‘นิโคลีน’

ในที่สุด ‘นิโคลีน’ ก็สามารถคว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 สำเร็จ

‘นิโคลีน’
‘นิโคลีน’

หลังจากพลาดหวังเวทีเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ‘นิโคลีน’ ก็ยิ้มออกเพราะสามารถคว้ามงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ได้สำเร็จ

‘นิโคลีน’

วันที่ 15 ก.ย.61 ที่ห้องพาราเดี่ยม ฮอลล์ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับ บริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สตาร์ดอม เอเชีย จำกัด จัดการประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018” รอบตัดสินเฟ้นหาสาวงามเป็นตัวแทนประกวดมิสเวิลด์ 2018 งานนี้มี ชาริล ชัปปุยส์ นักฟุตบอลทีมสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาให้กำลังใจ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 26 เลน่า-เฮเลน่า บุช แฟนสาวด้วย

การประกวดเปิดเวทีด้วยวีทีอาร์ 32 ปี แห่งการค้นหาความงามอย่างมีคุณค่า ต่อด้วยการแสดงจาก 30 สาวงามในเพลง Can’t stop the feeling ก่อน 2 พิธีกร ซินดี้-สิรินยา บิชอพ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 1996 และ เป๊ก-เปรมณัช สุวรรณานนท์ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติเข้าสู่งานอย่างเป็นทางการ จากนั้นทั้งหมดแนะนำตัวทีละคน 30 สาวงาม กลับขึ้นเวทีเดินโชว์โฉมด้วยชุดว่ายน้ำทูพีช วันพีช ภายใต้แบรนด์ มิราเคิลสูทและแบรนด์แอลสแปช

‘นิโคลีน’

จากนั้น 30 สาวงามเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดราตรีสั้น 6 แบบ 6 สี ออกแบบตัดเย็บโดย ห้องเสื้อเมอเรียด แกรนด์ มอนด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความพลิ้วของริ้วสายน้ำ จำลองด้วยการใช้ผ้าชีฟอง ซิลค์จับเดรปสานไขว้สลับไปมาหลายรูปแบบ ลงบนเนื้อผ้าสีนู้ดราวกับว่าสายน้ำกำลังไหลพลิ้วไปมาอยู่บนตัวผู้สวมใส่

การประกวดเข้มข้นต่อเนื่องพิธีกรประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 12 คนสุดท้าย โดย 5 คนที่เข้ารอบมาจากรางวัลฟาสแทร็กส์ 5 รางวัลดังนี้ รางวัลความสามารถพิเศษ ได้แก่ หมายเลข 24 หญิง-ศิริพร ผสมทรัพย์ รางวัลความสามารถด้านทักษะกีฬา ได้แก่ หมายเลข 27 นิต้า-อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ รางวัลความสามารถด้านทักษะนางแบบ ได้แก่ หมายเลข 12 แพรว-แพรววนิต เรืองทอง รางวัลนางงามจิตอาสา ได้แก่ หมายเลข 7 นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รางวัล พีเพิ่ล ชอยส์ อวอร์ด ได้แก่ หมายเลข 25 ปิ่น-ลลิตกาญจน์ พรนิพัทธ์กุล และผู้ผ่านเข้ารอบอีก 7 คน รวมเป็น 12 คน ได้แก่ หมายเลข 13 ติน่า-คริสตินา ไฟล์ชมันน์ หมายเลข 9 พลอย-พีรชาดา ขุนรักษ์ หมายเลข 23 เทวี-ฤาชนก มีแสง หมายเลข 11 มานิต้า-มานิตา ฟาร์เมอร์ หมายเลข 3 แพรวา-ภัทรภร สนธิภักดิ์ หมายเลข 8 การ์ตูน-ณัฏฐณิชา บุญปอง หมายเลข 26 เลน่า-เฮเลน่า บุช

จากนั้น 12 สาวงามกลับขึ้นเวทีอวดโฉมในชุดราตรียาว ก่อนพิธีกรประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 8 การ์ตูน-ณัฏฐณิชา บุญปอง หมายเลข 25 ปิ่น-ลลิตกาญจน์ พรนิพัทธ์กุล หมายเลข 12 แพรว-แพรววนิต เรืองทอง  หมายเลข 27 นิต้า-อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์ หมายเลข 26 เลน่า-เฮเลน่า บุช หมายเลข 7 นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ หมายเลข 12 แพรว-แพรววนิต เรืองทอง

‘นิโคลีน’

เข้าสู่ช่วงตอบคำถาม 6 สาวงามเลือกซองคำถามจากคณะกรรมการ และตอบคำถามภายในเวลา 30 วินาที หลังจากทีมงานรวบรวมคะแนน พิธีกรประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ได้แก่ หมายเลข 7 นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ หมายเลข 26 เลน่า-เฮเลน่า บุช จากนั้นประกาศรางวัลพิเศษ Channel 3 Ambassador ได้แก่ หมายเลข 8 การ์ตูน-ณัฏฐณิชา บุญปอง  รับเงินรางวัล 330,000 บาท

3 สาวงามที่ผ่านเข้ารอบ ตอบคำถามอีกครั้ง โดยเป็นคำถามเดียวกัน ก่อนที่ ไดร์-จิณณ์ณิตา บุดดี มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 และ มิลค์-ภัทลดา กุลภัคธนภัทร์ รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 สองตัวแทนประเทศไทยในการประกวดมิสเวิลด์ 2016, 2017 ตามลำดับ ขึ้นอำลาตำแหน่ง

ช่วงเวลาตื่นเต้นที่ทุกคนรอคอย พิธีกรประกาศผลการตัดสิน หมายเลข 7 ‘นิโคลีน’ พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ สวยโดดเด่น ตอบคำถามพิชิตใจกรรมการ คว้ามงกุฎอันทรงเกียรติ “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018” ไปครอง รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท มงกุฎทับทิมประดับเพชร จาก สยามเจมส์ เฮอริเทจ มูลค่า 1,800,000 บาท  คอนโดมิเนียม เอ สเปซ สุขุมวิท 77 จาก อารียา พรอพเพอตี้ มูลค่า 2,340,000บาท รถยนต์ฮุนได รุ่น IONIQ Electric มูลค่า 1,749,000 บาท  ฯลฯ และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสเวิลด์ 2018

รองอันดับ 1 ได้แก่ หมายเลข 12 แพรว-แพรววนิต เรืองทอง รับเงินรางวัล 500,000 บาท มงกุฎทับทิมประดับเพชร จาก สยามเจมส์ เฮอริเทจ มูลค่า 600,000 บาท ฯลฯ รองอันดับ 2 ได้แก่ หมายเลข 26 เลน่า-เฮเลน่า บุช รับเงินรางวัล 300,000 บาท มงกุฎทับทิมประดับเพชร จาก สยามเจมส์ เฮอริเทจ มูลค่า 600,000 บาท ฯลฯ

‘นิโคลีน’

นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 อายุ 19 ปี กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผ่านการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 ผ่านเข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ก่อนมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับการประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 เธออยากใช้ตำแหน่งนี้เรียกร้องสิ่งดีๆ ให้กับสังคม โดยต้องการสร้างการยอมรับความแตกต่างของคนในสังคมไทย ผ่านโครงการ Love for All เพื่อสร้างโรงเรียนฝึกอาชีพ และสอนการใช้ชีวิตประจำวัน ให้แก่เด็กด้อยโอกาส และเด็กออทิสติก ให้พวกเขามีโอกาสทำงาน และใช้ชีวิตเหมือนกับคนธรรมดา อีกทั้งยังสร้างความเข้าใจกับครอบครัวเด็ก ให้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับเด็ก และกระจายความเข้าใจนี้สู่สังคมต่อไป โดยเป้าหมายของโรงเรียนคือ Equality, Acceptance, และ Humanity

‘นิโคลีน’

เหตุผลที่ต้องการผลักดันเรื่องนี้ เนื่องจากน้องชายของเธอเป็นเด็กออทิสติก เรียนรู้ช้า และมักจะถูกเพื่อนในโรงเรียนที่สหรัฐอเมริกาแกล้ง และไม่ยอมรับเขา ซึ่งเหตุการณ์ที่เธอยังจำมาจนถึงทุกวันนี้ คือ ช่วงที่มีกระแสข่าวคนพกปืนไปกราดยิงนักเรียนในโรงเรียน น้องถูกเพื่อนระแวงและแซวว่าจะพกปืนมาโรงเรียน ขณะเดียวกันคุณครูโทรกลับมาที่บ้าน แต่ไม่ได้รายงานว่าน้องถูกเพื่อนแกล้ง กลับถามแม่ของเธอว่าที่บ้านมีปืนหรือเปล่า? ทำให้เธอรู้สึกเสียใจแทนน้อง แม่ และครอบครัวที่ถูกคนในสังคมลดคุณค่า ทั้งที่ความเป็นจริงน้องชายของเธอเป็นคนจิตใจดี ทุกคนในครอบครัวให้ความรัก ให้โอกาสเขาได้เรียน ได้เล่น และโอกาสทำในสิ่งที่ชอบเท่าๆ กับเธอผู้เป็นพี่สาว

เธอพบว่าความสามารถพิเศษของน้องชายคือการเล่นเกม และเขียนพล็อตเกม ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะทางของเด็กออทิสติก เธอจึงต้องการจะผลักดันเขาให้ทำในสิ่งที่ชอบ แต่ก่อนอื่นต้องเริ่มจากการยอมรับในสังคม ไม่ใช่การแก้ปัญหาของครูที่เคยทำแบบนี้

‘นิโคลีน’

“เราตีตราว่าคนนี้เป็นผู้หญิง เขาจะทำสิ่งนี้ไม่ได้ จบ คือ ทำไมเราจะต้องเอาชื่อว่าเขาป็นผู้หญิง เอาชื่อว่าเขาเป็นเด็กออทิสติก ทำไมเขาจะทำไม่ได้…เราถูกตีตรากันมาทุกคนแล้ว หนึ่ง LGBTQ คนข้ามเพศ เกย์ ไบเซ็กชวล เลสเบี้ยน และทุกอย่าง เราถูกตีตรากันหมดแล้ว แต่นิโคลอยากบอกว่านี่ปี 2018 แล้วนะ เราสมควรที่จะมีความเปลี่ยนแปลง เราสมควรที่จะอยู่กันทุกคน แบบไม่มีการตีตรา ไม่ให้สิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปข้างหน้า”

นิโคลีน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2018 เราไม่ควรจะแปะป้ายว่าเขาคือคนพิการ คือ LGBTQ แต่ทุกคนควรจะเท่าเทียมกัน ไม่ควรเอาการแบ่งแยกนี้มาปิดกั้นโอกาสในการใช้ชีวิต และหากทุกคนยอมรับซึ่งกันและกัน โลกของเราก็จะน่าอยู่ และทุกคนก็จะสามารถดึงศักยภาพตัวเองออกมาใช้พัฒนาโลกของเราให้เจริญก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้

‘ไปสังสรรค์ปาร์ตี้ระวังตัวด้วย เสือสิงห์กระทิงแรดรายล้อม’ ดูดวงรายวัน 16 กันยายน 2561

ดูดวงรายวัน 16 กันยายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : กำลังสนใจธุรกิจออนไลน์ อาจเป็นงานด้านขายตรง หากท่านเป็นหัวหน้าทีมต้องระวังเรื่องการปกครองบริวาร เพราะท่านใจดี ให้ความสนิทสนมมากเกินไป ทำให้บริวารไม่เคารพและเกรงใจ วันนี้ท่านจะตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก  ควรรับฟังความคิดเห็นหรือขอคำปรึกษาจากผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

การเงิน : มีโชค แต่ก็ต้องระมัดระวังการหลอกลวง หรือเป็นเหยื่อของบุคคลที่จะเข้ามาตักตวงผลประโยชน์

ความรัก : ท่านคาดหวังกับชีวิตคู่มากจนกลายเป็นแข็งกระด้างและจริงจังมากเกินไป ยิ่งหากแต่งงานกันมานานจะกลายเป็นความเบื่อหน่าย ควรหาเวลาไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง กลับมาจะสดชื่นกระดี๊กระด๊า คนโสด มีเสน่ห์ เป็นจุดเด่นในสังคม จึงเลือกได้ หากผิดหวังมาไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง วันนี้จะได้เจอตัวจริง

สุขภาพ :  พกยาอม ยาดม ยาหม่องไปด้วยนะคะ เพราะวันนี้อาจวูบ หน้ามืดได้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  ปัญหาหรืออุปสรรคที่ต่อสู้มานานจะจบลง จากนี้ไปท่านต้องใช้ความรู้ความสามารถ และทักษะส่วนบุคคลมาใช้ในการทำงานอย่างหนัก ระวังการมองคนในแง่ร้ายหรือการเชื่อมั่นในตัวเองสูงจนเกินไปจะทำให้การบริหารงานมีปัญหา ควรรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นบ้าง

การเงิน : ระวังแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้หน้าที่การงานของท่านมัวหมอง

ความรัก : ช่วงนี้จะมีผู้หวังดีประสงค์ร้าย จะใส่ร้ายป้ายสีเรื่องบุคคลที่สามให้พวกท่านเกิดความเข้าใจผิด และหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องได้ อาจรุนแรงถึงขั้นเลิกกันทีเดียว คนโสด กำลังเจอคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ จึงพยายามเอาใจทุกอย่างเพื่อให้ชนะใจ แต่วันนี้ท่าทางจะยาก

สุขภาพ : ระวังการทานอาหารที่ไม่สะอาดถูกหลักอนามัย และอาจเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และลำไส้อักเสบอย่างรุนแรง

               

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : เป็นงานที่ต้องทำกันเป็นทีม โดยที่ท่านต้องใช้สติปัญญาและความจำค่อนข้างสูง  พลิกแพลงกลยุทธ์ต่างๆ  กับความคิดสร้างสรรค์ แม้กระทั่งใช้เซ้นส์ ซึ่งท่านเริ่มความไม่แน่ใจว่า จะเป็นหมอดูดีหรือไม่

