account_circle“วี-ปวริศา ชุมวิกรานต์” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต ถือเป็นผู้บริหารหญิงแห่งแวดวงการสร้างแบรนด์ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำมากมาย อย่าง LINE MOBILE (FINN MOBILE), Grab และ Tencent (Joox) ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ยาวนานกว่า 20 ปี Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว จึงขอพาไปเจาะลึกมุมมองของเธอ โดยเฉพาะบทบาทสำคัญในการปั้นแบรนด์ FWD ประกันชีวิต เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จและครองใจผู้คนในยุคนิวนอร์มัล
ก้าวสู่บทบาทผู้บริหารนักปั้นแบรนด์แห่ง FWD ประกันชีวิต
“วีทำงานในแวดวงการสร้างแบรนด์มายาวนานกว่า 20 ปีแล้วค่ะ เริ่มต้นมาจากการสร้างแบรนด์ให้กับธุรกิจ FMCG (Fast Moving Consumer Goods) Retail รวมถึงเทคโนโลยีโดยช่วง 10 ปีหลังจะอยู่ในสายเทคโนโลยีมาตลอดแม้การร่วมงานกับ FWD ประกันชีวิตจะถือเป็นการก้าวข้ามมาสู่ธุรกิจใหม่ที่ไม่คุ้นเคย แต่วีก็ตัดสินใจออกมาจากคอมฟอร์ตโซน เพราะวีมองว่า ‘ประกันชีวิต’ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อทุกคน ถือเป็นการเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงหลากหลายรูปแบบที่จะเข้ามาบวกกับรู้สึกประทับใจวิสัยทัศน์ของ FWD ประกันชีวิต หลังจากที่ได้พูดคุยกับ CEO คุณเดวิด โครูนิช ซึ่งท่านเล่าให้วีฟังว่า FWD ประกันชีวิต มุ่งมั่นในการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต โดยทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าใจง่าย มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้า และสามารถแก้ไข Pain Points ของลูกค้าได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงทำให้ลูกค้าเข้าถึงประกันชีวิตได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้วียังรู้สึกประทับใจ FWD ประกันชีวิตในความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ด้านประกันชีวิตของลูกค้า โดยมุ่งหวังให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคนที่ต้องการ และที่สำคัญคือการทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจให้ FWD ประกันชีวิตเป็นผู้ดูแล เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถ Celebrate Living ได้ทุกวันโดยไม่ต้องห่วง ซึ่งความมุ่งมั่นนี้หากประสบความสำเร็จ ก็จะส่งผลดีไม่ใช่เพียงแค่กับ FWD ประกันชีวิตเท่านั้น แต่จะส่งผลดีกับทุกๆ คน
“ช่วงเวลาปีกว่าๆ ที่ได้ร่วมงานกับ FWD ประกันชีวิต นอกจากความท้าทายกับสายงานใหม่ที่ต้องเรียนรู้อย่างหนักแล้ว ก็ยังต้องเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วย วีจึงนำประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการสร้างแบรนด์และทำแบรนด์แคมเปญ โดยเริ่มจากการทำวิจัยศึกษาความต้องการของคนในยุคนี้ และวางแผนการสื่อสารโดยผสมผสานสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกันแบบ 360 องศา รวมถึงใช้ Entertainment Platform เพื่อทำให้คนจดจำแบรนด์ FWD ประกันชีวิต และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น”
แนวคิดการสร้างแบรนด์สู่ความสำเร็จ
