ทำความรู้จัก เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ หรือ หม่อมหลวงสรุจ จุฑาเทพ
เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ

ทำความรู้จัก เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ หรือ หม่อมหลวงสรุจ จุฑาเทพ

Alternative Textaccount_circle
เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ
เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ

ชายหนุ่มที่เกิดวันที่ 9 เดือน 9 จนทำให้ถูกตั้งชื่อว่า เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ และในวัยรุ่นเขาได้ก้าวออกจากเซฟโซนบ้านเกิดอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มายังกรุงเทพฯ ด้วยความตั้งใจอยากประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการได้ก้าวเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง จากทำไปเรื่อยๆ ตามคำแนะนำคนอื่น ทำให้พบกับเส้นทางใหม่ จนกลายเป็นรักและผูกพันกับอาชีพนี้

จุดเริ่มต้นการก้าวออกจากเซฟโซน?

“สำหรับวงการบันเทิง ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ก้าวเข้ามา ผมเป็นพวกชอบเล่นกีฬา อยากเป็นนักกีฬา ชอบเล่นฟุตบอล ดังนั้นการเป็นดาราตอนนั้นไม่มีอยู่ในหัวผม ไม่ได้มีแผนว่าในอนาคตเราจะทำงานในวงการบันเทิง ยิ่งเป็นนักแสดงก็มองไม่เห็นทางเลย แต่เป็นจังหวะชีวิตผมเรียนจบตอนนั้นอายุ 19 ปี อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเรียนต่อที่จังหวัดเชียงใหม่ หรือ กทม. พอดีได้เจอกับ พี่วุฒ ผู้จัดการส่วนตัว ซึ่งเป็นญาติกับทางคุณแม่ เขาสนใจจึงไปพูดคุยกับคุณพ่อ-คุณแม่เราว่าอยากให้เราไปช่วยงาน สุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะไปเรียนต่อที่ กทม. และตั้งใจจะหา ค่าเรียน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ เอง”

“ตอนแรกที่แคสติ้งโฆษณาก็ค่อนข้างราบรื่นด้วยความที่เราเป็นหน้าใหม่ แต่สักพักงานก็ได้งานยากขึ้น จนมีบ้างที่เรารู้สึกท้อแท้ แต่ก็เข้าใจได้ว่าอาจเกิดจากหน้าซ้ำแล้วเลยไม่ได้ถูกรับเลือก จากนั้นจึงขยับไปลองแคสติ้งงานซีรีส์ดู ก็เริ่มได้งานเรื่อยๆ พอทำก็อยากให้ได้ดี จนกลายเป็นรักและผูกพันกับอาชีพนี้”

เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ

แต่สำหรับเก้าเรื่องนี้เซตซีโร่เลยหรือเปล่า?

“จริงอยู่ที่ว่าละครเรื่องนี้ไม่ใช่ผลงานแรกของผม แต่กลับรู้สึกได้ประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ย้อนกลับไปตอนที่เริ่มต้นทำงานแรกๆ อย่างที่ทราบผมไม่มีประสบการณ์อะไรในวงการเลย ก็แสดงไปตามประสบการณ์หรือที่ได้รับคำแนะนำมา แต่เหมือนกับว่าสุดท้ายแล้วเราไม่สามารถเอามาใช้ได้ไม่หมด บางครั้งก็ใช้ไม่ถูกต้อง เหมือนยังหาจุดของตัวเองไม่ได้ พอได้มาร่วมงานกับ พี่คิง-สมจริง ศรีสุภาพ การทำงานแตกต่างออกไป ด้วยความเป็นมืออาชีพของพี่เขาผมได้รับคำแนะนำหลายๆ ที่เป็นประโยชน์ ทำการบ้านเยอะมาก โดยเฉพาะอารมณ์ทางสายตา ทุกวันเหมือนได้ชาเลนจ์ตัวเอง ผมคิดว่าหลังจากเล่นเรื่องนี้ผมค่อนข้างพัฒนาแบบก้าวกระโดด กลายเป็นเก้าในแบบที่ดีกว่าเดิม”

เก้า-นพเก้า เดชาพัฒนคุณ

ก่อนที่จะรับแสดงเรื่องนี้เคยดูมาก่อนไหม?

“ตอนนั้นยังอยู่ที่พะเยา ได้ดูตอนช่วยคุณแม่ทำนู่นทำนี่ ถ้าถามอายุตอนนั้นน่าจะอายุ 17-19 ปี แต่คุณแม่ติดละครเรื่องนี้มาก ตอนที่ได้ยินว่าจะมีโปรเจ็กต์นี้ ผมไม่คิดว่าจะได้เข้าร่วม จนพอมีข่าวในกลุ่มแฟนคลับคุณแม่ก็มาบอก เหมือนคุณแม่รู้ก่อนผมอีกว่าผมจะได้เล่น เพราะคุณแม่เป็นแฟนละครเรื่องนี้ คุณแม่เลยมาเกริ่นกับผมว่าตอนนั้นละครเรื่องนี้ดังมาก นั่นเลยกลายเป็นเป้าหมาย ถ้าทำแล้วต้องทำให้ดี ผมมีความคาดหวังเล็กๆ อยากให้คนดูติดตามเรื่องนี้กันเยอะๆ ชอบการแสดงของผมเพราะผมตั้งใจมาก”

พูดถึง คุณแม่ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญของเก้าใช่ไหม?