การเงิน :  มีโอกาสได้รับทรัพย์มรดก มีโชคลาภ อาจถูกหวยรวยหุ้นก็ได้

ความรัก :  ท่านอาจถูกบังคับให้แต่งงานด้วยความเหมาะสมหลายๆ ด้าน ทั้งครอบครัว หน้าที่การงาน หากถามตัวท่านเองก็ยังไม่แน่ใจว่า จริงๆ แล้วชอบเพศเดียวกันหรือไม่  คนโสด ทุ่มเทให้กับความรักมากจนน่ากลัว ซึ่งท่านหึงหวงคนรัก เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ยังเลือกไม่ได้ เพราะไม่แน่ใจตัวเองเท่าไหร่ว่าชอบเพศไหนกันแน่

สุขภาพ :  อาจเจ็บป่วยจากการปฏิบัติงาน  ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา และระวังการรับประทานยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจเป็นสาเหตุของโรคอื่นอีก

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : งานที่เกี่ยวกับการเจรจาประนีประนอม การต่อรอง ที่คิดว่าประสบความสำเร็จ เลี้ยงฉลองกันแล้ว กลายเป็นว่าไปไม่สุด เพราะติดสัญญา หรือติดข้อตกลงอะไรบางอย่าง

การเงิน : ระวังอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ หลอกขายเครื่องประดับราคาแพง แต่ไม่มีคุณภาพ

ความรัก :  ท่านติดบ่วงรักติดบ่วงเสน่หาไม่สามารถจะไปไหนได้แล้ว อาจมีการเฉลิมฉลองฮันนีมูนหรือครบรอบแต่งงาน แต่ระวังมือที่สามเข้ามาหวังผลประโยชน์อย่างเดียวเลย อย่าได้แคร์ คนโสด ต้องแน่ใจแล้วล่ะ เพราะวันนี้อาจมีงานมงคล

สุขภาพ : จะเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ ก็ให้ระวังอุบัติเหตุจากการเดินทาง ทั้งทางน้ำและทางบก

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  งานที่เกี่ยวกับศิลปะ วรรณกรรม บันเทิงเริงรมย์ วันนี้ท่านอีโก้สูงและเชื่อมั่นในตัวเองมากจนไม่สนใจไอเดียของเพื่อนร่วมงาน อาจถูกเพื่อนร่วมงานหมั่นไส้ ใส่ร้ายป้ายสี นำไปสู่การขัดแย้งและทะเลาะเบาะแว้งกันในที่สุด

การเงิน : ต้องใช้เงินในการทำงานอย่างมาก จนชักหน้าไม่ถึงหลัง อาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับเงินที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก :  ท่านทุ่มเทให้กับครอบครัวเต็มที่ ทั้งดูแลเศรษฐกิจในครัวเรือน ส่งเสริมและสนับสนุนหน้าที่การงานของสามี แต่เมื่อมารู้ว่าเขาแอบไปมีกิ๊ก ท่านจึงผิดหวังจนไม่รู้จะทำอย่างไร ปล่อยวางค่ะ เข้าห้องพระสวดมนต์ คนโสด คนหมายปองไม่ได้มีท่านเพียงคนเดียวนะคะ ตัดสินใจอย่างไรดี

สุขภาพ :  ระวังเรื่องน้ำหนักด้วยนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : ท่านถูกจ้างให้ไปทำงานทางด้านศิลปะ วรรณกรรม งานบันเทิงเริงรมย์ทุกประเภท ซึ่งถูกใช้ให้ทำงานอย่างหนัก รวมทั้งอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานที่เกี่ยวกับอบายมุขหรือการพนัน ควรหลีกเลี่ยง

การเงิน :  จากการทำงานเป็นหลัก ไหลมาเทมา แต่ท่านก็ใช้เงินเก่ง หมดไปกับการกินดื่มเที่ยว

ความรัก : ท่านมีภาวะผู้นำสูง เป็นหลักให้กับครอบครัว ทั้งลูกและสามี นับเป็นโชคของท่านที่สามียอมวางแก้วมาร่วมสร้างเนื้อสร้างตัวและสร้างฐานะ คนโสด ท่านมีเสน่ห์ มีหนุ่มๆ เข้ามาติดพันเยอะ ซึ่งแต่ละคนก็กินดื่มเที่ยวอย่างหนัก อย่าปล่อยตัวปล่อยใจเด็ดขาด จะมีปัญหาตามมา

สุขภาพ :  ระวังจะมีบาดแผลที่เกิดจากของมีคม หรือไฟไหม้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน : ท่านรับอาสาไปปฏิบัติงานให้กับเจ้านาย โดยที่ท่านก็ไปแบบเต็มไปด้วยอีโก้และความเชื่อมั่นในตัวสูง จนไม่สนใจฟังไอเดียของเพื่อนร่วมงาน จึงถูกหมั่นไส้ หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีท่านจนทะเลาะกันในที่สุด อาจลุกลามบานปลายเป็นคดีความ

การเงิน :  หากกำลังคิดจะทำธุรกิจกับหุ้นส่วน ระวังถูกหักหลัง

ความรัก :  ท่านตั้งกฏเกณฑ์และเงื่อนไขสูงเกินกว่ามาตรฐาน จนคนที่อยู่ด้วยอาจอึดอัดจนทนไม่ได้ ต้องแยกย้ายกันไป คนโสด อาจมีความรักที่ซ่อนเร้นไม่เปิดเผย และอยู่กันไม่ยาวนานด้วย

สุขภาพ :  ควรระวังเรื่องการขับถ่าย อย่ากลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้ไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

Hottest Honeymoon Trends in 2019 เทรนด์ไหนกันที่ใช่สำหรับคู่คุณ

account_circle

เทรนด์สำหรับการฮันนีมูนไม่เคยหยุดอยู่กับที่ ฉบับนี้ แพรว wedding รวบรวมเทรนด์สุดฮิต ที่คู่บ่าวสาวทั่วโลกต่างให้ความสนใจกันในขณะนี้ และอาจจะยาวเลยไปจนถึงปีหน้า มาให้ทุกคู่รักได้ค้นหา Honeymoon Trends ที่ใช่สำหรับคู่ของคุณ

ต้องยอมรับว่า ฮันนีมูน เป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับคู่รักที่เพิ่งผ่านพิธีแต่งงานมาหมาดๆ ไม่นานมานี้ก็มีกระแส Honeymoon Trends mini moons ออกมา เพื่อตอบรับชีวิตบ่าวสาวยุคใหม่ โดย มินิมูนนั้น จะเป็นการใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ ไปฮันนีมูนที่ไม่ไกลจากบ้าน และใช้งบไม่เยอะ ซึ่งช่วยประหยัดเงินที่บอบช้ำจากการจัดงานแต่งงานได้เป็นอย่างดี แล้วเมื่อทุกอย่างพร้อมค่อยฮันนีมูนกันแบบเต็มๆในภายหลัง

Hottest Honeymoon Trends

Safari Max

การส่องสัตว์แนวซาฟารี ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคู่รักในยุคนี้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเหล่าคู่รักจะออกเดินทางมาเพื่อชื่นชมเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้ง 5 ชนิด (สิงโต เสือดาว ควายป่า แรด และช้าง)เท่านั้น แต่ระหว่างกิจกรรมการส่องสัตว์นั้นคู่รักจะได้รับความสนุกสนานตื่นเต้นจากการผจญภัย และได้เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งความโรแมนติกจะซ่อนอยู่ทุกๆขณะ

Which couple? :  คู่รักที่รักสัตว์ และอยากสัมผัสสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด

Where :

ประเทศไทย อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับการขนามนามว่า “ซาฟารีเมืองไทย” เพราะว่า ที่นี่ยังคงมีผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ทำให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด  สัตว์ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ยกให้ช้างและกระทิง ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก

ต่างประเทศ ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นประเทศที่มีผืนป่าอุดมสมบูรณ์ และเป็นประเทศที่มีการท่องเที่ยวแนวซาฟารีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ขอแนะนำอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของแอฟริกาใต้ และเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติตามประกาศของยูเนสโก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาศัยถิ่นเดียวและถิ่นสุดท้ายของสิงโตขาว หลังจากกิจกรรมส่องสัตว์นานาชนิดแล้ว เมืองเคปทาวน์ เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจ แวะชมฝูงเพนกวินที่โบลเดอร์บีช และตบท้ายของค่ำคืนด้วยการจิบไวน์ชั้นเลิศ

็

Trick : สนใจสัตว์ชนิดไหน ควรศึกษาสถานที่และวิถีชีวิตของเขาก่อน เพื่อจะได้ไปเยี่ยมชมได้ถูกที่ถูกเวลา

จัดเต็มไม่มีกั๊ก ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์ New York Fashion Week (ตอนที่ 2)

account_circle

ภาค 2 มาแล้วจ้า สำหรับ ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์ New York Fashion Week ในคอลเลคชั่น READY-TO-WEAR ส่วนภาค 2 จะมีแบรนด์อะไรบ้าง เรามาดูกัน

Oscar de la Renta

ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์

ถึงจะเป็นเซต READY-TO-WEAR แต่ก็ไม่ยอมทิ้งความหรูหราอลังการอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ กับชุดที่เพิ่มสีสันความสดใส ด้วยขนนก และชายชุดรุ่ยๆ  รวมไปถึงสีเหลืองสดที่มาแรงในช่วงนี้ แต่เราก็รอดูนะว่า Bridal Fashion week ที่จะมีขึ้นเดือนหน้า แบรนด์นี้จะมีอะไรให้เราดูบ้าง

Rebecca de Ravenel

ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์

เป็นดีไซน์วินเทจที่มีความโบโฮสูงมาก โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแฟชั่นฝรั่งเศสในยุค 50’s ตัวชุดมีความเบาสบาย มาพร้อมดีเทลลูกไม้เหมาะกับงานแต่งในสวนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

Rodarte

ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์

เป็น READY-TO-WEAR ที่หยิบมาใส่เป็นชุดเจ้าสาวได้อย่าง 100% ไม่ต้องบิด ไม่ต้องปรับอะไรเลยสักนิดเดียวสำหรับ Rodarte โดยชุดมีความบานเล็กๆ เหมือนชุดแต่งงานสไตล์ปริ้นเซส แถมเพิ่มลูกเล่นด้วยเท็กเจอร์ของชุดทีมีความพู่ๆ น่ารักอยู่ในตัว

แอบเคืองเบาๆ คริสซี ทีเกน โพสต์หวานปนฮา ในวันครบรอบแต่งงาน 5ปี กับ จอห์น เลเจนด์

account_circle

คริสซี ทีเกน นางแบบและภรรยาสาวคนสวยลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์ ของ จอห์น เลเจนด์ นักร้องชื่อดัง โพสต์ครบรอบแต่งงานของเธอกับเขา อ่านดูแล้วหวานจนมดขึ้น แต่ปิดท้ายด้วยความฮา

เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ทำเอาหลายคนอิจฉา เพราะไม่ว่าจะงานไหน เป็นต้องเห็น คริสซีและจอห์น ควงกันออกงาน แถมยังมีโมเม้นท์สวีท แทบทุกครั้ง !

คริสซี ทีเกน

ล่าสุด คริสซี ทีเกน ได้โพสต์ภาพแต่งงานครบรอบ 5ปีของเธอและจอห์น ผ่านอินตาแกรมพร้อมแคปชั่นว่า

คริสซี ทีเกน

12 years ago today, I met the man of my dreams. And 5 years ago today, we got married. We have two babies and some pups and a life I am grateful to have. My everything, I love you and am so proud of the story we’ve created. But you are an asshole for releasing your @nbcthevoice news on my target launch day for real

“วันนี้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ฉันได้พบกับชายในฝัน และ เราได้แต่งงานกันในวันนี้เมื่อ 5ปีที่แล้ว เราทั้งคู่มีลูกน้อยสองคน และหมาน้อยในชีวิต ฉันรู้สึกขอบคุณที่มีสิ่งเหล่านี้ คุณคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันรักคุณ และภูมิใจในเรื่องราวที่เราสร้างด้วยกันมา แต่คุณงี่เง่ามากที่ปล่อยข่าวว่าคุณจะเป็น โค้ชให้กับ @nbcthevoice ในวันเปิดตัว target จริงของฉัน

เป็นการโพสต์แคปชั่นได้หวานซึ้งมาก แต่ไหงกลับปิดท้ายด้วยการแอบว่าสามีเบาๆ เพราะจริงแล้วๆ คำว่า asshole ถ้าแปลตรงตัว จะหมายความว่า ไอ้ตูด ซึ่งจอห์นก็แก้ตัวด้วยการไปโพสต์ในอินสตาแกรม ว่าขอบคุณภรรยาสุดที่รักเนื่องในวันครบรอบแต่งงาน แถมยังจัดเต็มโปรโมท งานของคริซซี หนักมาก ออกแนวกวนเล็กๆ ว่าแต่เขาโพสต์ว่าอะไรไปดูกัน

What can I say on a day like today? I could talk about the 12 beautiful years I’ve known you. I could talk about the 5 years of wedded bliss, the 2 wonderful children we’ve brought into this world. But I feel the urge to say something far more important. I LOVE your new kitchenware line at @Target. I can’t wait for it to come out on September 30th. I’m so proud of everything you’ve done in your career and how much joy you bring to people’s lives. Did I mention that your Cravings Cookbook is coming out Tuesday? Because it’s coming out Tuesday. I love you, baby.

