account_circleบริษัท ELITRYⓇ GROUP แบรนด์น้องใหม่ระดับ World Class โดยสองผู้บริหารเจนใหม่ Mr.Marino Konnyvong Chief Exponential Officer ของแบรนด์ และ Mrs.Phonethida Somsaath ตำแหน่ง Chief Strategy Officer โดยในปีหน้า ELITRYⓇ จะเปิดตัว 5 บริษัทน้องใหม่ ที่ตอบโจทย์ชีวิตครบทุกด้านทั้งสุขภาพ สกินแคร์ เครื่องสำอาง เครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ
สำหรับที่มาของชื่อ ELITRYⓇ ได้แรงบันดาลใจมากจากสองประโยคคือ
Elite หมายถึง ผู้ที่ดีพร้อม ส่วน Entry หมายถึง การเข้ามาสู่ โดยรวมแล้ว ELITRYⓇ จึงเป็นการนำเข้ามาสู่ การเป็นผู้ที่ดีพร้อม โดยทั้งสองผู้บริหารสร้างแบรนด์ด้วยความเชื่อที่ว่า
ทุกคนมีความดีพร้อมอยู่ในตัว ELITRYⓇ จึงเปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะพาคุณไปสู่จุดที่ดีที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่คุณต้องการจะเป็น เพื่อเผยสิ่งที่ดีสุดในตัวเอง
ชีวิตดี ต้องดีทุกด้าน
จุดเริ่มต้นแบรนด์ ELITRYⓇ เริ่มจากการเป็นผู้นำด้านเครื่องแต่งกายระดับพรีเมียม เป็นที่มาของการสร้างแบรนด์ THE MOVEⓇ จากนั้นก็ต่อ ยอดแนวคิดว่า จะทำให้ทุกคนดูดีขึ้นครบทุกด้านมากกว่านี้ได้อย่างไร? จากคำถามนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด 4 แบรนด์ลูกในเครือ ได้แก่ THE GLOWⓇ สกินแคร์บำรุงผิว THE SHINEⓇ เครื่องสำอาง THE LIFEⓇ ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ และ THE GLANCEⓇ เครื่องประดับ ตอบโจทย์ดูแลคุณทั้งภายในและภายนอก รวมเป็น 5 องค์ประกอบของ ELITRYⓇ
Beauty from Inside
เริ่มจากแบรนด์แรก THE LIFEⓇ ผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ เพื่อช่วยให้ชีวิตคุณสมดุล บำรุงสุขภาพให้แข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทาน ช่วยป้องกันคุณจากโรคร้ายและโรคเสื่อม ตามคอนเซปต์ของแบรนด์คือ ‘Attention to your life is a valuation of living’ เพราะเชื่อว่า ชีวิตของเราไม่สามารถตีค่าเป็นตัวเงินได้ เพราะฉะนั้นทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดคือ สุขภาพที่แข็งแรงและมีอายุยืนยาว แน่นอนว่า การป้องกันนั้นย่อมดีกว่าการรักษา
สิ่งที่ THE LIFEⓇ จะเข้าไปช่วยก็คือ การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย เพราะเมื่อคุณอายุมากขึ้น เซลล์ย่อมเสื่อมสภาพ ขณะเดียวกันก็จะเข้าไปช่วยเสริมสร้างในสิ่งที่ร่างกายขาดแคลน เนื่องจากร่างกายต้องการสารอาหารที่สำคัญและจำเป็น เพื่อใช้ในกระบวนการต่าง ๆ บางอย่างสามารถผลิตขึ้นเอง แต่บางอย่างก็ไม่สามารถผลิตเองได้ ถ้าคุณไม่ได้รับไปนานๆ ร่างกายจะไม่ได้สารอาหารครบถ้วน สุดท้ายคือ ช่วยป้องกันโรคร้ายย่อมดีกว่าการแก้ไขแน่นอน
แบรนด์ต่อมาคือ THE GLOWⓇ ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ได้คุณภาพในระดับมาตรฐานสากล ที่เข้าไปบำรุงผิวลึกถึงระดับเซลล์ เพื่อให้ผิวพรรณของคุณเปล่งประกาย มีออร่าอย่างแท้จริง ตามคอนเซปต์ ‘Glowing your skin into gorgeousness’
แม้ผิวพรรณของแต่ละคนจะมีความต่าง แต่คุณก็สามารถสวยในแบบของตัวเองได้ จะไม่ดีกว่าหรือถ้าคุณได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวพรรณ คุณสมบัติของ THE GLOWⓇ คือ ช่วยให้ผิวดูเด็กกว่าวัย สดใส ไร้ริ้วรอย และในยุคนี้ที่มลภาวะส่งผลต่อผิวพรรณ ทำให้ดูอ่อนล้า ระคายเคืองง่ายกว่าเดิม
THE GLOWⓇ จะเข้าไปช่วยลดความเสื่อมสภาพจากการถูกทำร้ายจากมลภาวะ สุดท้ายคือ ผิวคุณจะมีสีผิวสม่ำเสมอ แข็งแรง สวย สะดุดตาอย่างเป็นธรรมชาติ
Beauty from Outside
