Chilli Fest กลับมาเป็นปีที่สอง พร้อมมอบความเผ็ดร้อนอีกครั้งที่โรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ

account_circle

Chilli Festเทศกาลอาหารรสจัดที่เผ็ดร้อนที่สุดของไทยจะจัดขึ้นอีกครั้งที่ Urban Oasis ของโรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 นี้ พร้อมเมนูอาหารรสจัดจ้านจากร้านอาหารชั้นนำของกรุงเทพฯ และเชฟระดับดาวมิชลิน กิจกรรมความบันเทิง โชว์ไฟ การแข่งขันรับประทานพริกที่น่าตื่นเต้น และอีกมากมาย นอกจากนี้ในปีนี้เทศกาล Chilli Festเพิ่มความพิเศษด้วยดินเนอร์ห้าคอร์สโดยเชฟระดับตำนานอย่าง เชฟเอียน-พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย เข้ามาด้วย

เมนูอาหารใน Chilli Fest

ผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสจัดห้ามพลาดเมนูอาหารรสชาติเผ็ดร้อนกลมกล่อมจากทั่วโลก ตั้งแต่เมียนมาร์ อินเดีย จีน เกาหลีใต้ ปากีสถาน เม็กซิโก มาเลเซีย สเปน และที่ขาดไปไม่ได้ ไทย เชฟชื่อดังมากความสามารถจากร้านอาหารในกรุงเทพฯ จะส่งมอบเมนูเด็ดในบรรยากาศสบาย ๆ ในสวน ราคาเริ่มต้นเพียง 120 บาทต่อจานเท่านั้น และยังมีตัวเลือกอาหารเผ็ดที่ทำจากพืชสำหรับคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ด้วย เชฟและร้านอาหารที่จะมาร่วมนำเสนออาหารจานเด็ดในงาน ประกอบไปด้วย