จะให้ผมพูดว่าอะไรดีในวันนี้ ? ผมกำลังพูดถึง 12ปีที่สวยงาม ผมกำลังพูดถึง 5ปีแห่งความสุขของการแต่งงาน เด็กยอดเยี่ยมทั้งสองคนที่เราได้นำพวกเขามาในโลกใบนี้ แต่ผมก็อยากจะพูดสิ่งที่สำคัญมากกว่านี้ คือ ผมรักเครื่องครัวชิ้นใหม่ของคุณในไลน์ที่อยู่ใน Target ผมนี่อดใจรอไม่ไหวที่จะให้มันออกมาวันที่ 30 กันยายน นี้จริงๆ ผมภูมิใจกับทุกสิ่งที่คุณทำในอาชีพของคุณ และมันจะมีความสุขมากเท่าใดที่คุณนำมันมาในชีวิตของผู้คน ผมได้บอกคุณไปหรือยังนะว่า ตำราอาหารเล่มใหม่ของคุณ กำลังมาในวันอังคารนี้ ? เพราะว่ามันกำลังออกมาในวันอังคารนี้แล้ว ผมรักคุณ ยาหยี

เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าคริสซีจะดีใจ หรือหมันไส้ สามีของเธอมากกว่าเดิม แต่ความรู้สึกก็มาจากข้อความที่เธอโพสต์นี่หล่ะ หวานนนนนน ปนฮา น่ารักมากจริงๆ ครอบครัวนี้

สำหรับความรักของทั้งคู่นั้นเริ่มต้นจากการที่คริสซีได้ไปถ่ายมิวสิควิดีโอเพลง Stereo ของจอห์นเมื่อปี 2007 โดยการถ่ายทำนานถึง 12 ชั่วโมง ทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกัน และหลังจากเลิกกอง เธอได้ไปบอกลา เขาที่โรงแรม และหลังจากคืนนั้นทั้งคู่ก็ไม่เคยบอกลากันอีกเลย อุ๊ปส์

แต่เห็นรักกันมากขนาดนี้ ทั้งคู่ก็เคยมีโมเม้นท์เสียใจเหมือนกันนะ เมื่อจอห์นเคยบอกเลิกคริสซีมาแล้ว ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อหนึ่งว่า ช่วงที่เขาคบกับคริสซีใหม่ๆ เมื่อ 11ปีที่แล้วว่า

“ช่วงนั้นผมเครียดกับงานมาก แล้วก็ยุ่งมากๆ ด้วย ผมเลยรู้สึกว่าถ้าผมโสดชีวิตน่าจะง่ายกว่านี้ ผมเลยบอกคริสซีไปว่า เลิกกันเถอะ แต่คริสซีกลับบอกผมว่า ไม่เลิก”

หลังจากนั้นเธอได้มาโพสต์ในทวิตเตอร์ พร้อมบอกเหตุผลสั้นๆ ว่า มันไม่ใช่การบอกเลิกแบบทั่วๆ ไป ตอนนั้นเขากำลังทัวร์คอนเสิร์ต น้ำเสียงเขาก็ดูเจ็บปวดมาก และหน้าของเขาก็ดูกังวลกับทุกอย่างในชีวิต ฉันก็แบบ “ไม่เลิก”

เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่น่ารักมาก ถึงแม้ทั้งคู่จะเจออุปสรรคใดๆ ก็ยังผ่านมาได้เสมอ แถมตอนนี้ก็ยังมีนางฟ้าน้อยๆ หนูน้อยลูน่า (น้องจันทร์เจ้า) และ เทวดาตัวจิ๋ว ไมลส์ ธีโอดอร์ สตีเฟน มาเป็นโซ่ทองคล้องใจ ครอบครัวยิ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก

ภาพ : chrissyteigen, johnlegend

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ปอย” ตรีชฎา

โปร่งใสชัวร์ “ปอย” ตรีชฎา ย้ำทำถูกต้อง ไม่มีทางเจอคดีเลี่ยงภาษีแบบ “ฟ่านปิงปิง”

“ปอย” ตรีชฎา
“ปอย” ตรีชฎา

“ปอย” ตรีชฎา ไม่หวั่นซ้ำรอยคดีเลี่ยงภาษีแบบ “ฟ่านปิงปิง” ยืนยันในส่วนของสัญญาต่างๆ โปร่งใสแน่นอน

“ปอย” ตรีชฎา

ปอย ตรีชฎา สวยเผ็ดมาก

จากกรณีตกเป็นข่าวอื้อฉาวกับกระแสข่าวเม้าท์กันสนั่นโลกว่าซูเปอร์สตาร์สาวแห่งแดนมังกร “ฟ่านปิงปิง”  วัย 36 ปี เจอข้อหา การเลี่ยงภาษี ด้วยการทำสัญญาที่เรียกว่าสัญญา หยิน-หยาง  ซึ่งก็อาจทำให้เธอหมดอนาคตในแวดวงบันเทิงได้

ล่าสุด ดาราสาวไทยที่ไปโด่งดังไกลถึงฮ่องกงอย่าง “ปอย” ตรีชฎา เพชรรัตน์  ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แฟนๆ เป็นห่วง เพราะต้องทำงานอยู่ในแวดวงบันเทิงจีน งานนี้หลายคนเลยสงสัยถึงเรื่องสัญญาว่าจ้างต่างๆ และรายได้ที่เธอได้รับว่ามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง เมื่อข่าวของ “ฟ่านปิงปิง” กลายเป็นประเด็นที่คนโลกทั่วให้ความสนใจ โดยสาวปอยเล่าให้ฟังอย่างละเอียดว่าการทำงานที่ฮ่องกงของเธอนั้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลย เพราะว่าทำทุกอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอนแน่นอน

“ปอย” ตรีชฎา

ฟ่านปิงปิง สวยตลอดกาล

งานที่ประเทศฮ่องกงของปอยต้นสังกัดจะเป็นคนดูแลทั้งหมดเลยใช่ไหม?

“ใช่ค่ะ ทางต้นสังกัดค่ะ ซึ่งทางฮ่องกงเป็นฝ่ายช่วยดูแลปอยทุกๆ อย่างเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก็ให้ทางฮ่องกงช่วยดูเป็นหลักเลย หลังจากที่ปอยบอกว่าเซ็นต์สัญญาเพิ่มไป เขาก็จะคอยช่วยดู ที่จริงบางอย่างเขาก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมีส่วนแบ่งในเรื่องของรายได้แต่ว่าเขาช่วยดูในเรื่องของสัญญาเงื่อนไขต่างๆ เท่านั้นเองค่ะ”

อย่างนี้ถ้าจะมารับงานแสดงที่ไทย ทางฮ่องกงจะเป็นคนดูให้หรือเปล่า?

“จริงๆ แล้วปอยดูเป็นหลักค่ะ จริงๆ แล้วงานแสดงถ้าที่ไทยปอยจะเป็นคนดูเอง”

ตอนนี้ก็มีข่าวดังเกี่ยวกับเรื่องสัญญา หยิน-หยาง เรากังวลไหม?

“ไม่มีความกังวลเลยค่ะ เพราะว่าบริษัทของปอยทางฮ่องกงเองเป็นบริษัทที่มีความเข้มงวดมากด้วยอายุงานบริษัทของปอยที่ฮ่องกงมีอายุยาวนานก่อนที่จะปอยจะเกิดอีกค่ะ เพราะฉะนั้นในเรื่องของความถูกต้องทางบัญชีเขาค่อนข้างจะดีมากๆ เลยค่ะ ปอยเองก็ต้องยอมรับเงื่อนไขตั้งแต่แรกแล้วว่าในส่วนรายได้ของปอยจะต้องถูกหักภาษีท้ังหมดก่อนที่จะคำนวนมาเป็นรายได้สุทธิหลังสุดของปอย”

“ปอย” ตรีชฎา

ฟ่านปิงปิง ในลุคใสๆ

ด้วยความที่เราเป็นคนต่างชาติจะถูกเพ่งเล็งไหม?

“ปอยว่ายิ่งคนต่างชาติยิ่งง่ายต่อการทำงานเพราะว่าเราไม่ได้รับเงินโดยตรง เรารับเงินจากทางบริษัทปอยก็ยังไม่เคยรับโดยตรงเลยค่ะ คือเรื่องของทางกฎหมายเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ และปอยค่อนข้างให้ความสำคัญเพราะเราไปทำงานในฐานะของชาวต่างชาติปอยจะต้องแน่นอนว่าสิ่งที่เราทำงานจะต้องถูกต้อง ต้องบอกว่าปอยโชคดีด้วยที่มีบริษัทที่เป็นผู้ดูแลปอยในทุกๆ เรื่องโดยเฉพาะเรื่องของบัญชีปอยว่าเป็นส่วนสำคัญมากๆ ด้วยค่ะ”

พอมีข่าวออกมาเกี่ยวเรื่องเสียภาษีที่นั่นเขามีกระแสมากน้อยแค่ไหน?

“ในส่วนตัวปอยยังไม่ได้คุยกับใครเลยคะเพราะทางต้นสังกัดปอยไม่ได้อ้างอิงถึงประเด็นนี้เลยเพราะว่าอย่างที่บอกเราก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง”

“ปอย” ตรีชฎา

ใสๆ ในแบบ “ปอย” 

ทางนั้นเขาจะจำกัดค่าตัวนักแสดงไม่ให้กระทบกับหนังกระทบกับปอยไหม?

“ปอยคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะจริงๆ แล้วเป็นการควบคุมถึงมาตรการในอนาคตด้วย ปอยคิดว่าเป็นการช่วยทำให้ยุติกับทางผู้จัดดี ปอยเห็นด้วยนะคะ ปอยมองว่าจะเป็นการกลั่นกรองในสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องมากกว่าเดิมมันง่ายกับคนที่ทำถูกต้องอยู่แล้ว แต่อาจจะยากกับคนที่ผิดนะคะ”

แล้วตอนนี้จะได้เห็นผลงานของปอยที่จีนเมื่อไร?

“เมื่อวานเป็นวันแรกที่ซีรีส์ฮ่องกงของปอยออนแอร์วันแรก ถ่ายทำจบไปแล้วหลายเดือนเกือบปี ปรากฎว่ามีการกรูฟของฟิล์มบอร์ดของจีนเพราะว่าตลาดหลักก็คือจีนแต่เราฉายกันที่ฮ่องกงเมื่อวานก็เป็นวันแรกก็น่าจะมีการฉายไปอีกประมาณสามเดือน”

ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้าง?

“กระแสดีมากค่ะ เหมือนกับเป็นละครเรื่องแรกของปอยเลยค่ะ หลังจากเซ็นต์สัญญาตั้ง 5 ปีเพิ่งได้เล่นครั้งแรกเลย”

แสดงว่าหายเหนื่อยเลย?

“อย่างที่บอกเพิ่งเริ่มเมื่อวานวันแรกเดี๋ยวก็จะต้องฝากคนไทยติดตามกันด้วยนะคะรู้สึกว่าจะมีชมออนไลน์ได้ด้วยนะคะ”

“ปอย” ตรีชฎา

บทบาทในเรื่องเราเล่นเป็นใคร?

“นักฆ่าค่ะ เรื่องนี้ก็คือมีตัวหลักผู้หญิงสามคนปอยก็เป็นหนึ่งในนั้น เรียกว่าตัวเอกได้เลยค่ะ และก็มีผู้ชายสามคน เป็นคู่ คู่เป็นนักบาสฮ่องกง เป็นบู๊เลยคะมีการจับมัดถูกฆ่า ฆ่าคน ก็บทบาทสนุกดีค่ะ ก็จากภาพยนตร์ที่เพิ่งออกเดือนที่แล้วที่ปอยโพสต์ในอินสตราแกรมแล้วมีคนมาดูเรื่องนั้นก็จะเป็นการบู๊ด้วยตัวเองเกี่ยวกับการตามล่าหาสมบัติแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราตามล่าก็จะเป็นอีกคนละแนวกันค่ะ”

เรียกว่าปีนี้มาบู๊เยอะ?

“ใช่ๆ ปีนี้มาบู๊เยอะ เดี๋ยวจะมีอีกเรื่องที่เป็นจีนกำลังภายในด้วยค่ะ ซึ่งอันนี้ที่ปอยเล่าให้ฟังว่าปอยอยากเล่นมากอันนี้ค่าตัวน้อยก็ยินดีเล่นอยากเล่นมานานชอบค่ะ คือตอนที่ปอยไปเวิร์คช็อป เขาก็บอกโอโห้เหมือนมีอินเนอร์จริงๆ แล้วเรามีมากเราชอบมากค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ”

ภาพ IG @poydtreechada @bingbing_fan

น้องอชิ

เผลอแป๊บเดียว น้องอชิ ลูก “พ่อฟลุค-แม่โบ” โตเป็นหนุ่ม หล่อพุ่งในลุคคูลๆ

น้องอชิ
น้องอชิ

เด็กสมัยนี้โตไวกันจริงๆ เผลอแป๊บๆ น้องอชิ อายุ 15 ปี โตเป็นหนุ่มเต็มวัย แถมความหล่อได้พ่อมาแบบเต็มๆ

น้องอชิ

เรียกว่าโตเป็นหนุ่มเต็มวัยแล้ว สำหรับ น้องอชิ อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช หนุ่มน้อยหน้าตาหล่อคม มีส่วนผสมที่ลงตัว ระหว่าง พ่อฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช กับ แม่โบ- ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ เศวตนันท์ แต่หลายคนก็บอกว่า “อชิ” ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนคุณพ่อมาก จากที่เคยเห็นเดินตามคุณพ่อคุณแม่เวลาไปออกงานต่างๆ มาในวันนี้เด็กน้อยคนนั้นโตเป็นหนุ่มเต็มวัย อายุ 15 ปี ใช้คำนำหน้าว่า “นาย” แล้ว

น้องอชิ

น้องอชิ

แถมความหล่อยังได้พ่อฟลุคมาแบบเต็มๆ เรียกว่าหล่อพุ่งทะลุพิกัด ส่วนความคูลไม่ต้องพูดถึง เพราะอชิเป็นคนที่ชอบแต่งตัวแนวสตรีทอยู่แล้ว ลุคที่เห็นกันบ่อยก็จะออกแนวคูลๆ หน่อย โตวันโตคืนแถมหล่อขนาดนี้ นี่ขนาดไม่ได้เป็นดารามีผลงานในวงการบันเทิง แต่แฟนคลับเพียบนะจ๊ะ ก็ไม่รู้ว่าพ่อฟลุค-แม่โบ จะให้น้องเข้าวงการหรือเปล่า เพราะเห็นที่ผ่านมา คุณพ่อมักจะพาน้องไปทำรายการท่องเที่ยวด้วยบ่อยๆ นี่ถ้าได้เป็นพระเอกหนัง หรือ ละคร สักเรื่องรับรองได้ว่าสาวๆ กรี๊ดกระจาย