นอกจากการบำรุงจากข้างในแล้ว ความสวยจากภายนอกก็จะช่วยให้คุณดูดีขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่คนเราขาดไม่ได้ยุคนี้คือ เครื่องสำอาง ELITRYⓇ จึงสร้างแบรนด์ THE SHINEⓇ ขึ้นมา ซึ่งเป็นเมคอัพที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย มาพร้อมกับคอนเซปต์ ‘Shining your charm to prime identity’ ในโลกที่ทุกวันนี้ทุกคนสามารถเผยความงามในแบบของตนเองได้อย่างเท่าเทียม เครื่องสำอางจึงไม่ได้สร้างมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น แต่ทุกเพศ ทุกวัย สามารถใช้เครื่องสำอางในการปรับแต่งใบหน้าให้โดดเด่นมีเอกลักษณ์ได้
คุณสมบัติเด่นของ THE SHINEⓇ คือ เข้าไปปกปิดรูขุมขน ริ้วรอย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเมคอัพติดทนตลอดทั้งวัน ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมเนื้อผลิตภัณฑ์บางเบาสบายผิว ประหนึ่งเหมือนไม่ได้แต่งหน้า นอกจากนี้ยังมีสีสันที่โดดเด่น โดยเม็ดสีถูกออกแบบมาให้เข้ากับสีผิวของคนเอเชีย คุณจึงดูเป็นธรรมชาติ เผยผิวให้โดดเด้งกว่าเดิม ที่สำคัญคือ ยังมีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผ่านการทดสอบว่าปลอดภัย ไม่แพ้ หรือระคายเคืองง่าย
นอกจากเมคอัพแล้ว การแต่งกายยังบ่งบอกถึงบุคลิกและตัวตนของเราด้วย THE MOVEⓇ คือแบรนด์เครื่องแต่งกายที่มาพร้อมคอนเซปต์ ‘Move your life to thrive in your goal’ นี่เป็นสิ่งที่บอกเล่าแรงบันดาลใจของแบรนด์นี้ได้ดีที่สุด เพราะการเคลื่อนไหวนั้นขับเคลื่อนชีวิตของพวกเราขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อความสำเร็จเช่นเดียวกัน เพราะบุคลิกภาพที่ดี ส่งผลต่อความประทับใจได้ ซึ่งคุณจะมีบุคลิกที่ดีได้ ก็ต้องเกิดจากเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย มั่นใจ และสร้างเอกลักษณ์ให้ตนเอง คุณอาจจะหาเสื้อผ้าจากที่ไหนก็ได้ แต่เครื่องแต่งกายที่เสริมสร้างบุคลิกที่ดี และมีเอกลักษณ์นั้น ไม่ได้หากันง่ายๆ
สิ่งที่ทำให้ THE MOVEⓇ แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เริ่มจากแพทเทิร์นที่มีรูปแบบพิเศษ โดยมีโปรแกรมวิเคราะห์หุ่น รวมไปถึงการวัดตัวเพื่อดูสรีระว่า คุณเคลื่อนไหวร่างกายอย่างไร เพื่อให้แพทเทิร์นเสื้อสามารถปรับเปลี่ยนตามการเคลื่อนไหว ใส่สบาย ไม่อึดอัด
ต่อมาคือ คุณภาพของเนื้อผ้า ที่แบรนด์ใช้เกรดพรีเมี่ยม นำเข้าจากอิตาลี อังกฤษ และสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากจะใส่ได้นาน การดูแลรักษาก็ยังง่าย จุดที่น่าสนใจ คือบริการหลังการขาย แน่นอนว่า หลายคนอาจจะมีรูปร่างที่เปลี่ยนไป แบรนด์เขาก็มีบริการปรับไซส์ให้ได้ตามสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลง โดยออกแบบเนื้อผ้าสำรอง เผื่อเหลือ เผื่อขาด ทำให้คุณปรับขนาดตามรูปร่างได้ THE MOVEⓇ จึงเป็นแบรนด์ที่คุ้มกับราคาและการลงทุน
นอกเหนือจากผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตา การแต่งกายที่ดูดีแล้ว เครื่องประดับคือสิ่งที่ดึงดูดสายตาได้อย่างแท้จริง THE GLANCEⓇ คือแบรนด์เครื่องประดับที่จะช่วยสร้างความประทับใจ ด้วยแนวคิด ‘A glance toward your elegant’ ด้วยการออกแบบเครื่องประดับในสไตล์มินิมอล น้อยแต่มาก แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ตามสไตล์ของแต่ละบุคคล ทำให้ THE GLANCEⓇ เป็นเครื่องประดับที่สวยงามข้ามกาลเวลา ไม่ตกเทรนด์ โดยใช้วัสดุในระดับพรีเมี่ยม คุณภาพจึงเกินราคา มาในมูลค่าที่คุณจับต้องได้
ทุ่มทุนธุรกิจระดับ World Class