“ถ้าเป็นคนใกล้ชิดจะทราบว่าระหว่างการเดินทางมีบางช่วงที่เรารู้สึกท้อ รู้สึกผิดหวัง ทั้งที่เราทุ่มเทและพยายามกับหลายอย่างมากๆ จนข้างในมันรู้สึกแปล๊บๆ แต่ก็ผ่านมาได้จากการตกตะกอนความคิดของตัวเอง ต้องขอบคุณคุณแม่มากๆ เพราะผมคิดว่าผมได้ทัศนคติเชิงบวก การคิดกลับจากอีกหนึ่งมุมมอง จากคุณแม่มาเยอะเหมือนกัน ทำให้เรามองเห็นวิธีการแก้ไขปัญหา และอีกอย่างหนึ่ง ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้คุณแม่เป็นคนที่ให้กำลังใจผมตลอด คอยแนะนำเรื่องการลงมือทำ หากไม่ลองดู จะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร”

เก้าพูดถึงแม่เยอะแสดงว่าเราค่อนข้างสนิทกับแม่ใช่ไหม?

“จริงๆ สนิททั้งกับคุณพ่อและคุณแม่เลย แต่เพราะคุณพ่อเป็นคนดุๆ หน่อยเลยทำให้สนิทกับคุณแม่มากกว่าเลยเหมือนกับเป็นที่ปรึกษาด้วย”

“หลายครั้งเขาเตือนสติให้เราค่อยๆ ตัดสินใจ คิดให้ดี คิดให้ถี่ถ้วน มองให้รอบคอบ ผมเชื่อคุณพ่อคุณแม่นะ ซึ่งก็เป็นคำสอนที่ใช้ได้จริงเพราะหลายเรื่องที่ผมพยายามตัดสินใจ ถ้าผมใจเย็นกับมัน ทุกอย่างมันออกมาแบบแทบไม่เคยพลาด”

คนแบบไหนที่จะทำให้เก้าตกหลุมรัก?

“ผมชอบคนขยันทำงาน รักครอบครัว อาจจะเพราะตัวผมเองเริ่มทำงานมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงคุณพ่อ-คุณแม่ของผมก็เป็นคนที่ขยันมาก ผมเห็นท่านทำงานหนักเพื่อดูแลผมอย่างไม่ย่อท้อ เลยคิดว่าอยากมีคู่ชีวิตที่จับมือกันไปตลอดแบบคุณพ่อ-คุณแม่”

“ถ้าถามว่าต้องทำงานเก่งแค่ไหน ผมคิดว่าไม่ต้องเก่งมากก็ได้ครับ เพราะคนเดี๋ยวนี้มีความเก่งแตกต่างกัน ถ้าทำงานบ้านไม่เก่งผมรับจบให้ เพราะผมเป็นคนชอบทำงานบ้านอยู่แล้ว ทุกวันนี้ผมทำงานบ้านเองทั้งหมดไม่เคยจ้างแม่บ้านเลย หลายคนอาจคิดว่าทำไมต้องมาเสียเวลากับตรงนี้ แต่ส่วนตัวผมรู้สึกมีความสุข เวลาผมทำงานบ้าน ล้างจาน ซักผ้า ถูพื้น มันทำให้มีเวลาอยู่กับตัวเอง มีสมาธิ ได้ใช้ความคิดกลับไปกลับมา ทบทวนเรื่องตัวเองอย่างเต็มที่”

แฟนหนุ่มนักซัพพอร์ตเตอร์ที่ดี?

“เวลาที่ผมมีความรักผมจะเป็นคนที่อยากดูแล อยากสนับสนุนให้กำลังใจไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ เพราะตัวผมเองเติบโตมาแบบคนในครอบครัวให้กำลังใจกันตลอด เลยเป็นสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำได้ดี”

ถ้ามีความรักแล้วเกิดทะเลาะกันปกติจะคลี่คลายด้วยวิธีใด?

“ผมเป็นแนวเลือกเงียบมากกว่า เพราะผมไม่ชอบมีปัญหา ไม่ชอบโต้แย้ง รู้สึกเหนื่อยกับการโต้แย้งเพราะสุดท้ายปัญหาก็ยังอยู่เหมือนเดิม”

สามารถติดตา่มอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

Praew Recommend

keyboard_arrow_up