น้องอชิ

น้องอชิ

ส่วน “โบ ชญาดา” เคยให้สัมภาษณ์ถึงลูกชายว่า “ความสุขของโบอยู่ที่อชิค่ะ เรามีความสุขทุกวันที่ได้อยู่ใกล้กัน มันเป็นความสุขคนละแบบกับตอนที่ลูกยังเล็ก พอลูกโตขึ้น เขาก็เหมือนพาโบไปพบเจอกับสิ่งใหม่ๆ แล้วก็ได้เข้าใจความเป็นแม่มากขึ้น แล้วก็ยังสนุกกับการเลี้ยงลูกในทุกๆ วัน เราอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน ลูกเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยกำหนดชีวิตของโบ เพราะถ้าเขามีเป้าหมายอย่างไร ก็หมายถึงเป้าหมายของแม่เหมือนกัน อชิคือทุกอย่างของโบจริงๆ ค่ะ”

น้องอชิ

ด้าน “ฟลุค เกริกพล” ที่เคยเจอกระแสดราม่าเรื่องเลี้ยงลูกว่าให้ลูกใช้เงินมือเติบ ก็ได้ชี้แจงว่า “ตอนนี้ลูกชายเริ่มโตเป็นหนุ่ม คงมีค่าใช้จ่ายหรือของที่อยากได้ค่อนข้างเยอะ ตนมองว่าเงินที่ให้ไม่ได้เยอะเกินไป ให้เป็นรายเดือน เดือนละ 20,000 บาท เพราะเเค่ค่าอาหารที่โรงเรียนก็เดือนละ 8,000 แล้ว ตั้งใจสอนให้ลูกเก็บเงินซื้อของเอง เลยให้เผื่อไว้ เเละที่ผ่านมาก็สังเกตเห็นว่าลูกมีน้ำใจต่อเพื่อนๆ มาก”

น้องอชิ

อีกอย่างที่น่าชื่นชมของ โบและฟลุค ถึงแม้จะเลิกรากันไปนานแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังช่วยกันเลี้ยงลูก และมักจะชวนกันไปเที่ยวแบบสองครอบครัวบ่อยๆ ทั้ง “แบงค์-กฤชพล เศวตนันท์” สามีใหม่ของโบ และ “ลี-” แฟนใหม่ของฟลุค ต่างก็สนิทสนมกับอชิ ซึ่งถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่น่าชื่นชม และไม่แปลกใจทำไมอชิถึงเป็นเด็กดี เรียบร้อย อยู่ในโอวาทพ่อแม่ เพราะมีต้นแบบที่ดีแบบนี้นี่เอง

น้องอชิ

น้องอชิ

ภาพ IG @fluke777 @bo_achi  @achirawa

เผยเคล็ดลับ หุ่นปั๊วะ หน้าเป๊ะ ของ เคต เบ็กคินเซล นักแสดงฮอลลีวูด คุณแม่ลูกหนึ่งในวัย 45

เคต เบ็กคินเซล นักแสดงสาวฮอลลีวู้ด ชาวอังกฤษ จากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Pearl Harbour และบทแวมไพร์สาวในเรื่อง Underworld กับหุ่นที่เป๊ะ จนสาวๆ วัยละอ่อนยังต้องอาย !!

เคต เบ็กคินเซล

ใครจะเชื่อว่าหุ่นปั๊วะ หน้าเป๊ะของ Kate Beckinsale (เคต เบ็กคินเซล) นั้น จะอยู่ในวัยเลข 4 อีกทั้งเธอยังเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งของ สาวน้อย ลิลี่ ชีน วัย 19ปี กับอดีตสามี ไมเคิล ชีน

เคต เบ็กคินเซล

ซึ่งนักแสดงสาวในวัย 45ปี นี้ได้เผยเคล็ดลับที่มาของหุ่นนาฬิกาทราย ว่ามาจากการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และรับประทานอาหารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อรักษาหุ่นให้ดูดี อีกทั้งหน้าตายังผ่องใส ดูอ่อนกว่าวัย ริ้วรอยนี่แทบไม่เห็น

แพรวดอทคอม ก็ไม่พลาดที่จะนำเคล็ดลับของ เคต เบ็กคินเซล มาแชร์ให้สาวๆ ได้ลองไปปรับใช้กันดู รับรองว่าหากทำได้ครึ่งของเธอ หุ่นสวยๆ ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่จ้า

สำหรับเคล็ดลับการทานอาหารของเคตนั้นเธอเคยให้สัมภาษณ์ทางสื่อออนไลน์ว่า

“ฉันเคยเป็นมังสวิรัติมาค่อนข้างนาน เพราะฉันรู้สึกคลื่นไส้เมื่อทานเนื้อ แต่ตอนที่ฉันถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Pearl Harbour ฉันไม่มีพลังงานเพียงพอ และในตอนนั้นเทรนเนอร์ได้บอกกับฉันว่า คุณควรเริ่มทานเนื้อไก่และปลา ดังนั้นฉันจึงทำตามที่เขาบอก และมันก็ช่วยฉันได้ขจริงๆ ลิลี่ (ลูกสาว) และฉันเริ่มทานคลีน เราทาน sautéed vegetables (ผัดผักโดยเลือกใช้น้ำมัน) เช่น กะหล่ำดาว บร็อคโคลี่ เนื้อไก่ และปลา”

และเธอยังบอกอีกว่า “ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ฉันรู้สึกว่ามันมีผลกระทบต่อร่างกายค่อนข้างเร็ว ดังนั้นเครื่องดื่มของฉันทั้งหมดจะไม่มีแอลกอฮอล์”

หลายคนเชื่อว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เนี่ย ส่วนมากไม่มีแคลอรี่ แต่สาวๆ ขารู้ไหมว่า เบียร์เอย เหล้าเอย ไวน์เอย เนี่ย ตัวแคลอรี่เยอะเชียวล่ะ รู้แบบนี้แล้ว วันหลังก็ดื่มน้อยๆ หน่อยนะ

อีกหนึ่งเคล็ดลับของคุณแม่ยังสาว ที่เธอทำเป็นประจำทุกวัน และเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เธอเป็นสาววัย 40กะรัต ที่ยังสวยไม่สร่างคือ  “โดยทั่วไปแล้วตอนตื่นนอน ฉันจะทานอาหารเช้า หลังจากนั้นจึงออกกำลังกาย ฉันชอบที่จะทำแบบนี้ทุกๆ เช้า”

นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เคต มีหุ่นที่เป๊ะปัง จนทำให้สาวน้อย สาวใหญ่ ต้องตาร้อนกับหุ่นของเธอ ซึ่งเธอก็ได้แชร์เคล็ดลับเหล่านี้มาให้สาวๆ ได้ไปลองทำตามกัน

“ฉันออกกำลังกายค่อนข้างหนัก 5-6 วัน ต่อสัปดาห์ โดยออกกำลังกายแบบ circuit training (การออกกำลังกายแบบบอดี้เวท ผสมกับคาร์ดิโอ ซึ่งไม่ต้องใช้เครื่องมือเช่น แอโรบิก, เวทเทรนนิ่ง เป็นต้น) สลับกับ brutal cardio เช่น การวิ่งบนลู่วิ่ง แต่สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับ circuit training คือ การที่คุณไม่เคยทำสิ่งหนึ่งนานๆ แล้วคุณไปถึงจุดนั้นได้ จนเกือบจะทนไม่ได้ มันจะเปลี่ยนบางอย่าง (รูปร่าง) ไปเลยล่ะ”

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า เคตมีลูกสาววัย 19 ลิลี่สาวน้อยหน้าตา น่ารัก นอกจากเธอจะสวยเหมือนแม่แล้ว ลิลี่ยังชอบออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์เหมือนแม่ของเธอด้วย เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ เลยนะเนี่ย

โยคะ กิจกรรมสุดโปรดของแม่ลูกคู่นี้
ลิลี่ ชีน
หุ่นเป๊ะเหมือนแม่เลยค่ะลูกสาว
สวยได้แม่จริงๆ

หมดยุคแล้วกับสาวหุ่นขี้ก้าง ผอมเป็นกุ้งแห้ง ดูไม่แข็งแรง เดินแล้วเหมือนตัวจะปลิว หรืออ้วนจนสุขภาพไม่ดี เพราะสมัยนี้ผู้หญิงต้องแข็งแรง หุ่นเฟิร์ม ถึงจะมีคนบอกว่าเราเป็นหมู แต่ก็ต้องเป็นหมูที่แข็งแรงนะคะสาวๆ ไม่ว่าจะอายุเลขไหน เราก็ยังหุ่นเป๊ะ สวยปัง เหมือนสาวแรกรุ่น ได้เสมอ เอ้าาาา มาเริ่มดูแลตัวเองกันเลยจ้า

ภาพ : katebeckinsale, lily_sheen

 

เปิดคลังมรดกของชาติ “หนังสือหายาก” แห่งรัตนโกสินทร์

Alternative Textaccount_circle

หนังสือนับหมื่นเล่มถูกเก็บรักษาอย่างเป็นระเบียบในห้องสมุดของสำนักพิมพ์ต้นฉบับ หลายเล่มในนั้นเป็นหนังสือหายากในระดับที่เรียกว่า ได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เคยเห็นเล่มจริง วันนี้แพรวเดินทางไปหา คุณธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ เจ้าของห้องสมุดนั้น เพื่อพูดคุยถึงความหลงใหลในหนังสือหายาก พร้อมทั้งเรื่องราวของเอกสารชิ้นสำคัญของชาติ เช่น หนังสือของราชทูตฝรั่งเศส เชอวาลิเยร์ เดอ โชมองต์ ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช, แผนที่กรุงเทพฯ-ธนบุรี ฉบับ พ.ศ. 2430 จนถึงหนังสือโป๊เล่มแรกของประเทศไทย

เปิดคลังมรดกของชาติ “หนังสือหายาก” แห่งรัตนโกสินทร์

บทที่หนึ่งของนักสะสม                                

ตั้งแต่สมัยเด็ก วิชาที่ผมชอบเรียนคือประวัติศาสตร์ เวลาครูสอนวิชานี้ เพื่อนหลายคนอาจง่วงนอน แต่ผมสนุกมาก จนถึงวัยทำงานก็ยังแสวงหาความรู้ทางประวัติศาสตร์อยู่เรื่อยๆ วันเสาร์-อาทิตย์ก็ชอบไปเดินหาหนังสือเก่าที่สวนจตุจักรและอีกหลายแห่งจนรู้จักเกือบทุกร้าน หนังสือชุดแรกๆ ที่สนใจคือ หนังสือที่ระลึกงานศพของบุคคลที่มีชื่อเสียงในอดีต โดยเนื้อหาด้านในมักมี 3 ส่วนสำคัญหลักๆ คือ ประวัติผู้ตาย คำไว้อาลัยของเพื่อนสนิทมิตรสหาย และเนื้อเรื่องหลักซึ่งเป็นสิ่งที่ผมสนใจ เพราะมักจะเป็นเรื่องราวที่หาอ่านได้ยาก เช่น พระราชพงศาวดาร วรรณคดี ในขณะที่เนื้อหาในสองส่วนแรกก็มักจะมีเกร็ดประวัติศาสตร์อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งหลายครั้งมีเนื้อหาที่เราคาดไม่ถึง

หนังสือหายาก
คุณธงชัย ลิขิตพรสวรรค์

ผมเริ่มสะสมหนังสือหายากมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ตอนนั้นทำงานเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบาย สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในสมัยพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อน จะได้ทำงานการเมือง โดยเป็นเลขาฯให้คุณเดช บุญ-หลง ส.ส.พรรคชาติไทย พอคุณเดชเลิกเล่นการเมือง ผมก็ขออนุญาตออกมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบ นั่นคือการเปิดสำนักพิมพ์ต้นฉบับในปี พ.ศ. 2540 เพราะมีความคิดว่า มีหนังสือเก่าๆ ที่พิมพ์ครั้งเดียวแล้วไม่ได้รับการพิมพ์ซ้ำอีกเลย ทั้งที่ประวัติศาสตร์ของประเทศอยู่ในหนังสือเหล่านั้น ทำไมไม่นำมาพิมพ์ใหม่เพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ เกณฑ์ของผมจะเลือกหนังสือที่เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่สูญหายไปแล้ว 50-100 ปีเป็นอย่างน้อย และส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่ไม่เคยพิมพ์ซ้ำมาก่อน เพื่อเก็บรักษาประวัติศาสตร์หน้าสำคัญให้คงอยู่ต่อไป

พอตั้งสำนักพิมพ์ ผมก็เริ่มซื้อหนังสือเยอะขึ้น บางครั้งใช้วิธีซื้อต่อ เหมาซื้อทุกเล่มจากนักสะสมที่เสียชีวิต เคยได้มาคราวเดียว 8,000 เล่ม กับ 12,000 เล่ม เป็นเงินหลักแสนบาท จากนั้นต้องลงทะเบียนเป็นข้อมูลว่ามีหนังสืออะไรบ้าง ซึ่งรวมทั้งหมดตอนนี้น่าจะมีหนังสืออยู่ในหลักหมื่นเล่ม

 

การเก็บรักษาเอกสารโบราณทรงคุณค่า

หนังสือหายากหรือหนังสืองานศพจะชำรุดตามกาลเวลา บางทีมีแมลงที่กินหนังสือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Bookworm เป็นแมลงปีกแข็ง สีน้ำตาลตัวเล็กเท่ามด จะเข้าไปกินเยื่อของปกหนังสือ โดยเฉพาะหนังสือปกแข็ง มันจะเข้าไปทำรังในเล่ม ออกลูกเป็นหนอน แล้วกลายเป็นแมลงตัวนี้ ถ้าเจอก็ต้องทิ้งปกอย่างเดียว เพราะตัวมันเล็กมาก เวลาเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในปกหนังสือ ไม่ว่าทำอย่างไรก็ฆ่าไม่ได้หมด ถ้าผมเจอก็ทิ้งปกเก่า ทำเล่มให้สะอาด แล้วส่งซ่อมทำปกใหม่ ถ้าเป็นเล่มที่มีคุณค่าจะทำปกแบบเดิม เพื่ออนุรักษ์หนังสือเล่มนั้นไว้ ซึ่งค่าใช้จ่ายตกเล่มละพันบาทขึ้นไป

หนังสือหายาก
ปกหนังสือของราชทูตฝรั่งเศส เชอวาลิเยร์ เดอ โชมองต์ ที่คุณธงชัยส่งไปทำการอนุรักษ์ (ซ่อมแซมในระดับเข้มข้น) ที่ประเทศอังกฤษ ทำให้หนังสืออายุกว่า 300 ปีเล่มนี้ยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์

