฟฟิศแถวพระราม 2 เพื่อรองรับลูกค้าที่อยากมาลองสินค้า ซึ่งจะมีสินค้าทุกรุ่น และมีเคาน์เตอร์ที่สยามพารากอนด้วย ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก ลูกค้าแฮ็ปปี้สุดๆ ทั้งลูกค้าหน้าใหม่และเจ้าประจำ หากใครไม่มั่นใจ อยากลองก่อน ก็สามารถไปที่ช็อปได้เลย ส่วนลูกค้าทางออนไลน์ก็ยังเหนียวแน่น เพราะเขาเชื่อมั่นในแบรนด์ว่าใส่สบายจริง นุ่มจริง ดีจริง”

รุ่นยอดนิยม & คอลเล็คชั่นใหม่
คุณแอน : “ด้วยความที่เราทำธุรกิจนี้บนพื้นฐานความรักและความสุข โลโก้ของ La Bella จึงออกแบบเป็นรูปหัวใจที่มีขาเล็กๆ เพื่อสื่อความหมายว่า อยากให้ทุกคนใส่รองเท้าของเราแล้วรู้สึกรักในการก้าวเดิน มีความสุขกับการก้าวเดินออกไปใช้ชีวิต โดยเราเน้นดีไซน์แบบ Everyday Wear แล้วสร้างความโดดเด่นด้วยบัคเคิ้ลดีไซน์ต่างๆ มีทั้งสไตล์ Casual และ Elegance ที่ใส่ง่าย ใส่สวย เหมาะกับทุกโอกาส
“แต่ถ้าถามถึงรองเท้ารุ่นฮ็อตของ La Bella คงต้องยกให้กับ LB AMORE และ GISELA HEART ที่ถือเป็นรุ่นซิกเนเจอร์เลยก็ว่าได้ ซึ่งทั้งสองรุ่นมีกิมมิกที่สะท้อนความเป็น La Bella อย่าง LB AMORE ที่จะมีหัวใจเล็กๆ อยู่ในบัคเคิ้ล ส่วน GISELA HEART ก็จะดีไซน์บัคเคิ้ลเป็นรูปหัวใจอย่างสวยงาม”
คุณนุช : “สำหรับคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดคือ LB ELITE ที่มาพร้อมกับความใส่สบายเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือดีไซน์หรูหราขึ้น ซึ่งให้ความรู้สึก Elite และ Elegance โดยไฮไลท์ของคอลเล็คชั่นนี้คือเราได้เปิดตัว คุณคิมเบอร์ลี่ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย เพราะเธอถือเป็นลูกค้าตัวจริงที่ใส่รองเท้า La Bella จริงๆ แล้วชื่นชอบจริงๆ ซึ่งพอเรารู้ว่าเธอเป็นลูกค้าขาประจำ บวกกับสไตล์ของเธอที่สามารถสะท้อนอารมณ์ของคอลเล็คชั่นนี้ได้ดี เราจึงไม่ลังเลเลยที่จะยกตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์คอลเล็คชั่น Elite ให้กับผู้หญิงคนนี้”


เป้าหมายต่อไป
คุณแอน : “เราสองคนไม่เคยตั้งเป้ายอดขายให้กับ La Bella เราไม่ได้ใช้ตัวเงินเป็นเครื่องวัดความสำเร็จ แต่ใช้คุณภาพงานและความสุขในการทำธุรกิจเป็นเป้าหมาย โดยเป้าหมายของเราคือการที่ลูกค้าใส่รองเท้าของเราแล้วเดินสบายจริงๆ เพราะเราเชื่อว่าคุณภาพสินค้าที่ดีจะนำพาผลกำไรทางธุรกิจตามมาเองโดยธรรมชาติ มาถึงวันนี้เราถือว่า La Bella ไปไกลเกินเป้าหมายนั้นมากแล้ว สเต็ปต่อไปเราจึงคิดกันเอาไว้ว่า อยากเห็น La Bella ประสบความสำเร็จที่ต่างประเทศ ซึ่งคงทำให้เราสองคนรู้สึกฟินแบบสุดๆ เลยค่ะ”