“วีเชื่อว่า ‘การสร้างแบรนด์’ เป็นสิ่งสำคัญมาก ยิ่งทุกวันนี้ที่มีเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ยิ่งทำให้การแข่งขันสูงและเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลายและมากมาย เพราะฉะนั้นหัวใจสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่เชื่อถือและทำให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราได้ คือการบาลานซ์ระหว่างศาสตร์และศิลป์ ศาสตร์คือการใช้วิทยาศาสตร์ ใช้ข้อมูลในการทำความเข้าใจลูกค้า เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้าเป็นใคร ต้องการอะไร มีปัญหาอะไร มีไลฟ์สไตล์อย่างไร และรับสื่อช่องทางไหนบ้าง แล้วจึงส่งการสื่อสารออกไป คือเราต้องศึกษาและวิเคราะห์ความสนใจของลูกค้าเป็นพื้นฐานก่อนนั่นเอง ส่วนศิลป์คือการใช้ศิลปะการสื่อสาร เราจะสื่อสารอย่างไรให้สิ่งที่ลูกค้าอยากฟังตรงกับสิ่งที่เราอยากพูด เพราะเราในฐานะแบรนด์มีสิ่งที่อยากพูด ลูกค้าในฐานะผู้บริโภคก็มีสิ่งที่อยากฟังเช่นเดียวกัน
“หลายคนถามถึงความยากในการสร้างแบรนด์ ซึ่งวีไม่ถือเป็นความยาก แต่ถือเป็นความท้าทายมากกว่า ท้าทายทั้งเรื่องภายนอกและภายในเลยค่ะ สำหรับภายนอกคือลูกค้ามีทางเลือกใหม่ๆ มากมาย ดังนั้นความท้าทายคือจะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้จักเรา จดจำเราได้ ผูกพันกับเรา และสุดท้ายมี Royalty กับเรา ส่วนความท้าทายภายในคือการทำงานร่วมกับคนจำนวนมากขององค์กร เพราะการสร้างตัวตนให้กับแบรนด์นั้น ต้องเริ่มจากคนภายในองค์กรก่อน เพื่อสร้างการรับรู้สู่ภายนอกต่อไป ซึ่งวีใช้ความท้าทายเหล่านี้เป็นแรงผลักดันตัวเองอีกทางหนึ่งด้วย”
เป้าหมายความสำเร็จของ FWD ประกันชีวิต
“วีอยากให้ FWD ประกันชีวิตเป็นที่รู้จักสำหรับคนไทย และเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพวกเขา FWD ประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-Led) และขับเคลื่อนโดยความต้องการของลูกค้า เชื่อว่าการที่เราได้สร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์อันดีที่ยาวนานกับลูกค้ามาโดยตลอด รวมทั้งมอบความอุ่นใจและความคุ้มครองชีวิตเพื่อรองรับความมั่นคงในอนาคต จะทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ชอบได้โดยไม่ต้องห่วง ตรงตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ Celebrate Living ที่เราอยากให้ทุกคนมีความสุขในทุกวันและฉลองให้กับ Micro-Moment ต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากยุคก่อนโควิด-19 ที่คนเราจะมีความสุขกับโมเมนต์ใหญ่ๆ เช่น เรียนจบ ซื้อบ้านใหม่ แต่งงาน แต่ปัจจุบันด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และไลฟ์สไตล์แบบนิวนอร์มัล ทำให้คนหันมามีความสุขกับสิ่งเล็กๆ รอบตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้ง การกินของอร่อยๆ การดูซีรี่ส์ หรือการผ่อนคลายรูปแบบต่างๆ ถือเป็นนิยามใหม่ของการ Celebrate Living ซึ่ง FWD ประกันชีวิตโฟกัสไปที่เรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยอยากเป็นแบรนด์ประกันชีวิตที่ได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวการใช้ชีวิตกับคน เพื่อให้ความสัมพันธ์พัฒนาเป็นความผูกพัน ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจยั่งยืนอย่างแท้จริง
“นอกจากนี้วียังตั้งเป้าหมายเรื่อง Brand Experience ให้กับ FWD ประกันชีวิตด้วยค่ะ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในการสร้างแบรนด์ เพราะแบรนด์ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่อง Customer Experience กันมากกว่า ส่วนการทำ Brand Experience ของแบรนด์ต่างๆ ก็จะเน้นไปที่โฆษณาทางทีวีหรือเฟซบุ๊ก แต่ FWD ประกันชีวิตคือทำ Brand Experience จริงๆ ไม่ใช่แค่การมองเห็นตามสื่อต่างๆ แต่เล่นกับประสาทสัมผัสทั้งห้า หรือที่เราเรียกว่า 5 Sensory ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เช่น การทำไอศกรีมรสชาติพิเศษกับ Guss Damn Good การทำโดนัทรสชาติพิเศษกับ Drop by Dough เพื่อวางขาย และในอนาคตจะมีการทำ Brand Experience อีกหลากหลายรูปแบบ เพื่อทำให้ FWD ประกันชีวิตกลายเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนไทยอย่างสมบูรณ์แบบ”