หนังสือเล่มหนึ่งที่ผมรักษาด้วยวิธีนี้คือ หนังสือของราชทูตฝรั่งเศส เชอวาลิเยร์ เดอ โชมองต์ ที่มาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พอท่านราชทูตกลับประเทศก็เขียนบันทึกไว้ว่า ได้เจออะไรที่สยามบ้าง หนังสือเล่มนี้พิมพ์ปี พ.ศ. 2228 (ค.ศ. 1685) ผมส่งไปทำการอนุรักษ์ที่ประเทศอังกฤษ จ่ายไปกว่า 2 หมื่นบาท เป็นวิธีการซ่อมในระดับซ่อมจดหมายเหตุ โดยนำหนังสือแช่ลงในน้ำที่มีค่าความเป็นกลาง เพื่อทำให้กระดาษคลายตัวเป็นแผ่นๆ จากนั้นนำมาผึ่งให้แห้งดี แล้วซับด้วยกระดาษพิเศษ ทำแบบนี้ทุกหน้า จากนั้นก็นำมาเย็บเข้าเล่มใหม่

หนังสือหายาก
รูปเรือพระที่นั่งในหนังสือของราชทูตโชมองต์ที่มาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2228

 

3 หนังสือหายากของรัตนโกสินทร์

1. บทสวดมนต์หลวง จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ในปี พ.ศ. 2423 โดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเรียบเรียง ถือเป็นหนังสือที่ระลึกงานศพเล่มแรกของประเทศไทย และเป็นหนังสือที่นักสะสมทุกคนใฝ่ฝันว่าจะได้ครอบครอง จำนวนพิมพ์ในครั้งนั้นประมาณ 10,000 เล่ม ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาพระราชทานแจกจ่ายแก่วัดต่างๆ ใช้ในการฝึกซ้อมสวดมนต์ให้ถูกต้อง หนังสือเล่มนี้มีอายุเกือบ 140 ปีแล้ว ปัจจุบันหายากมาก

หนังสือหายาก

หนังสือหายาก
หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ นับเป็นหนังสือที่ระลึกงานศพเล่มแรกของไทย มีความหนาราว 300 หน้า เป็นจุดเริ่มต้นของธรรมเนียมที่แพร่หลายในหมู่ชนชั้นสูงจนถึงบุคคลทั่วไป ที่นำวรรณคดีจนถึงบทสวดมนต์มาตีพิมพ์เป็นหนังสือที่ระลึกงานศพ

2. Grammatica Linguae Thai ตำราเรียนไวยากรณ์ภาษาไทยเล่มแรกสำหรับชาวยุโรป แต่งโดยพระสังฆราชปัลเลอกัวซ์ (Jean-Baptiste Pallegoix) บาทหลวงสังกัดคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส ปฏิบัติหน้าที่มิชชันนารีในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 3 ถึงสมัยรัชกาลที่ 4 โดยแบบเรียนนี้พิมพ์ที่โรงพิมพ์อัสสัมชัญ เมื่อปี พ.ศ. 2393

หนังสือหายาก

ท่านสังฆราชปัลเลอกัวซ์เขียนแบบเรียนเป็นภาษาละติน โดยมีอักษรไทยกำกับ เพื่อสอนให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์เข้าใจภาษาไทยขั้นพื้นฐาน โดยจัดพิมพ์แค่ 60 เล่ม ตามหลักฐานเท่าที่ผมรู้มีเหลืออยู่ในปัจจุบัน 5 เล่ม คือ ที่หอสมุดแห่งชาติ 1 เล่ม หอสมุดกลาง 1 เล่ม หอสมุดมหาวิทยาลัยวาเซดะ ประเทศญี่ปุ่น 2 เล่ม และ อยู่ในความครอบครองของผม 1 เล่ม ซึ่งประมูลมาจากคริสตี้ไทยแลนด์ เมื่อ พ.ศ. 2546 เป็นเงิน 72,000 บาท โดยผมอนุญาตให้สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนำไปพิมพ์ให้เหมือนต้นฉบับ มีจำนวนพิมพ์ 500 เล่ม ปัจจุบันไม่น่าจะเหลือแล้ว

หนังสือหายาก

ในหนังสือเล่มนี้ยังบันทึกรูปแบบภาษาที่คนไทยใช้ในยุคต้นรัตนโกสินทร์ เช่น พระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งกับขุนนาง ขุนนางพูดกับไพร่ ฯลฯ ซึ่งว่าไปแล้วนี่คือไดอะล็อกที่คนทำละครย้อนยุคสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี

หนังสือหายาก
หนึ่งในเนื้อหาสำคัญของ Grammatica Linguae Thai ตำราเรียนไวยากรณ์ไทยเล่มแรกสำหรับชาวยุโรป คือ พระสังฆราชปัลเลอกัวซ์ได้ค้นคว้าหนังสือที่คนไทยอ่านจากหอสมุดหลวงในพระบรมหาราชวัง แล้วบันทึกชื่อหนังสือต่างๆ ไว้ในเล่ม โดยหนึ่งเล่มที่สำคัญคือ ขุนช้างขุนแผน ซึ่งท่านสังฆราชสรุปเรื่องย่อด้วยข้อความสั้นๆ ว่า “สหายเป็นทหารสองคนแย่งเมียกัน”

3. กล่อมครรภ์ หนังสือโป๊เล่มแรกของประเทศไทย เขียนโดยหลวงวิลาศปริวัตรานุสรณ์ (ครูเหลี่ยม วินทุพราหมณกุล) ในปี พ.ศ. 2440 คุณสุชาติ สวัสดิ์ศรี เคยบอกผมว่า กล่อมครรภ์เป็นหนังสือคลาสสิกและหายากมาก มีคนไม่มากที่เคยเห็น ในขณะที่ครูเหลี่ยมก็ใช้ภาษาบรรยายเรื่องราวอีโรติกได้สวยงาม สละสลวย และให้อารมณ์ ความรู้สึกที่สุดยอดมาก เช่น

หนังสือหายาก
หนังสือกล่อมครรภ์ หนังสือโป๊เล่มแรกของไทย โดยครูเหลี่ยม หรือหลวงวิลาศปริวัตรานุสรณ์ นักเรียนทุน วิชาครูรุ่นแรกที่ถูกส่งไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษ ในสมัยรัชกาลที่ 5

“…ข้าพเจ้าบีบคลำน่าขาแล้วร่นมาถึงท้องถึงนม แล้วตลบกลับลงไป แลขึ้นมาอีกสองสามหน ความพิศวาสดิ์นั้นรุนแรง ราวกับจะคลั่งด้วยหน้ามืดตัณหา ข้าพเจ้าจึ่งว่า ก้อนโลหิตตกจะทำให้เปื้อนเปรอะ เพราะฉนั้นต้องเปลื้องผ้าเสียก่อน ถึงหล่อนก็ควรเปลื้องออกอีกเหมือนกัน…” (ภาษาตามต้นฉบับ)

หนังสือหายาก

นักประวัติศาสตร์วรรณกรรมไทยฮือฮามากว่าผมหาเล่มนี้มาได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่าด้วยความบังเอิญ ผมเจออยู่ที่โซนขายหนังสือเก่าที่สวนจตุจักร พอเห็นก็ตาโตเลย รีบหยิบหนังสืออีก 20 เล่มมาวางทับไว้ แล้วถามเจ้าของร้านว่าถ้าซื้อยกตั้งคิดเท่าไร เพราะถ้าเจ้าของร้านเห็นซื้อเล่มนี้แค่เล่มเดียวอาจจะแพงมาก พอซื้อเป็นตั้ง เจ้าของร้านบอกว่า 2,000 บาทละกัน แต่ผมต่อเหลือ 1,500 บาท แล้วยกหนังสือกลับบ้านทั้งตั้ง ทั้งที่จริงๆ อยากได้เล่มเดียวนั่นแหละ

 

แผนที่กรุงเทพฯ-กรุงธนบุรีที่แม้แต่หอจดหมายเหตุแห่งชาติยังไม่มี

เอกสารโบราณชุดหนึ่งที่ผมเก็บรักษาไว้คือ แผนที่กรุงเทพฯ-ธนบุรี ฉบับ พ.ศ. 2430 ซึ่งเดิมทีผมมีความรู้เพียงแค่อาจารย์ท่านหนึ่งคือ พลตรี หม่อมราชวงศ์ศุภวัฒย์ เกษมศรี เคยให้ข้อมูลผมว่า เวลาไปตลาดของเก่าช่วยดูแผนที่กรุงเทพฯด้วย ที่ผ่านมาพวกเราใช้แต่แผนที่ฉบับนายวอนนายสอนที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2439 มาตลอด แต่อาจารย์สงสัยว่าจะมีแผนที่อีกฉบับที่ยังหาไม่เจอ นั่นคือ แผนที่กรุงเทพฯ-กรุงธนบุรี ฉบับปี พ.ศ. 2430

ความสำคัญของแผนที่กรุงเทพฯชุดนี้คือ เป็นแผนที่ที่สำรวจและตีพิมพ์ให้เห็นกรุงเทพมหานครในยุคต้นรัชกาลที่ 5 อย่างละเอียด มาตราส่วน 1 : 5000 โดยมีทั้งหมด 36 แผ่น เป็นฝั่งกรุงเทพฯ 18 แผ่นและฝั่งธนบุรีอีก 18 แผ่น ซึ่งผมมีในส่วนของฝั่งกรุงเทพฯครบ แต่ของฝั่งธนบุรีขาดไป 5 แผ่น โดยแผนที่แต่ละแผ่นมีขนาด 22 x 34 นิ้ว ถือว่าใหญ่มาก ฉะนั้นจึงเห็นกรุงเทพมหานครในทางกายภาพอย่างละเอียด เช่น ถนนบางลำพู วัดบวรนิเวศ โรงเรียนสตรีวิทยา ป้อมมหากาฬ แม่น้ำเจ้าพระยา แม้กระทั่งถนนหนทาง บ้านเรือน แพที่ลอยอยู่ในน้ำ เป็นแผนที่ที่ทุกคนตะลึง ไม่ว่าจะเป็นนักประวัติศาสตร์ นักสถาปัตยกรรม รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้เห็นโครงสร้างของกรุงเทพฯและกรุงธนบุรี ในปี พ.ศ. 2430

หนังสือหายาก
แผนที่กรุงเทพฯฉบับ พ.ศ. 2430 แบ่งเป็นฝั่งกรุงเทพฯและฝั่งธนบุรี โดยแผนที่ฝั่งกรุงเทพฯส่งไปพิมพ์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2430 มีทั้งหมด 18 แผ่น ส่วนแผนที่ฝั่งธนบุรีตีพิมพ์ให้หลัง 9 ปี โดยส่งไปพิมพ์ที่เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย

นอกจากนี้ยังเป็นแผนที่ชุดที่ไม่เคยปรากฏในแหล่งเก็บสะสมของทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นหอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมแผนที่ทหาร หรือกรมที่ดิน เป็นแผนที่ที่พิมพ์ขึ้นมาแล้วสาบสูญ เนื่องจากอะไรก็ไม่ทราบได้ แต่มีความสำคัญมากในแง่ของนักประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม แม้กระทั่งนักเศรษฐศาสตร์ เพราะสามารถเห็นกรุงเทพมหานครเมื่อ 130 ปีก่อนอย่างละเอียด

ผมเจอแผนที่ชุดนี้เมื่อปี พ.ศ. 2542 ที่ร้านขายของเก่าย่านสวนผัก ตอนแรกเจ้าของร้านถามผมว่าสนใจโฉนดที่ดินโบราณไหม ผมเดินไปถึงก็เห็นม้วนกระดาษแข็ง 2 ม้วนอยู่ในกระเป๋าเดินทางเก่าในยุครัชกาลที่ 7 ผมค่อยๆ คลี่กระดาษม้วนแรกออกก็เห็นแผนที่วัดโพธิ์ มีเจดีย์ย่อมุม 12 ชัดแจ๋ว คมกริบ ตอนนั้นขนลุกเลย นี่ไม่ใช่โฉนดที่ดิน แต่เป็นแผนที่กรุงเทพฯ-ธนบุรี ฉบับ พ.ศ. 2430 พอคลี่กระดาษอีกม้วนก็เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาลศิริราช แบบชัดแจ๋วเหมือนกัน ผมตัดสินใจซื้อทันที ซึ่งตอนหลังเจ้าของร้านก็รู้แล้วนะครับว่าไม่ได้ขายโฉนดที่ดินให้ผม แต่เป็นแผนที่ชิ้นสำคัญ แกยังแซวว่า แหม…คุณอ้วน

 

ความเป็นมาของหนังสือหายากแห่งรัตนโกสินทร์ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่น่าสนใจอีกเพียบ สามารถติดตามอ่านเรื่องราวฉบับเต็มแบบจุใจได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 936


 

‘ระวัง!!! หากเจ้าชู้ได้เรื่องแน่ เพราะรถไฟอาจชนกันแรง’ ดูดวงรายวัน 15 กันยายน 2561

ดูดวงรายวัน 15 กันยายน 2561 #ป้าเนาว์พยากรณ์ แม่นเป๊ะสายแข็ง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : งานประจำที่ทำมานาน วันนี้ท่านต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ และความสามารถส่วนตัวสูงเพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ บางครั้งอาจเข้าไปเกี่ยวข้องกับงานบริการ จนท่านรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศการทำงาน และผู้ร่วมงานจนอยากจะลาออก

การเงิน : มาจากการทำงานเป็นหลัก ขณะเดียวกันท่านก็ใช้เงินหมดไปวันๆ ไม่มีเก็บเลย

ความรัก : วันนี้หากท่านไปเที่ยวปาร์ตี้ ระวังตัวไว้หน่อย เพราะวันนี้พวกไม่พูดพล่ามทำเพลงอาจกระโจนเข้าใส่เลย แล้วท่านก็จะเกิดปัญหาเรื่องมือที่สามตามมาทันที คนโสด เจ้าชู้ หยอดคำหวานโน่นนี่ไปทั่ว ระวังรถไฟจะชนกันนะคะ

สุขภาพ :  ระวังความเครียด ความโกรธ และโมโหร้ายจะทำลายสุขภาพจิตและร่างกาย ทำให้ปวดไมเกรน

