อาการเจ็บป่วยไม่ว่าจะมากหรือน้อย เชื่อว่าหลายท่านหากเลือกได้ ใคร ๆ ก็ต้องมีสุขภาพที่ดี เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมาแล้ว หลากหลายกิจกรรมในชีวิตประจำวันก็ต้องหยุดชะงักเพื่อพักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย “อาการไข้หวัดใหญ่” หนึ่งในอาการป่วยที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วควรดูแลตนเองและรับมืออย่างไรบ้าง เพื่อให้อาการไข้หวัดใหญ่ที่เป็นอยู่ดีขึ้น จนสามารถไปเรียน ไปทำงาน ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ
ถ้าอยากรู้ แนะนำว่าต้องอ่านบทความนี้ เพราะเราได้รวบรวมสาระดี ๆ เกี่ยวกับอาการไข้หวัดใหญ่ที่คุณควรรู้ไว้แล้ว
ไข้หวัดใหญ่ มีอาการอย่างไร
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) คือการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อบริเวณทางเดินหายใจ โดยไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อได้จากการรับเชื้อผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การรับประทานอาหารโดยไม่ใช้ช้อนกลาง การได้รับเชื้อผ่านทางอากาศที่สูดหายใจเข้าไป และการสัมผัสสารคัดหลั่งเป็นต้น
โดยปกติแล้วเมื่อได้รับเชื้อร่างกายจะแสดงอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ดังต่อไปนี้
- มีไข้ประมาณ 39-40 องศา
- รู้สึกร้อน ๆ หนาวๆ
- มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
- เจ็บคอ คอแดง พร้อมกับมีอาการไอแห้งร่วมด้วย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- รู้สึกไม่อยากอาหาร
ภาวะแทรกซ้อนจากอาการไข้หวัดใหญ่
หลายท่านอาจไม่ทราบว่าไข้หวัดใหญ่หากเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นอาจอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน
โดยภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่นั้นจะมีอาการในลักษณะที่สังเกตเห็นได้ชัดคือ มีไข้สูง กว่าปกติ หายใจเร็วหายใจติดขัดมีปัญหาหายใจได้ลำบาก เจ็บบริเวณหน้าอกเจ็บช่องท้อง รวมถึงยังสามารถเกิดอาการขาดปฏิกิริยาการตอบสนองได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ควรระมัดระวังหากเกิดภาวะแทรกซ้อนอาการไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
- ทารกและเด็กเล็ก
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด เป็นต้น
- ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- สตรีที่กำลังตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
ไขข้อสงสัย ไข้หวัดใหญ่ หายเองได้ไหม
อาการไข้หวัดใหญ่สามารถรักษาให้หายเองได้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่ป่วยอยู่ สามารถกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ที่สำคัญในขณะที่มีไข้สามารถรับมือได้โดยการเช็ดตัว เพื่อระบายความร้อนของอุณหภูมิในร่างกายให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมรับประทานยาตามอาการควบคู่ไปด้วย
วิธีการดูแลตัวเอง เมื่อคุณมีอาการไข้หวัดใหญ่

เมื่อมีอาการไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเองเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว และหายจากอาการไว ๆ ผู้ป่วยควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
- รับประทานยาลดไข้ทุก 4 – 6 ชั่วโมง
- หมั่นเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา เพื่อช่วยลดไข้ ช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอ
- นอนพักผ่อน
ป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่อย่างไรได้บ้าง
สำหรับการป้องการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการไข้หวัดใหญ่
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือสถานที่ที่มีอากาศ ปิด อากาศถ่ายเทยาก
- ควรใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องรับประทานอาหารกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
สรุปไข้หวัดใหญ่
อาการไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาการของโรคดังกล่าวจะมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดแบบธรรมดา อย่างไรก็ตามหากเกิดอาการไข้หวัดใหญ่ขึ้นแล้ว ควรดูแลตนเองตามอาการที่เกิดขึ้น เช่น รับประทานยาลดไข้ทุก ๆ 4 – 6 ชั่วโมง หมั่นเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิ เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อช่วยลดความรุนแรงของโรค แนะนำว่าควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
หากสังเกตว่าคนรอบตัวหรือตนเองมีอาการไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรง และอาการที่เป็นอยู่ไม่ดีขึ้น แนะนำว่าควรรีบพบแพทย์จะดีที่สุด
สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาหมอเกี่ยวกับอาการไข้หวัดใหญ่ หรือปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับยาที่รับประทาน พร้อมทั้งช้อปสินค้าสุขภาพ สามารถโหลด BeDee แอปพลิเคชันบริการดูสุขภาพแบบครบวงจร พร้อมช่วยดูแลสุขภาพของคุณ ทุกที่ ทุกเวลา สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดี ๆ ได้ที่ App Store และ Play store ดาวน์โหลด BeDee คลิก https://bit.ly/4btcZSY