เป้าหมายชีวิตของ “วี-ปวริศา ชุมวิกรานต์”
“วีมีเป้าหมายชัดเจนตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นผู้บริหารในองค์กร อยากเป็นคนที่ปั้นแบรนด์ขึ้นมาจนเป็นที่รู้จัก ติดตลาด ประสบความสำเร็จ ซึ่งวันนี้วีถือว่าได้บรรลุเป้าหมายในระดับหนึ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ต่างๆ ที่ผ่านมา และวียังคงมุ่งพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเดินไปตามทางที่ตัวเองตั้งใจไว้
“เมื่อประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว วีก็มีเป้าหมายเพิ่มขึ้น คืออยากส่งต่อความรู้ ข้อคิด และประสบการณ์ที่สั่งสมมาของตัวเองให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ใช่แค่ในลักษณะของทฤษฎี แต่ช่วง 7 ปีมานี้ วีลงมือส่งต่อความรู้ให้กับคนรุ่นต่อไปผ่านการเป็นวิทยากรพิเศษ และการเข้าไปช่วยเป็นคณะกรรมการในการตัดสินงานที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และการตลาด
“ข้อคิดที่วีอยากฝากถึงคนรุ่นใหม่คืออยากให้ค้นหาตัวเองให้เจอก่อนว่าชอบทำอะไร อะไรที่เหมาะกับตัวเอง จากนั้นต้องกล้าคิด กล้าทำ อย่ากลัวความผิดพลาด เพราะเราสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นได้เสมอ ที่สำคัญอีกอย่างคืออย่าหยุดพัฒนาตัวเอง อย่าหยุดเรียนรู้ และสุดท้ายคือต้องลงมือทำ เพราะต่อให้มีไอเดียที่ดีขนาดไหน แต่หากไม่ลงมือทำ ไอเดียนั้นก็จะแค่ลอยอยู่ในอากาศ ดังนั้นการลงมือทำจึงถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง”
ทัศนคติสู่ความสำเร็จ
“ข้อแรกวีให้ความสำคัญกับการมี Can Do Attitude เพราะวีมองว่าทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าเราเชื่อว่าตัวเองทำได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเราคิดว่ายากมาก ทำไม่ได้ ก็เท่ากับว่าเราปิดตัวเองตั้งแต่ต้นแล้ว
“ข้อสองคือวีเป็นคนที่ Stay Hungry, Stay Foolish พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ถ้าเราหยุดเรียนรู้เมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าเราถอยหลังแล้ว และยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น
“ข้อสามคือวีไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต โดยบอกตัวเองเสมอว่า Never be satisfied in what you do.เพราะวีมองว่าทุกครั้งที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว เท่ากับได้เรียนรู้จากสิ่งที่ทำไปแล้ว ครั้งต่อไปก็จะมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ดีกว่าเดิม ซึ่งนั่นทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
“ข้อสุดท้ายคือวีเชื่อมั่นในการทำงานเป็นทีม ซึ่งวีชอบเปิดโอกาสให้ทุกคนในทีมได้คิด แสดงความคิดเห็น แสดงออก หรือสร้างสรรค์นอกกรอบเสมอ และวีเชื่อเรื่องความกล้าด้วย คือกล้าทำอะไรใหม่ๆ กล้าลองทำอะไรที่แตกต่าง เพราะวีคิดว่าถ้าเราไม่กล้าลองผิดลองถูก ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย หรือถ้าสิ่งที่ลองทำกลายเป็นความผิดพลาด เราก็แค่เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นแล้วพัฒนาตัวเองต่อไป”