อีกหนึ่ง “ผู้หญิงสุดสตรอง” ที่ยืนอยู่ท่ามกลางรันเวย์ซึ่งมี “คนทั้งโลกเฝ้าจับตา” อยู่ทุกขณะจิต! อย่างนางแบบสาว จีจี้ ฮาดิด (Gigi Hadid) สิ่งที่เธอต้องก้าวข้ามไปให้ได้เพื่อจะยืนอยู่ท่ามกลางสปอตไลท์อย่างมีความสุขคือ การคิดบวก นั่นเอง
หากยังจำกันได้ ช่วงที่สาว “จีจี้” โดนวิจารณ์จากโซเชียลอย่างหนักเรื่องรูปร่างว่าอ้วนเกินจะเป็นนางแบบ (ทั้งที่หุ่นดีมว้ากกก อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก) แต่มิวายถูกเสียดสีจากเกรียนคีย์บอร์ดหนักมาก ถึงกับไล่ให้ไปลดหุ่นก่อนค่อยมาเดินแบบใหม่ บ้างก็ใช้คำว่า “รูปร่างที่น่าสงสาร ช่างเป็นนางแบบที่น่าสงสาร” ฯลฯ จนเธอต้องออกมาโพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงเหล่า Hater และทุกคนในโซเชียลที่ชอบวิจารณ์ร่างกายของคนอื่น
โดยใจความรวมคือการแสดงจุดยืนว่าการคอมเม้นต์ที่ไม่ได้ติเพื่อก่อ ไม่อาจทำให้เธอต้องรู้สึกแย่กับตัวเองและไม่สามารถมาเปลี่ยนแปลงรูปร่างเธอให้เป็นไปตามที่ใครๆ ต้องการได้ เธอแค่พยายามทำงานอย่างหนักและรักในรูปร่างของเธอ ในสิ่งที่เธอเป็น และตบท้ายด้วยข้อความเจ็บๆ คันๆ ว่า คนที่ว่างมากและแค่ใช้นิ้วเคาะคีย์บอร์ดไปวันๆ หากจะวิจารณ์อะไร ควรพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนดีกว่าพูดเพื่อทำให้ใครคนหนึ่งรู้สึกแย่กับตัวเองนะจ๊ะ
แต่ประเด็นเรื่องรูปร่าง (สุดเซ็กซี่ของเธอ) ถูกเหล่า Hater ค่อนแคะอย่างหนักมาเรื่อยๆ แต่เพราะแอตติจูดดีๆ ของเธอนั่นเองที่ทำให้ทุกวันนี้เธอกลายเป็นคน มั่นใจ มีสไตล์ เป็นไอดอลของสาวๆ วัยทีน
3 กฎเหล็กสู่ผู้หญิงคิดบวกสไตล์ จีจี้ ฮาดิด
1. ยอมรับว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนผู้อื่นได้
กฎเหล็กสู่ผู้หญิงคิดบวกข้อแรกคือ ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ เช่น เหล่า Hater ทั้งหลายที่สาว “จีจี้” ยอมรับในจุดนี้ดีว่าไม่สามารถหยุดความคิดคนอื่นให้หยุดพิมพ์วิจารณ์เธอได้
เธอจึงไม่จำเป็นต้องลงไปในสังเวียนต่อสู้ในโซเชียล เธอแค่ก้าวข้ามบางสิ่งที่ยอมรับว่าไม่สามารถหยุดหรือเปลี่ยนแปลงได้ก็เท่านั้นเอง ก็ปล่อยให้พูดกันไป ก็แล้วแต่!
2.ไม่ปิดกั้นตัวเอง แม้จะไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานคนอื่น
“จีจี้” รู้ดีว่ารูปร่างของเธอ (หน้าอกและสะโพก) ไม่ได้เป็นไปตามบรรทัดฐานของแฟชั่นชั้นสูง แต่เธอก็ไม่ปิดกั้นตัวเองที่จะท้าทายมัน เธอแชร์สิ่งที่เธอเป็นออกไปสู่ผู้คนด้วยความสุข จนสามารถเปิดประตูบานใหม่ในโลกแฟชั่นที่กฎระเบียบและบรรทัดฐานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ปัจจุบันเธอกลายเป็นนางแบบแถวหน้าที่ได้เดินเฉิดฉายอยู่บนรันเวย์ของแบรนด์ระดับโอต์กูตูร์อย่าง Versace, Chanel, Elie Saab, Giambattista Valli, Balmain, Diane von Furstenberg ฯลฯ
3. รักตัวเองในแบบที่ตัวเองเป็น
ทัศนคติของสาว “จีจี้” นั้นชัดเจน เมื่อเธอประกาศต่อเหล่าเกรียนคีย์บอร์ดว่า “ความคิดเห็นของคุณไม่ทำให้ฉันรู้สึกต้องเปลี่ยนแปลงรูปร่างของฉัน”และที่สำคัญ เหล่าคอมเมนต์นั้นไม่มีผลกับความคิดของเหล่าดีไซเนอร์ที่คิดว่าเธอมีดีพอที่จะจ้างงานเธอ
ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่นางแบบทุกคนจะได้มาเดินเฉิดฉายบนรันเวย์ของวิกตอเรียส์ซีเคร็ต
แม้บางคนจะโลดแล่นอยู่บนสื่อไม่น้อย ก็ยังไม่สามารถได้ชื่อว่าเป็น “นางฟ้าแห่งวิกตอเรียส์ซีเคร็ต” ได้
ดังเช่นสาว “จีจี้” ที่ก่อนหน้านี้แม้เธอจะเป็นข่าวอยู่บนสื่อแฟชั่นแทบทุกวัน เพราะเธออยู่ในแก๊งเดียวกับสาว “เคนดัลล์ เจนเนอร์” ซึ่งสาว “จีจี้” เองก็ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่พอตัว กระนั้นเธอก็ยังต้องมาแคสต์การเดินแบบกับวิกตอเรียส์ซีเคร็ตเสียก่อน โดยหากอยากได้ชื่อว่าเป็น “หนึ่งในนางฟ้า” ก็ต้องจัดเสน่ห์ที่มีมากกว่าการเดินแบบทั่วไปออกมาให้โลกประจักษ์แล้วเธอก็ทำได้ จนได้มาปล่อยสเต็ปรันเวย์สะเทือนใน Victoria’s Secret Fashion Show
นอกจากเป็นแอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Tommy Hilfiger สาว “จีจี้” ยังได้ร่วมออกแบบคอลเล็คชั่นสุดปัง ในชื่อ TOMMY x GIGI ความฮ็อตของเธอยังทะยานขึ้นต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะกวาดไปทุกรันเวย์แล้ว ยังได้เดินเคียงข้างตัวแม่อย่าง Lauren Hutton ในแฟชั่นโชว์แบรนด์หรู Bottega Veneta ซึ่งสาว “จีจี้” บอกว่า เป็นเกียรติอย่างมาก
ณ จุดนี้นางแบบสาวสุดฮ็อตกลายมาเป็นไอดอลวัยทีนที่ใครๆ ก็รักเธอ
เรื่อง : Red Apple_แพรวดอทคอม
ภาพ : IG @gigihadid, Reekbok, Okauch/REX
สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ไม่เคยอดอาหาร! จีจี้ ฮาดิด กับสูตรไม่ลับฉบับหุ่นเพรียว แม้ชอบกินเบอร์เกอร์
เลิฟเลย! คลิป “Gigi Hadid” สอนเทคนิคทาลิปสติกโทนนู้ดให้สวยเป๊ะไม่ดูป่วย