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  ไอเดียท่านบรรเจิดเกินกว่าใครจะเข้าถึง จึงเหมาะแล้วที่จะออกมาเปิดธุรกิจที่บ้าน แต่ก็อย่าได้วางใจไป เพราะท่านยังต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาทำให้ต้องผิดหวังเสียใจ จนเริ่มท้อ

การเงิน : จะหมดไปกับการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก

ความรัก : จริงๆ แล้วท่านได้ครอบครัวที่ดี ดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ท่านก็ยังเปรียบเทียบกับคู่อื่นๆ ว่าคู่ท่านดีที่สุดหรือเปล่า จึงกดดันตัวเองและคู่จนมีแต่การเรียกร้องและเอาชนะ ทำให้อยู่กันอย่างไม่มีความสุข   คนโสด ผิดหวังกับความรักอยู่เสมอ จนท่านมีอารมณ์ผันผวนอย่างรุนแรง จึงชอบอยู่ท่ามกลางสังคมมากกว่าจะอยู่กับคู่ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งงาน

สุขภาพ : ฝนตกบ่อยระวังหน่อย เพราะช่วงนี้ท่านจะไวต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้และไข้หวัดเล็กๆ น้อยๆ

               

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : ควรให้ความสำคัญกับการปกครองลูกน้อง เพราะท่านใจดี ให้ความสนิทสนมกับลูกน้องมากจนเขาไม่เกรงใจ วันนี้เขาจะสร้างปัญหาใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขได้ มีทางเดียวคือปิดจ็อบ

การเงิน :  อาจต้องเดือดร้อนเพราะลูกน้องจนหมุนเงินไม่ทัน  อาจต้องเป็นหนี้

ความรัก :  ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง รวมถึงคนในครอบครัวมากนัก เพราะฉะนั้นจึงต้องการเพื่อนที่เป็นคู่คิดที่คอยสนับสนุนดูแลเรื่องชีวิตส่วนตัวให้เท่านั้น เรื่องอื่นไม่สน คนโสด ท่านอาจต้องปิดฉากเรื่องความรัก เพราะเหตุผลเดียวคือ งาน

สุขภาพ :  มีโอกาสได้รับบาดเจ็บและเกิดอุบัติเหตุต่างๆ อย่างไม่คาดคิดในชีวิตประจำวัน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  : วันนี้ไม่ต้องกลุ้มใจแล้ว เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือสนับสนุน งานประจำที่ทำมานานจะได้มีโอกาสได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งกับเขาเสียที

การเงิน : จะมีโชคลาภจากผู้ใหญ่ หากทำบุญมาดีก็จะมีโอกาสได้รับมรดก

ความรัก :  เป็นวันแห่งครอบครัวโดยแท้ ญาติมิตรพี่น้องจะมาอยู่พร้อมหน้ากันทำให้เกิดช่วงเวลาดีๆ ที่น่าจดจำ คนโสด เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ที่แอบชอบเนี่ยคือเพศใดกันแน่

สุขภาพ : มีปัญหาเรื่องระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี และต่อมน้ำเหลือง ควรรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จทางด้านเรือกสวนไร่นา ที่ดิน ผลิตผลทางการเกษตร หากท่านไม่สนิทสนมกับลูกน้องเกินไปจนเขาทำอะไรไม่เกรงใจท่าน เพราะฉะนั้นวันนี้ท่านจึงทำได้แค่รักษาตัวให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่

การเงิน : ระวังจะเสียเงินด้วยอารมณ์ คือได้ของที่ไม่ได้ตั้งใจซื้อ

ความรัก :  ลืมอดีตที่ผิดพลาดไปได้เลย เพราะวันนี้ท่านจะเจอคู่ที่ดี สร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อครอบครัว คนโสด ท่านสวยรวยทรัพย์ จึงต้องสร้างเล่ห์กลมายาไว้เป็นเกราะป้องกันตัวนี๊ดนึง

สุขภาพ :  โดยทั่วไปไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากเป็นอะไรทีก็หนักเลย ช่วงนี้ดูแลสุขภาพร่างกายด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : กำลังจะเริ่มต้นงานใหม่ เป็นงานที่ต้องอาศัยความจำค่อนข้างมาก แต่ก็มีความท้าทาย มีความเสี่ยง และได้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะเสี่ยงต่อการเป็นคดีความ

การเงิน :  หากท่านทำธุรกิจร่วมกับคู่จะมีผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์

ความรัก : รักและให้ความสำคัญกับสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันท่านก็หึงหวงและแสดงความเป็นเจ้าของสูงมาก ก็ต้องพยายามบาลานซ์ให้ได้ คนโสด ท่านโดดเด่น จึงมีคนเข้ามาหาเยอะ จนเหน็ดเหนื่อยกับการหาตัวจริงเลยทีเดียว

สุขภาพ :  ควรดูแลเรื่องการขับถ่าย อย่ากลั้นปัสสาวะ จะทำให้ไตและและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเดินทางติดต่อประสานงานในที่ๆ ไม่คุ้นเคย ท่านควรเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับเนื้อหางานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพราะวันนี้ท่านจะได้เจอคนทำงานที่เอาแต่ใจ นึกอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน

การเงิน :  อย่าหลงเชื่อคำพูดที่หวานหู โดยเฉพาะญาติสนิทมิตรสหายและคนใกล้ตัว อาจมาหลอกให้ท่านทำธุรกิจ

ความรัก :  ค่อนข้างเอาแต่ใจ เพราะฉะนั้นอาจมีปัญหาได้หากคนใกล้ตัวจำกัดความคิดและอิสรภาพให้กับท่านนัก คนโสด เจ้าชู้ กว่าจะพบรักแท้ก็ต้องลองผิดลองถูกหลายครั้ง

สุขภาพ :  ต่อมทอลซินอาจอักเสบ ไล่ไปถึงหลอดลมอักเสบ จนถึงระบบย่อยอาหาร

 

ตามรอยภาพยนตร์สุดฮิต Crazy Rich Asians สัมผัสสิงคโปร์รูปแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม

Alternative Textaccount_circle

เชื่อว่าหลายคนคงประทับใจกับภาพยนตร์รักโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง “Crazy Rich Asians” หรือในชื่อไทยว่า “เหลี่ยมโบตั๋น” ที่เพิ่งเปิดรอบฉายในไทยไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายขายดีของ Kevin Kwan เรื่องนี้ ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีทั่วโลกและสามารถขึ้นครองอันดับหนึ่งบนบ็อกซ์ออฟฟิศมาแล้วถึงสองสัปดาห์และยังคงความแรงอย่างต่อเนื่อง Hotels.com™ จึงแนะนำ “สุดยอดที่พัก (หัก) เหลี่ยมโบตั๋น” หรือ ‘Crazy Rich Accommodations (เวอร์ชั่นจ่ายน้อยกว่า)’ ให้ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สวยหรูดูดีสุดๆ ตามรอยตัวเอกของนักแสดงในเรื่องนี้ โรงแรมที่อยู่ในลิสต์นี้ล้วนติดอันดับ ‘Most Wanted’ จากผลรางวัล Loved by Guests Awards 2018

ภาพยนตร์เรื่องนี้เผยให้เห็นหลากหลายมุมมองของสถานที่ “ต้องไป” หลายๆ แห่งในสิงคโปร์ อาทิ Marina Bay Sands, Supertree Grove หรือศูนย์อาหารชื่อดังอย่าง Newton Food Centre และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รับการ์ดเชิญเข้าร่วมงานสังสรรค์สุดไฮโซเหมือนอย่างในภาพยนตร์ แต่ก็มีเคล็ดลับที่จะทำให้ได้สัมผัสกับความเป็นที่สุดของเมืองแห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยกิจกรรมและสถานที่ที่ควรไปเปิดประสบการณ์สักครั้งหนึ่งในชีวิตด้วยตัวของคุณเอง

รายการต่อไปนี้คือสุดยอดที่พัก Crazy Rich Accommodations (เวอร์ชั่นจ่ายน้อยกว่า) ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นโรงแรม ‘Most Wanted’ ของ Hotels.com เท่านั้น แต่ทุกคนจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมโลเคชั่นต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อีกด้วย

 โรงแรมบูทีคที่ดีที่สุด 

  • โรงแรมฟอร์ท แคนนิง 5 ดาว

ที่นี่จะทำให้รู้สึกเสมือนได้มาร่วม “งานแต่งแห่งศตวรรษ” อย่างในหนังเรื่องนี้ เพราะโรงแรมบูทีคที่ชนะรางวัลแห่งนี้ดูหรูหราชวนฝันราวกับอยู่ในพระราชวัง มีสระน้ำกลางแจ้งถึง 2 แห่ง และตั้งอยู่ใน Fort Canning Park ที่ซึ่ง Colin และ Araminta จัดงานแต่งงานกันตามที่ปรากฏในนวนิยายเรื่องนี้ 

Gardens by the Bay, Singapore; Shutterstock ID 191311571
  • การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์

สวนแห่งอนาคตนี้ถูกใช้เป็นฉากงานเลี้ยงรับรองแขกตามท้องเรื่อง ที่นี่โด่งดังในด้านการจัดแสดงดนตรีและโชว์แสงสีอันตระการตา โดยมีไฮไลท์เด่นคือ Supertree Grove ซึ่งเป็นสถาปัตยศิลป์ที่ดึงดูดทุกสายตา สร้างความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร


 โรงแรมแบบธุรกิจที่ดีที่สุด

  • พาร์ครอยัล ออน พิคเคอร์ริง 5 ดาว

ลองจินตนาการว่าได้รับเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงสละโสดบนเกาะของ Araminta ในสถานที่ตามคอนเซ็ปต์ “โรงแรมในสวน” แห่งนี้ ที่นี่มีทั้งสปาแบบฟูลเซอร์วิส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และอยู่ไม่ไกลจากราฟเฟิลส์ เพลสที่โด่งดัง ที่นี่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง

  • Marina Bay Sands

ต้องไม่พลาดแลนด์มาร์คของสิงคโปร์แห่งนี้ ที่ซึ่งจะได้เห็นภาพของเมืองสิงคโปร์ตัดฉากเส้นขอบฟ้าในตำนาน และดื่มด่ำไปกับจินตนาการของโรงแรมหรูและอินฟินิตี้พูลที่ทุกคนต้องมาเยือน นอกจากนี้ ยังจะได้สัมผัสกับชีวิตแบบ Crazy Rich Asian ด้วยการช้อปปิ้งที่ The Shoppes สุดหรูใน Marina Bay Sands หรือจะเดินสำรวจ ArtScience Museum เก๋ๆ พร้อมเพลิดเพลินกับบรรยากาศรอบๆ มารีนา เบย์ไปในคราวเดียวกัน


โรงแรมระดับลักซ์ชูรีที่ดีที่สุด

  • วากาบอนด์ คลับ 5 ดาว

โรงแรมแนวอาร์ตเดโคย้อนยุคสุดหรูแห่งนี้ ตั้งอยู่ใจกลาง Central Heritage District ของสิงคโปร์ ที่นี่มีทุกสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เห็นตัวละครจาก Crazy Rich Asians มานั่งดื่มค็อกเทลยอดฮิตอย่างสิงคโปร์ สลิงกันที่ภัตตาคารระดับไฮเอ็นด์ของโรงแรมนี้ แต่คุณอาจจะได้กระทบไหล่กับมหาเศรษฐีตัวจริงของสิงคโปร์ อย่างคุณ Satinder Garcha ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมวากาบอนด์ก็เป็นได้

  • Bukit Pasoh Road

ภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นแหล่งท่องเที่ยวหลายๆ แห่งแล้ว ยังมีฉากสำคัญบนถนน Bukit Pasoh ใกล้ๆ กับไชน่าทาวน์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมของตึกแถวมีเสน่ห์ ร้านอาหารแนวฮิปๆ และโรงแรมบูทีคต่างๆ มากมาย บนถนนเส้นนี้จะมีร้านค้าและคาเฟ่สุดเก๋ให้เลือกนั่งชิลได้ตามใจชอบ


โรงแรมแนวครอบครัวที่ดีที่สุด

  • คาปริ บาย เฟรเซอร์ 4 ดาว

สัมผัสประสบการณ์เสมือนหนึ่งว่าคุณเป็นคนสิงคโปร์ที่แท้จริงด้วยการพักในโรงแรมอพาร์ทเมนต์ไฮเอ็นด์แห่งนี้ อาคารอันสุดแสนไฮเทคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตคนเมืองนี้ทำลายกรอบความคิดเรื่องโรงแรมที่พักแบบเดิมๆ ลงไปอย่างสิ้นเชิง ที่นี่มีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมมอบความอบอุ่นและความสะดวกสบายในแบบฉบับของที่พักแบบฟูลเซอร์วิส

เดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการไปท่องเที่ยวที่สิงคโปร์ เพราะมีหลากหลายกิจกรรมให้ทำ ไม่ว่าจะเป็น งานสิงคโปร์กรังปรีซ์ งาน Beerfest Asia 2018 และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งโรงแรมต่างๆ ก็จะถูกจับจองอย่างรวดเร็ว หากเป็นแฟนกีฬาท้าความเร็ว หรือแฟนภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนสิงคโปร์เป็นอย่างยิ่ง

จัดเต็มไม่มีกั๊ก ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์ New York Fashion Week (ตอนที่ 1)

account_circle

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คอลเลคชั่น READY-TO-WEAR ที่เน้นสวมใส่ได้ในชีวิตจริง หาซื้อได้ในช็อป ไม่ใช่กูตูร์หรูหราอลังการ แต่ซีซั่นนี้ก็มีหลายแบรนด์ที่ทำชุดออกมาแล้วเราลงความเห็นว่า นี่ล่ะ ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์ ควรค่าแก่เจ้าสาวที่ยังหาชุดไม่ได้ มาเลือกดูกันหน่อย เผื่อมีที่ต้องตา โดนใจ หรือจะเป็นไอเดียให้ได้ชุดเจ้าสาวในฝัน

Bevza

ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์

แบรนด์จากยูเครน ที่ปีนี้ได้แรงบันดาลใจจากความเป็นเฟมินินในยุค 90 ทำให้ชุดออกมามีกลิ่นอายความย้อนยุคอยู่เบาๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเท่ และความแข็งแกร่งของผู้หญิงในยุคนี้