แพรวได้มีโอกาสสัมภาษณ์สองผู้บริหารของแบรนด์ Mr.Marino Konnyvong ตำแหน่ง Chief Exponential Officer และ Mrs.Phonethida Somsaath ตำแหน่ง Chief Strategy Officer แห่งบริษัท ELITRYⓇ ถึงแรงบันดาลใจที่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา
อะไรที่ทำให้คุณทั้งคู่ ทุ่มทุนลงทุนทำธุรกิจ World Class ระดับนี้คะ
“แรงบันดาลใจของเราเกิดจากความเชื่อที่ว่า คนในสปป.ลาวที่มีรสนิยมดีมีอยู่เยอะ แต่สินค้าที่ขายในประเทศ อาจจะไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด จึงคิดว่า หากเราสามารถสรรหาวัตถุดิบและแนวทางใหม่ๆ จากทั่วโลก เข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ก็คงจะดี นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เราสร้างธุรกิจขึ้นมา
“อีกอย่างคือ เราเชื่อว่า สินค้าเรามีความโดดเด่นพอและได้รับมาตรฐานระดับสากล เราอยากให้คนใน สปป.ลาวทุกคน ได้มีผลิตภัณฑ์ดีๆ ใช้ แต่อยู่ในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในประเทศให้ดีขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราเอง ก็พร้อมที่จะก้าวไปเติบโตได้ในระดับโลกด้วย แบรนด์นี้จึงเปรียบเสมือนความภาคภูมิใจของคนลาวก็ว่าได้”
อยากให้เล่าถึงวิสัยทัศน์ของ ELITRYⓇ GROUP ค่ะ
“เราเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งที่ดีพร้อมอยู่ในตัวแล้ว และเราก็อยากเป็นผู้ช่วยที่จะพาคุณก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า หรือดีที่สุด ในจุดที่คุณต้องการจะเป็น ซึ่งนั่นคือมิชชั่นของบริษัท
เราไม่ได้ต้องการตอบสนองแค่เรื่องความสวยงามจากภายนอกเท่านั้น แต่คุณต้องเปล่งประกายจากภายในด้วย เพื่อให้เขาเผยสิ่งที่ดีที่สุดในตัวออกมา
“นี่จึงทำให้เราเปิดบริษัทในเครือถึง 5 แบรนด์ด้วยกัน โดยทยอยเปิดให้ครบภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลทั้งภายนอกและภายใน คือ THE MOVEⓇ ซึ่งเป็นแบรนด์
เสื้อผ้า, THE SHINEⓇ ผลิตภัณฑ์เมคอัพ และสิ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นมากยิ่งขึ้นก็คือ เครื่องประดับ เราจึงสร้างแบรนด์ THE GLANCEⓇ นอกจากเรื่องความงามภายนอกแล้ว ภายในก็สำคัญไม่แพ้กัน เราจึงมผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพอย่าง THE LIFEⓇ ปิดท้ายด้วย THE GLOWⓇ ซึ่งเป็นสกินแคร์ที่บำรุงตั้งแต่ระดับเซลล์ผิว”
คุณทั้งคู่มองการตลาดและการแข่งขันธุรกิจในกลุ่ม South East Asia อย่างไรบ้างคะ
“ถ้าสังเกตดูปัจจุบันบุคคลที่ประสบความสำเร็จในโลกจะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และคนเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ เพื่อตอบแทนความสำเร็จที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
“เราจึงเชื่อว่า แบรนด์ที่เราสร้างขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น เช่นเดียวกับแบรนด์ระดับ Global อย่าง Ferrari, Patek Philiph แบรนด์เหล่านี้ เขาก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกแบบอย่างทันสมัย ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้คน”
สุดท้ายแล้ว ทางบริษัทมีกลยุทธ์อย่างไรในการแข่งขันในตลาด South East Asia คะ
“เราถือว่า เราเป็นบริษัทชั้นนำและอยู่แนวหน้าใน สปป.ลาวอยู่แล้ว กลยุทธ์ในตอนนี้คือ การมองหาแพลตฟอร์มใหม่เพื่อขยายช่องทางการขายไปยังประเทศยุโรปและอเมริกา ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้น เราต้องมีศักยภาพจากการสร้างแบรนด์ของเราให้ตอบสนองความต้องการของผู้คนได้ก่อนครับ”
ถือว่า ELITRYⓇ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองในยุคนี้ ที่กล้าลุกขึ้นมาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ พร้อมกัน