  • Thep Nakorn:  เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านอาหาร Le Du ซึ่งเป็นหนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเซียหลายปีซ้อนถึงปัจจุบัน จะเข้าร่วมงานเป็นปีที่สองกับเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือจากเทพนคร และกะเพรารสจัด
  • SANEH JAAN:  ร้านอาหารหนึ่งดาวมิชลินที่ขึ้นชื่อเรื่องใช้วัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วไทยนำโดยเชฟ เชฟต้อย-พิไลพร คำหนัก จะนำเสนอผัดหมี่กะทิปากพนัง และหมูมะนาวพริกขี้หนูสวน
  • Inddee: เชฟ Sachin Poojary ที่มีประสบการณ์มากมายรวมไปถึงการทำงานที่ Taj Mahal Palace จนสามารถทำให้ห้องอาหารอินเดียไฟน์ไดนิ่ง Inddee ได้รับดาวมิชลินหนึ่งดวงได้ตั้งแต่ภายในปีแรกที่เปิด จะนำเสนอเมนู แป้งห่อไส้พริกบุตโจโลเกีย (Bhut Jolokia momo) เกี๊ยวแบบกลมไส้พริกขี้หนู (kanthari chili paniyaram) เนื้อหมู และบัตเตอร์นัท สควอชในเทศกาลปีนี้
  • Restaurant Avant: เชฟ Haikal Johari เอาชนะใจนักชิมด้วยเมนูฟิวชันที่ใส่ความเป็นเอเชียเข้าไปในเมนูอาหารยุโรปได้อย่างลงตัว พร้อมประสบการณ์จาก Alma ร้านอาหารหนึ่งดาวมิชลินในสิงคโปร์ หลังจากที่ห่างหายไปนาน เชฟ Haikal กลับมากรุงเทพฯ ในฐานะเจ้าของร่วมและเอ็กเซคูทีฟเชฟที่ Restaurant Avant ที่ตั้งอยู่บนชั้น 30 ของโรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ ภายในงาน ฯ จะนำเสนอเมนูข้าว koshihikari ย่างใส่เมนไทโกะและมะพร้าว และกัซปาโชสับปะรดใส่มิ้นต์และโกชูจัง
  • RESTAURANT CODA BANGKOK: เชฟ แท๊ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ผู้ก่อตั้งร้านอาหารไทย-จีนสมัยใหม่ชื่อดังและผู้เข้าแข่งขันรายการ Iron Chef Thailand ซีซัน 9 เอาใจคนรักของเผ็ดในเทศกาลปีนี้กับเมนูฮอทดอกไส้อั่วและเบอร์เกอร์สูตรซิกเนเจอร์
  • VASO: เชฟ Álvaro Ramos ที่มีประสบการณ์จากร้าน La Terraza ระดับดาวมิชลินและ Dos Palillos ในสเปน จะนำเสนอเมนูทาปาสที่มีความจัดจ้านตามแบบฉบับของบุคลิกของเจ้าตัว อาทิ กุ้งกระเทียมสไตล์สเปน (gambas al ajillo) มันฝรั่งทอดแบบเผ็ด (patatas bravas) และ มีทบอลและมันฝรั่งแบบเส้น (albóndigas patata paja)
  • Urban Refugee Kitchen by Na Projects: Na Projects และ Urban Refugee Kitchen ก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ลี้ภัยในประเทศไทย ในงานนี้ผู้ร่วมงานจะได้ลิ้มลองอาหารปากีสถานและสนับสนุน Urban Refugee Kitchen ไปในเวลาเดียวกันกับเมนูแบบโฮมเม้ดฝีมือครอบครัวผู้ลี้ภัย อาทิ ซาโมซาผัก ข้าวหมกกับมาซาลามะเขือยาว ข้าวหมกกับมาซาล่าเนื้อวัว และกุหลาบจามุน เพื่อนำรายได้ไปจัดหาที่อยู่อาศัย อาหารและสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ให้กับผู้ลี้ภัยขณะยังพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ
  • Aromkwan: เมนูอาหารในร้านอาหารเอเชียสไตล์รมควันปิ้งย่างของเชฟ เชฟแบงค์-วิชชณุ เปรมภักตร์ ที่มีเชื้อสายมาเลย์ อินเดีย ไทย และจีน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสูตรอาหารคุณย่าที่เป็นชาวมาเลย์ ในเทศกาลนี้เชฟแบงค์จะนำเสนอเมนูที่สร้างสรรค์จากความรักในการทำบาร์บีคิวอย่าง ข้าวหมกขาหมูรมควัน อิกันบาการ์บาร์บีคิว (ikan bakar) และสลอว์สไตล์เอเชีย
  • Canes: CANES คือความร่วมมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์และเชฟทำอาหารตามคติพจน์ ที่ประกอบไปด้วย Cruelty-free (ไม่เบียดเบียน​สัตว์​) Altruistic (สนับสนุน​สังคมเกษตร​อินทรีย์) Natural (ใช้วัตถุดิบ​และกระบวนการ​ทางธรรมชาติ) Evolutionary (ไม่หยุดพัฒนา) และ Sustainable (ยั่งยืน รักษ์​สิ่ง​แวดล้อม) ที่กลายมาเป็นชื่อ CANES สื่อถึงไม้เท้าและสัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน ในงานนี้จะนำเสนอเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือวีแกนเสิร์ฟพร้อมแคปหมูวีแกนและน้ำพริกกะเหรี่ยง
  • Lady GooGoo:  เลดี้กูกู นักชิมและเชฟชาวเมียนมาร์ที่เป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลมีเดีย จะนำเสนอเมนูรสชาติเข้มข้นอย่าง ยำใบชาพม่า (BTS ย่อมาจาก Burmese tea salad) ไก่ทอดพริกสไตล์พม่า (BCFC ย่อมาจาก Burmese chilli fried chicken) และ ขนมจีน mohinga
  • Gaby, Megan & Diego: 3 เพื่อนสนิทชาวละติน Megan Leon, Gaby Espinosa และ Diego Zarco ที่ฝึกปรือทักษะการทำครัวจากร้านดังทั่วกรุงเทพฯ อย่าง Gaa, 80/20, Bo.Lan, Nahm, Eat Me และ Ms. Maria and Mr. Singh จะร่วมกันนำเสนอ ค็อกเทลกุ้งสไตล์เม็กซิกัน (coctel de camarón estilo “sinaloa”) และ แป้งทอดไส้แหนมโฮมเม้ด (flauta de Chorizo “naem”)
  • Summer Palace:  ร้านอาหารจีนกวางตุ้งชื่อดังที่นำโดย เชฟ Shui Wing Yau จะนำเสนอเมนูเลิศรสสไตล์เสฉวนที่มาพร้อมลูกเล่นอย่างเกี๊ยวกุ้งรสเผ็ดใส่โหระพา ไก่ต้มในน้ำมันพริกเสฉวน และขาหมูตุ๋นใส่ซอสหมาล่า
  • ANJU: เชฟ Shim Young Dae จาก ANJU Korean Rooftop Bar รู้ฟท้อปบาร์เกาหลีแห่งแรกและสูงที่สุดในกรุงเทพฯ จะเข้าเสริมทัพ Chilli Fest ปีนี้เป็นครั้งแรกกับเมนูซิกเนเจอร์ฟิชเค้กเสียบไม้พร้อมซอสเผ็ด และไก่ทอดเกาหลี
  • Bar.Yard: ขาดไปไม่ได้กับเจ้าถิ่นอย่าง Bar.Yard รู้ฟท้อปบาร์สุดฮิตของโรงแรม คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เอ็กเซคูทีฟเชฟ Lamberto Valdez Lara และทีมมอบความเผ็ดร้อนในแบบเฉพาะตัวผ่าน 4 เมนู ประกอบไปด้วย ทาโก้สันคอหมู (taco al pastor) ทาโก้เกซาบีร์เรียไส้ล็อบสเตอร์ (quesabirria) เคซาดิย่าชีสวีแกนทรัฟเฟิล (quesadilla) และของหวานคลาสสิกอย่างพุดดิ้งข้าว หรือ arroz con leche

ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่งาน Chilli-Fest

Cooking Studio ที่ Stock.Room นำเสนอเทสติ้งเมนู 5 คอร์ส รังสรรค์โดยแขกรับเชิญพิเศษ เชฟเอียน พงษ์ธวัช
เฉลิมกิตติชัย ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป เชฟเอียน เจ้าของตำแหน่งเชฟกระทะ
เหล็ก ประเทศไทย (Iron Chef Thailand) รวมถึงยังเป็น Co-Host และ Head Chef ในรายการเฮลส์คิทเช่นไทยแลนด์
(Hell’s Kitchen Thailand) ที่เพิ่งเปิดตัวไป การนำเสนอเมนูแบบดีกุสเตชันพร้อมแล้วที่จะพานักชิมทุกท่านออกเดิน
ทางไปในโลกแห่งอาหารของเชฟเอียน โดยแต่ละคอร์สได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปต์ของห้องอาหารแต่ละแห่ง
ของเชฟทั่วโลก ดินเนอร์ที่จะเปิดโอกาสให้นักชิมได้พูดคุยกับเชฟคนดังอย่างใกล้ชิดมีที่นั่งจำกัด เสิร์ฟในราคา
2,999++ บาทต่อท่าน พร้อมบัตรเข้างาน Chilli Fest เลือกรับประทานจับคู่กับเครื่องดื่มเพิ่มได้ในราคาเพียง 1,199++
บาทต่อท่าน ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับท่านที่ทำการสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น

การแข่งขันกินพริก

Chilli Fest เชิญนักกินเผ็ดผู้กล้ามาประลองความอึดกับการแข่งขันกินพริกชิงรางวัลใหญ่ ในงานผู้เข้าแข่งขันจะต้องกินพริกสดที่ไต่ระดับความเผ็ดขึ้นเรื่อย ๆ จนถึง 2,400,000 สโควิลล์ (Scoville heat unit) โดยผู้ที่ยังยืนหยัดอยู่ได้เป็นคนสุดท้ายจะกลายเป็นผู้ชนะ นอกจากนี้ยังมีรางวัลอันดับสองและสามด้วย การแข่งขันเปิดให้ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้โดยต้องลงทะเบียนล่วงหน้า และโรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ จะทำการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันจากผู้สมัครทั้งหมดจะแจ้งกลับต่อไป

Chilli Market

แขกที่มาร่วมงานยังสามารถเลือกช้อปผลิตภัณฑ์จากพริกตั้งแต่ ซอสพริกหลากหลายจาก That Daeng Sauce และ
Firepower Hot Sauces ไปจนถึงสินค้าดีไซน์เก๋จาก อัคระ แบงค็อก ที่รวมไปถึงเสื้อยืด กระเป๋าโท้ต หมวกบักเก็ตและ
หมวกแก๊บที่ออกแบบขึ้นสำหรับเทศกาล Chilli Fest เป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมี California Ink Bangkok มาร่วมงานอีก
ครั้ง พร้อมบริการสักรอยสักรูปพริกฟรีให้กับผู้ร่วมงาน

Chilli Fest จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 นี้ที่ Urban Oasis ตั้งแต่เวลา 14.00 น. จนถึง 21.00 น. บัตรเข้า
งานราคา 250 บาทมาพร้อมเครื่องดื่มหนึ่งแก้ว ซื้อบัตรเข้างานล่วงหน้าราคาพิเศษเพียง 200 บาทได้แล้วตั้งแต่วันนี้
ผ่านเว็บไซต์ https://bit.ly/PRChilliFest2024EN

ส่วนหนึ่งของรายได้จากงานจะนำไปสมทบทุน มูลนิธิสติ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสในด้านสุขภาพและการศึกษา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/PRChilliFest2024EN หรือโทร +66 2 056 9999Facebook และ Twitter

Praew Recommend

keyboard_arrow_up