Celestino

v

มีความยิ่งใหญ่อลังการเกินกว่า READY-TO-WEAR แถมกลิ่นอายความย้อนยุคหนักมาก ย้อนกันไปถึงยุคกลางกับความคอร์เซต และแขนที่ฟูฟ่อง แม้จะมีชุดสีดำ แต่เราว่านี่ละถูกใจเจ้าสาวที่อยากจัดงานแต่งงานในธีมแฟนซี หรือธีมเกมออฟโทรน

Dennis Basso

ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์

ชุดเจ้าสาวจากรันเวย์

เป็นคอลเลคชั่นที่มีโจทย์จากความรู้สึก สดใส เบาสบาย และเหมาะกับผู้หญิงทุกคนที่มั่นใจในตัวเอง พร้อมๆ กับที่มีต้นแบบเป็นไอคอนแห่งยุค 60’s Marella Agnelli ทำให้ชุดมีความสวยคลาสสิค จนใส่ในงานแต่งงานได้แบบสวยหรูเลยล่ะ

อย่าลืมดูหน้า 2 นะ >>>

ASICSTIGER

สวย เท่ ต้องมี! ASICSTIGER ปล่อย HyperGEL-LYTE ที่สุดของรองเท้าไลฟ์สไตล์ไอคอนิก

Alternative Textaccount_circle
ASICSTIGER
ASICSTIGER

สนุกไปกับทุกจังหวะชีวิต! แบรนด์ ASICSTIGER ™ เปิดตัวคอลเล็กชั่น HYPERGEL-LYTE™ ที่สุดแห่งรองเท้าไลฟ์สไตล์ไอคอนิก เป็นการนำเอาเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพทางการกีฬามาใช้ใน เอซิคส์ ไทเกอร์ สำหรับใครหลายคนที่อาจจะไม่คุ้นแบรนด์นี้ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1987 จากรองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิคในอดีต จนกลายมาเป็นวิวัฒนาการครั้งใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลา พร้อมการออกแบบที่แปลกใหม่ ซึ่งมีความสบายอย่างที่สุดและคุณภาพในเรื่องของความยืดหยุ่นที่คงอยู่กับรองเท้าได้ยาวนานยิ่งขึ้น

สวย เท่ ต้องมี! ASICSTIGER ปล่อย HyperGEL-LYTE ที่สุดของรองเท้าไลฟ์สไตล์ไอคอนิก

ASICSTIGER

พื้นรองเท้าส่วนกลางแบบ HyperGEL™ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยี Foam และ GEL™ ความพิเศษของพื้นรองเท้าสามารถรองรับแรงกระแทกได้มากขึ้นและช่วยส่งเสริมการทรงตัวได้ดียิ่งขึ้น คุณสมบัตินี้ทำให้สวมใส่สบายตลอดวันในรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา ผู้สวมใส่เองก็จะได้สัมผัสกับการรองรับแรงกระแทกที่เหนือกว่าของเอซิคส์ด้วย

ASICSTIGER

ขณะเดียวกันการออกแบบที่ยังสวยงามคงเป็นเอกลักษณ์ที่มีอยู่ในรุ่น GEL-LYTE ดั้งเดิมอยู่ ลิ้นรองเท้าและขอบรองเท้าด้านบนแบบดั้งเดิมรวมทั้งระบบการร้อยเชือกแบบเก่าก็ยังตอบรับกระแสความนิยมที่มีต่อรองเท้ากีฬาแบบย้อนยุคได้ดี นอกจากนี้ดีไซน์ของเม็ดเจลตามเทคโนโลยี GEL™ ที่ปรากฎให้เห็นบริเวณพื้นรองเท้าส่วนกลางก็ช่วยเพิ่มลูกเล่นที่ดูทันสมัยให้กับการออกแบบด้วย

ASICSTIGER

  • รองเท้า HyperGEL-LYTE™ มีพื้นรองเท้าส่วนกลางที่สามารถรองรับการทรงตัวและแรงกระแทกจากการสวมใส่ตลอดวันได้ ตัวรองเท้าจะช่วยลดผลกระทบต่างๆ จากการสวมใส่และช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้มีความสบายในการสวมใส่ ใส่ได้นานยิ่งขึ้น เคลื่อนไหวได้มากขึ้น
  • ได้รับการพัฒนาขึ้นและผ่านการทดสอบที่ Institute of Sports Science ในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น
  • ให้ความยืดหยุ่นมากกว่ามาตรฐาน EVA ทั่วไปประมาณ 30% ด้วยระบบการรองรับแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยม
  • คืนทรงเดิมได้เร็วกว่าวัสดุสำหรับทำพื้นรองเท้าส่วนกลางตัวอื่นๆ ทำให้ได้ความสบายในการสวมใส่ตลอดวัน
  • พื้นรองเท้าส่วนกลางแต่ละอันประกอบไปด้วยเม็ดเจลที่ทำมาจากเทคโนโลยี GEL ของแบรนด์ประมาณ 10-15% โดยจะกระจายตัวอยู่โดยทั่วไปในรองเท้าแต่ละข้าง
  • องค์ประกอบในการออกแบบแบบดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ ลิ้นรองเท้าบุนิ่ม และซับในบริเวณขอบรองเท้าด้านบนรวมทั้งระบบการร้อยเชือกรองเท้าแบบดั้งเดิม

รองเท้ารุ่น HyperGEL-LYTE™ วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ที่ Flab Collect, Seek, Carnival, Dilok Store ในราคา 4,500 บาท

“น้องแอร์บัส"

ภาพนี้ที่รอคอย! “น้องแอร์บัส” กราบศพ”โอ-วรุฒ”เผยยังจำอ้อมกอดของคุณพ่อได้ดี

Alternative Textaccount_circle
“น้องแอร์บัส"
“น้องแอร์บัส"

“เก๋-พิชชภา” อดีตภรรยา “โอ-วรุฒ วรธรรม” พาลูกชาย “น้องแอร์บัส” มากราบศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย บุตรชายอดีตพระเอกเปิดใจ “ขอให้คุณพ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี ยังจดจำตอนที่คุณพ่ออุ้มได้เสมอ”

“น้องแอร์บัส"

“โอ-วรุฒ วรธรรม”กับลูกชายสมัยยังแบเบาะ

เรียกว่าเป็นพระเอกในดวงใจแฟนคลับเสมอสำหรับพระเอกผู้ล่วงลับ “โอ-วรุฒ วรธรรม” แม้ตัวจะจากไปแล้ว แต่บรรดาแฟนคลับก็ยังหลั่งไหลมาเคารพศพของเขาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2561 “เก๋-พิชชภา” อดีตภรรยา พระเอกดังได้พาลูกชาย “น้องแอร์บัส” วัย 9 ขวบมากราบเคารพศพคุณพ่อ ที่วัดพระสิงห์มหาวิหาร เทศบาลเมืองเชียงใหม่

โดยทันทีที่เห็น “คุณย่าอรพิน” และ “คุณปู่แรม” แม่ลูกก็เข้าไปไหว้ทันที ซึ่งคุณย่าเองเมื่อเห็นหลานชายก็ออกอาการดีใจสุดๆ สวมกอดลูบหน้าลูบตาหลานรักด้วยความคิดถึง เป็นภาพที่ซาบซึ้งประทับใจผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

ขณะที่ในเวลาต่อมาลูกชาย “โอ-วรุฒ” ได้กล่าวถึงคุณพ่อสั้นๆว่า “ขอให้คุณพ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี ยังจำพ่อได้ตอนที่พ่ออุ้มครับ ผมดีใจมาก ตอนที่พ่ออุ้มครับ”

อย่างไรก็ตาม“น้องแอร์บัส”เป็นเด็กที่หน้าตาน่ารักมาก หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาหน้าตาดีไม่แพ้คุณพ่อเลย


ภาพจาก : สปริงนิวส์

อ่านเรื่องราวของ“โอ-วรุฒ วรธรรม”เพิ่มเติมได้ที่นี่

"ป๊อป-นิธิ"

“เป้ย” ประกาศปิดอู่ “ป๊อป-นิธิ” ยอมลาออกจากราชการเพื่อดูแลครอบครัว

"ป๊อป-นิธิ"
"ป๊อป-นิธิ"

 “เป้ย-ปานวาด” ประกาศปิดอู่หลังได้ลูกชายหนึ่งลูกสาวหนึ่งสมใจแล้ว ด้านคุณพ่อ “ป๊อป-นิธิ” ลาออกจากราชการเพื่อมาทำธุรกิจเต็มตัว เผยอยากมีเวลาเพื่อที่จะดูแลครอบครัวให้ได้มากขึ้น

 "เป้ย-ป๊อป"

วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2561 คุณแม่ “เป้ย-ปานวาด”, คุณพ่อ “ป๊อป-นิธิ” และ “น้องโปรด-อัษศดิณย์” ยิ้มรับ เบบี้ตัวน้อย น้องปาลิน บุญยรัตกลิน ชื่อที่มีความหมายว่าผู้รักษา ผู้คุ้มครอง คลอดในช่วงบ่าย วันอังคารที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา น้ำหนัก 2.965 กิโลกรัม ด้วยวิธีการผ่าคลอด ที่โรงพยาบาล BNH ถนนคอนแวนต์ คุณแม่เป้ยเผยว่า เป็นการคลอดก่อนกำหนดเกือบ 1 อาทิตย์ อายุครรภ์ 37 สัปดาห์กว่าๆ ซึ่งจริงๆ ยังไม่ถึงเกณฑ์ เนื่องจากน้ำคร่ำลดเหลือน้อย เป็นอันตรายต่อน้อง

เป้ย-ป๊อป

คุณหมอจึงแนะนำว่าให้คลอดก่อนกำหนดเพื่อความปลอดภัย และตรวจเช็คว่าน้องสมบูรณ์แข็งแรงดี ก็สามารถคลอดได้ และก็คลอดด้วยความปลอดภัยและสมบูรณ์ ด้วยความที่ห่างจากท้องแรกถึง 6 ปี เป้ย-ป๊อป ก็จะมีความตื่นเต้นเหมือนตอนคลอดน้องโปรด เหมือนมันต้องนับ 1 ใหม่กับการคลอด ตื่นเต้นไปทุกอย่างเลย แต่ก็โชคดีมีน้องโปรดเป็นเพื่อน คอยอยู่เป็นกำลังใจและเขาเหมือนกับรอคอยอยากเห็นหน้าน้องเร็วๆ

เป้ย-ป๊อป

ความน่ารักของพี่โปรด… เวลาน้องมาให้นม พี่โปรดก็จะคอยช่วยดูอยู่ไม่ห่าง
คุณพ่อป๊อป…สำหรับผม ถือว่าตอนนี้ครอบครัวเราเป็นทุกอย่างที่ลงตัวมากที่สุด ตื่นเต้นกว่าตอนที่คลอดโปรด เพราะต้องคลอดก่อนกำหนดก็มีความกังวลว่าทุกอย่างจะโอเค ออกมาสมบูรณ์หรือเปล่า แต่คุณหมอก็ให้ความมั่นใจกับเรามาก เราก็อุ่นใจ และเป้ยเองเค้าก็ตื่นเต้นนะครับ แต่เค้าก็เข้มแข็งมากด้วย ผมก็ได้แต่อยู่เป็นเพื่อนเค้า ได้ลูกสาวก็เป็นธรรมดาว่าต้องหวงเป็นพิเศษ แต่ก็หวงและรักทั้งโปรดและปาลินเท่าๆ กัน โชคดีที่โปรดเขารักและพยายามช่วยดูแลน้องก็ดีใจครับ

"ป๊อป-นิธิ"

"ป๊อป-นิธิ" "ป๊อป-นิธิ" "ป๊อป-นิธิ"

"ป๊อป-นิธิ"

"ป๊อป-นิธิ"

อย่างไรก็ตามวันนี้ “คุณพ่อป๊อป” ยังได้เปิดเผยว่าตอนนี้ตนไม่ได้รับราชการแล้ว เนื่องจากลาออกมาทำธุรกิจและอยากมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น

“ตอนนี้ผมกำลังเริ่มต้นใหม่เพราะว่าผมออกราชการไปทำธุรกิจส่วนตัว ถือว่าเขามาช่วงเวลาดีๆ อยากมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ดูแลครอบครัวได้มากขึ้นครับ”


ภาพจาก : vinbuddy

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ “เป้ย-ปานวด” เพิ่มเติมได้ที่นี่

เห่อหนักมาก “ป๊อป นิธิ” ไม่ได้คิดไปเอง ชี้ชัดลูกสาวหน้าเหมือนพ่อ

Baby Bump Style! 9 ลุค เป้ย-ปานวาด อุ้มท้องลูกคนที่ 2 รอบนี้แม่ขอฟรุ้งฟริ้ง

คะแนนเต็ม 10!! เป้ย-ปานวาด พลิกลุคใหม่ สะบัดผมซอยสั้นสุดเปรี้ยว งานนี้สวยเกินคำบรรยาย

แปลงโฉมบ้านใหม่ด้วย 4 ธีมหลัก เลือกสี แบ่งพื้นที่ใช้งาน พร้อมแนะเทคนิคการตกแต่งจากอิเกีย

แปลงโฉมบ้านใหม่ด้วย 4 ธีมหลัก เลือกสี แบ่งพื้นที่ใช้งาน พร้อมแนะเทคนิคการตกแต่งจากอิเกีย…จัดบ้านให้สวยงามน่าอยู่ ใช่ว่าจะทำให้ทุกคนในบ้านถูกใจได้ เพราะแต่ละครอบครัวก็อาจจะมีสมาชิกหลายวัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เทคนิคการแต่งบ้านทั้ง 4 ธีมหลัก จากอิเกียที่นำมาฝากกันวันนี้ รับรองว่าช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะมโนขึ้นมาเองว่าแต่งบ้านแบบไหนให้เหมาะกับแต่ละครอบครัว เพราะล่าสุดทางอิเกียเขาได้ทำสำรวจ Life At Home ที่ศึกษารูปแบบการใช้ชีวิต ความต้องการ และปัญหาต่างๆ ของคนไทยแบบเจาะลึกมาต่อยอด เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ พร้อมนำเสนอแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านแบบที่ตอบโจทย์ครอบครัวคนไทย จนได้ธีมการแต่งบ้านที่ตอบโจทย์คนทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ออกมาเป็น 4 ธีมหลัก ได้แก่ จัดสรรพื้นที่สำหรับทุกคนในครอบครัว (Organize your living), จัดสรรพื้นที่สำหรับบ้านที่มีเด็ก (Living with children), จัดสรรพื้นที่สำหรับบ้านพื้นที่จำกัด (Small space living) และจัดสรรพื้นที่สำหรับความยั่งยืน (Sustainability)

