ดร.พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล Vice President Navamin Hospital Group หลากบทบาทของนักธุรกิจสาวมากความสามารถ ผู้บริหาร Vital Glow Skin & Aesthetic Center สถาบันความงามในเครือ โรงพยาบาลนวมินทร์9 และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธินวมินทร์รวมใจ
ดร.พิมพ์ขวัญ บุญจิตต์พิมล กับบทบาทแม่ และการสร้างคุณค่าแก่สังคมอย่างยั่งยืน
“ให้” อย่างยั่งยืน
“ความที่โตมากับชีวิตในโรงพยาบาล เนื่องจากคุณพ่อ (พล.อ.นพ.ประจักษ์) และ คุณแม่ (คุณวราภรณ์) ทำงานเป็นผู้บริหารที่โรงพยาบาลนวมินทร์9 พิมพ์จึงได้เห็นว่า ยังมีคนอีกมากมายรอความช่วยเหลือ และอยากทำมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาตลอด กระทั่งเดือนมกราคม 2564 เมื่อทุกอย่างพร้อม พิมพ์กับสามี (ดร.มานะ เตชะไพฑูรย์) จึงได้ก่อตั้งมูลนิธินวมินทร์รวมใจ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เด็ก สตรี คนชรา และกลุ่ม LGBTQ+ เพราะคุณภาพชีวิตของผู้คนทุกเพศทุกวัยจะดีขึ้นได้ต้องผ่านการช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างยั่งยืน ขณะที่ปัจจุบัน สังคมบ้านเรา ยังมีปัญหาเรื่องการรับสิทธิ์การรักษาบางประเภทที่ไม่ครอบคลุม
“แต่ตอนเปิดมูลนิธิเป็นช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มรุนแรงขึ้น พิมพ์กับสามีจึงคิดว่าควรปรับแผนมาโฟกัสบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อน โดยรีบประชุมกับผู้บริจาคและผู้สนับสนุน เพื่อสร้างศูนย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสนามมีนบุรี, ศูนย์พักคอยบางกะปิ และศูนย์พักคอยคลองสามวา รวมจำนวนผู้ป่วยที่เราดูแลกว่า 2,000 เตียง อีกสาเหตุหนึ่งที่เรารีบลงมือทำทันที เพราะเราไม่อยากเห็นผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะวิกฤติเพิ่มขึ้น จึงจัดทำ Home Isolation หรือ Hospitelให้ผู้ป่วยสีเขียว เพื่อพาพวกเขาเข้าสู่ระบบการรักษา และตั้งใจจะทำไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แล้วค่อยกลับไปยึดวัตถุประสงค์เดิมของมูลนิธิค่ะ”
จากผู้บริหารสู่งานภาคสนาม
“ครอบครัวเราอยากมีส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้เดือดร้อนจากสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด จากปกติที่คุณพ่อจะทำหน้าที่มอนิเตอร์ภาพใหญ่ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล แต่เมื่อจำนวนแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์
มีไม่พอกับจำนวนผู้ป่วย คุณพ่อจึงต้องลงมารับเคสผู้ป่วยโควิดเอง จ่ายยาเอง ซึ่งมีหลายเคสที่ท่านดูแลด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น จนจบ
“ในสถานการณ์แบบนี้อะไรที่สามารถช่วยแบ่งเบาได้ก็ต้องช่วยกัน คงไม่ใช่เวลาจะมาแบ่งบทบาทว่าเป็นผู้บริหารแล้วจะไม่ทำในส่วนนี้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือชีวิตคน ยิ่งในกรณีที่เป็นผู้ป่วยในระยะสีแดง ยิ่งต้องหาเตียงให้เขาเร็วที่สุด แต่อย่างที่เห็นกันว่าเตียงในโรงพยาบาลเต็มหมด พิมพ์เจอและเห็นเหตุการณ์ที่ผู้ป่วยมากมายไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่ไป เพราะฉะนั้นการที่เรามาทำตรงนี้จึงช่วยเหลือผู้คนได้บ้าง แม้หลายเคสจะไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่การได้เข้าไปอยู่ ในศูนย์พักคอยก็ทำให้เขาเกิดความอุ่นใจมากขึ้นที่ได้อยู่ในความดูแลของบุคลากรทางการแพทย์”
Working Woman & Mom
“ตอนนี้บทบาทสำคัญในชีวิตพิมพ์เพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้วค่ะ จากการเป็นคุณแม่ของน้องเอริ (เด็กหญิงชิชา เตชะไพฑูรย์) เพิ่งคลอดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ลูกต้องการแม่มากที่สุด พิมพ์จึงอยู่กับเขาตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งใจเลี้ยงให้เอริเติบโตเป็นคนแกร่ง ช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง พิมพ์อยากปลูกฝังให้เขาเห็นคุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ที่สำคัญสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง และสามารถจัดการกับอารมณ์ ความคิดของตัวเองได้ในทุกสถานการณ์
“ส่วนตัวพิมพ์เชื่อว่าในช่วงโควิด-19 หลายคนที่เติบโตมาจากโลกที่สวยหรูตลอดเวลาอาจจะเปราะบางและไม่มีภูมิคุ้มกัน พอเจอสถานการณ์ที่เกิดอุปสรรคปัญหา ธุรกิจต้องปิดเพราะเจอล็อกดาวน์ หลายคนเลือกที่จะฆ่าตัวตาย
เหมือนที่เห็นกันในข่าว พิมพ์จึงอยากให้เอริมีภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะพบเจอกับสถานการณ์ใด ขอให้เขาสามารถผ่านมันไปได้ ถ้าล้มก็ต้องเรียนรู้ที่จะลุกขึ้นกลับมายืนหยัดด้วยตัวเองได้อีกครั้ง
“ที่สำคัญหากมีโอกาสที่จะช่วยเหลือใคร ขอให้เขาตัดสินใจทำอย่างไม่ลังเลเหมือนที่ครอบครัวเราปลูกฝังกันมา” (ยิ้ม)
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 974
เรื่อง บุญญาดา ภาพ วรสันต์
แต่งหน้า- ทำผม Sizelexk Ong-art
สถานที่ HYDE Heritage Thonglor