แปลงโฉมบ้านใหม่ด้วย 4 ธีมหลัก เลือกสี แบ่งพื้นที่ใช้งาน พร้อมแนะเทคนิคการตกแต่งจากอิเกีย

ทั้งนี้ผลการสำรวจ Life at Home ของคนไทยพบว่า ครอบครัวไทย มี 4 รูปแบบ แต่ละรูปแบบจะมีความต้องการและข้อจำกัด หรือปัญหาคับข้องใจในบ้านแตกต่างกันไป

  1. คนโสดหรือครอบครัวคู่แต่งงานใหม่ (Single/Newlywed) เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มทำงาน มีทั้งคนโสดหรือคู่รักที่กำลังสร้างครอบครัว แต่ยังไม่มีลูก ยังไม่ให้ความสำคัญกับการตกแต่งมากนัก และค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องราคา เพราะเพิ่งทำงาน หรือกำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัวของตนเอง
  • คำแนะนำจากอิเกีย: ลองเปลี่ยนจากบ้านที่เน้นประโยชน์ใช้สอย เป็นบ้านที่ให้ความรู้สึกว่าได้เป็นเจ้าของพื้นที่นั้นจริงๆ และให้ความสะดวกสบายมากขึ้น สร้างพื้นที่สำหรับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในชีวิตและความสัมพันธ์ในครอบครัว
  1. ครอบครัวรุ่นใหม่ (Young Family) ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ประกอบด้วยสามีภรรยาที่มีลูกเล็ก โดยจะให้ความสำคัญกับลูกเป็นอันดับแรก คำนึงถึงการใช้งานและประโยชน์ใช้สอยก่อนดีไซน์ ให้ความสำคัญกับความแข็งแรงมั่นคงมากกว่าความสนุกสนาน
  • คำแนะนำจากอิเกีย: สนับสนุนแนวคิดที่จะทำให้บ้านให้มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยควบคู่ไปกับความสวยงาม เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีประโยชน์ใช้สอยและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามพัฒนาการของเด็ก ซึ่งจะให้ความรู้สึกว่าบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเช่นกัน
  1. ครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัย (Multi-generation) ประกอบด้วยพ่อแม่ที่มีอายุแล้ว และลูกๆ วัยทำงานที่มีหน้าที่การงานมั่นคง อาศัยร่วมกันเป็นครัวเรือนที่มีขนาดใหญ่ ปัญหาสำหรับกลุ่มนี้คือ จะมีความขัดแย้งในการตัดสินใจ เพราะมีรสนิยมด้านดีไซน์ต่างกัน และต้องรับมือกับการไม่มีพื้นที่ส่วนตัว
  2. ครอบครัวแบบดั้งเดิม (Traditional) ประกอบด้วยคนวัยทำงานที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่หรือพี่น้อง หรืออยู่ร่วมกันหลายครอบครัวในบ้านเดียว กลุ่มนี้พบกับความท้าทายหลายอย่าง เช่น การไม่มีพื้นที่ส่วนตัว ขาดความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ในบ้าน เพราะต้องใช้พื้นที่อยู่อาศัยเดียวกัน ความขัดแย้งเนื่องจากความยุ่งยากในการจัดระเบียบพื้นที่ที่ต้องใช้ร่วมกัน
  • คำแนะนำจากอิเกียสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายช่วงวัย และครอบครัวแบบดั้งเดิม: สร้างพื้นที่ที่มีประโยชน์ใช้สอยและจัดเก็บได้หลายแบบ ทำให้การใช้ชีวิตของแต่ละคน แต่ละครอบครัวดีขึ้น อิเกียมีสินค้าหลากหลายที่จะช่วยเรื่อง
    การจัดเก็บและจัดสรรพื้นที่ในบ้านให้ลงตัว ทั้งยังมีสไตล์ให้เลือกมากมาย สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แต่ละครอบครัวก้าวพ้นความขัดแย้ง โดยไปเน้นที่ข้อดีของการมีพื้นที่ร่วมกันในครอบครัว

นอกจากนี้ อิเกียยังได้เปิดตัว “แคตตาล็อกอิเกีย 2019” ซึ่งอัดแน่นด้วยแรงบันดาลใจ ไอเดียการแต่งบ้าน สินค้าคอลเล็คชั่นใหม่ๆ รวมถึงเนื้อหาจากรายงาน Life at Home และเคล็ดลับที่เหมาะกับวิถีชีวิตและครัวเรือนที่แตกต่างกัน พร้อมด้วยคูปองส่วนลด 100 บาท โดยได้เริ่มจัดส่งแคตตาล็อกฉบับใหม่จำนวน 2.3 ล้านเล่ม

 

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่นี่

ไฮแบรนด์หลบไป! 14 ไอเท็ม อินสไปร์จากถุงช้อปปิ้งอิเกีย กล้าใส่ไหมถามจริง?

อิเกียออกคอลเล็คชั่นใหม่ ‘อิปเปอร์ลิก’ ดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวีย

“น้องพลอยเจ” น่ารักกระชับใจ “พ่อจิม-อาเต้” ซี้ย่ำปึ้กเหนียวแน่นหนักกว่าเดิม

Alternative Textaccount_circle

“น้องพลอยเจ” น่ารักกระชับใจ “พ่อจิม-อาเต้” ซี้ย่ำปึ้กเหนียวแน่นหนักกว่าเดิม… ด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อนแท้ที่รู้จักกันมานานถึง 20 ปี แม้วันนี้ จิม-เจจินตัย อันติมานนท์ จะอัพสถานะเป็นคุณพ่อเต็มตัว แต่ความผูกพันระหว่างเขากับคู่หูบัดดี้ เต้-นันทศัย พิศลยบุตร นั้นยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ เต้กลายเป็นแฟนคลับน้องพลอยเจ ที่ช่วยเติมเต็มความรักระหว่างเพื่อนซี้ให้เหนียวแน่นยิ่งขึ้นอีกต่างหาก

เมื่อแพรวมีโอกาสได้เจอคู่เพื่อนซี้ย่ำปึ้กอย่าง พ่อจิม และ อาเต้ รวมถึงน้องพลอยเจ สาวน้อยขวัญใจมหาชน จึงไม่พลาดที่จะคว้าตัวมาพูดคุยถึงความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมาก และอัพเดทความน่ารักของน้องพลอยเจกันสักหน่อย

น้องพลอยเจ

 

เมื่อมีนางฟ้าตัวน้อย ความสัมพันธ์ของคู่เพื่อนซี้จึงต้องเปลี่ยนแปลงไป

จิม : “ผมรู้จักเต้มาตั้งแต่อายุ 12 ปี สนิทกันมากในหลายมิติ (หัวเราะ) ช่วงแรกเป็นภาคเกเรแบบเต็มเหนี่ยว พอโตขึ้นไลฟ์สไตล์เปลี่ยน กลายเป็นคู่หูออกกำลังกายด้วยกัน ก่อนที่จะมีพลอยเจ ผมกับเต้อยู่ด้วยกันทั้งวัน ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้ายาวไปจนถึง 4 ทุ่ม ไปเดินเล่น เล่นเวต กินข้าว ว่ายน้ำ ดูหนัง กลับบ้าน จนแฟนเก่าเลิกกับผมไปเลย เราดูแลกันแบบพี่น้อง รถผมเสียเขาช่วยมารับ หรือถ้าสลับกันผมก็ไปรับเขา แต่พอมีลูกเท่านั้นแหละ ได้เจอกันเดือนละครั้งสองครั้งก็ถือว่าหรูแล้ว”

น้องพลอยเจ

เต้ : “ตั้งแต่พี่จิมมีลูก ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะเลยครับ แต่ในทางที่ดีขึ้นนะ คือแต่ก่อนเขาติดเพื่อนมาก ต้องโทร.หาทุกวัน สำหรับเขาเพื่อนมีความสำคัญรองมาจากแม่กับน้องเลยล่ะ แต่พอตอนนี้เขามีลูก ก็ทุ่มเวลาให้ลูกหมด ซึ่งผมดีใจมากที่เห็นชีวิตเขาดีขึ้นไปอีกแบบนี้ กลายเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดูแลภรรยาและลูกได้ดีมากๆ จากแต่ก่อนที่เราอาจจะเต็มที่กันเยอะไปหน่อย (หัวเราะ) อย่างถ้านึกภาพที่เขากับผมเคยกอดคอดื่มเบียร์ด้วยกัน ตอนนี้นึกอะไรแบบนั้นไม่ออกแล้วนะ ยังบอกเขาว่าพลอยเจมีบุญมากเลย พอเกิดมาก็ทำให้คุณพ่อกลายเป็นแบบนี้ได้”

น้องพลอยเจ

 

ความน่ารักของน้องพลอยเจ ทำให้ใครๆ พากันตกหลุมรัก

จิม : “ตอนนี้พลอยเจอายุ 1 ขวบ 9 เดือน ซนแบบอัพเลเวลขึ้นไปเรื่อยๆ ครับ ช่วงที่ยังเป็นเบบี๋ เราไม่มีประสบการณ์ เห็นลูกร้องเวลาหิวข้าวหรือปวดท้องก็ถือว่ายากแล้วนะ แต่ตอนนี้ยากกว่าเยอะ เขาเดินได้แล้ว ก็จะชอบวิ่ง สังเกตทุกอย่าง อยากรู้ทุกเรื่อง เราก็ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้ ซึ่งผมรู้สึกว่าทำให้ชีวิตสนุกขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เขาเริ่มพูดเป็นคำได้แล้ว อย่างคำว่า mommy, hungry เต้เองเห็นน้องตั้งแต่วันแรกที่เกิดเลย มาอยู่ด้วยกันตลอด ผมพาลูกไปหาเต้ที่บ้านบ้าง พี่เก๋แฟนเต้ก็เอ็นดูพลอยเจมาก พลอยเจเรียกเต้ว่า เต้ เต้ ตลอด”

น้องพลอยเจ

เต้ : “ต้องบอกว่าผมกับแฟนตกหลุมรักหลานคนนี้สุดๆ เขาน่ารักมาก ผมว่าใครเจอก็ต้องรักเหมือนผม เขาเหมือนพี่จิมขนาดย่อส่วนครับ ทั้งนิสัยขี้เล่น ทำหน้าทำตา เวลายิ้มนี่ได้พ่อมาเต็มๆ (หัวเราะ) ถึงพี่จิมจะห่วงลูกมาก แต่ก็เลือกที่จะเลี้ยงแบบฝรั่ง คือให้ลูกได้เจออะไรด้วยตัวเอง ล้มแล้วต้องลุกเอง เวลาร้องก็ไม่โอ๋ทันที ซึ่งผมว่าดีนะ ทำให้พลอยเจไม่กลัวคน ชอบเข้าสังคม แล้วเวลาผมไปเล่นกับหลาน ไม่ต้องซื้อของเล่นไปฝากนะ รายนี้ไม่ชอบเล่นของเล่น ผมเป็นแนวอุ้มแล้วชวนเต้นมากกว่า เขาจะมีเพลงโปรดคือ Beauty and the Beast ถ้าเปิดเพลงนี้เมื่อไหร่ พลอยเจจะร้องตาม อินเนอร์มาเต็มมาก ใครเห็นก็ต้องยิ้ม”

น้องพลอยเจ

 

น้องพลอยเจคือความสุขของอาเต้ที่แท้ทรู

จิม : “เวลาเต้อยู่กับหลานจะเป็นสายนุ่มนวล ตามใจหลานมาก จากสุภาพอยู่แล้วก็สุภาพเข้าไปอีก กลายเป็นคนซอฟต์ อบอุ่น พลอย (แฟนจิม) ยังบอกว่าเต้เหมาะกับการมีลูกสาว”

น้องพลอยเจ

เต้ : “คือใจผมอยากมีลูกตั้งแต่สิบปีที่แล้ว เขาจะได้โตทันมาเป็นเพื่อนออกกำลังกาย เพื่อนเที่ยวกับพ่อได้ แต่ตอนนั้นยังไม่พร้อมครับ ถึงตอนนี้แฟนผมก็อายุพอสมควร เลยคุยกันว่าอยู่กันสองคนก็แฮ็ปปี้ดี แค่มาเจอพลอยเจ ได้เล่นกับเขา ได้เลี้ยงเขา ผมก็มีความสุขแล้ว เพราะหลานทำให้เรายิ้มได้ตลอด”

น้องพลอยเจ

จิม : “จริง และผมว่าเต้ไม่มีทางเหงาหรอก ด้วยจำนวนเพื่อนในแก๊งซึ่งมีทั้งหมด 16 คน เกือบทุกคนมีลูกทั้งนั้น นอกจากพลอยเจแล้ว เต้จึงมีหลานให้เลี้ยงอีกประมาณ 10 คน เวลายกโขยงไปเที่ยวด้วยกันแล้วสนุกมาก จากแต่ก่อนแก๊งเราเที่ยวกันเฉพาะชายล้วน ห้ามชวนสาว ๆ ไป แต่วันนี้เราหอบลูก ภรรยา รวมทั้งพ่อแม่ของพวกเราไปเที่ยวด้วย กลายเป็นว่าไม่อยากขาดใครไปเลย ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งอบอุ่นครับ”

น้องพลอยเจ

คงต้องเชื่อแล้วว่า อาเต้เป็นแฟนคลับพันธุ์แท้ของน้องพลอยเจจริงๆ เพราะหลังจากที่ลองส่องอินสตาแกรมของอาเต้แล้วก็พบว่า นอกจากการโพสต์รูปเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแล้ว ที่เยอะรองลงมาก็เห็นจะเป็นรูปคู่กับน้องพลอยเจ หลานสาวสุดน่ารักเนี่ยแหละ


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 936

ภาพ : @jayjintai, @taekopman, ploy_mermaid

keyboard_arrow_up