บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก สร้างความตระหนักให้กับคนไทยเนื่องในวันอ้วนโลก

account_circle

จากข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย รายงานจำนวนผู้ใหญ่ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินหรืออ้วนใน พ.ศ. 2566 อยู่ที่ 48.35% จาก พ.ศ. 2565 จะอยู่ที่ 47.8% นอกจากนี้ รายงานของสำนักโภชนาการ พ.ศ. 2563 พบว่า อัตราโรคอ้วนมีเพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง โดยความชุกของภาวะอ้วนส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ทำให้คนกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องในวันที่ 4 มีนาคมของทุกปี เป็นวันอ้วนโลก (World Obesity Day) บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก กรุงเทพฯ จึงได้สร้างความตระหนักเพื่อรับมือกับปัญหาโรคอ้วนที่เพิ่มมากขึ้นของประเทศไทย เนื่องจากโรคอ้วนเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ทำให้ความเสี่ยงต่อสุขภาพของคนไทยก็มีเพิ่มมากขึ้นด้วย บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิกต้องการให้ความรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับปัญหาและนำเสนอวิธีการในการจัดการกับน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ

“โรคอ้วนเป็นปัญหาร้ายแรงต่อคนไทย โรคนี้เป็นภาวะสุขภาพที่ซับซ้อนซึ่งนำไปสู่โรคไม่ติดต่อ (NCDs) อื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ โรคกระดูกและข้อ อ่อนเพลียเรื้อรัง มะเร็ง และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งโรคเหล่านี้กำลังมีเพิ่มมากขึ้นในประชากรไทย” แพทย์หญิงจิรา ถาวรประดิษฐ์ ผู้อำนวยการคลินิกรอยัลไลฟ์ เวลเนส กรุงเทพ กล่าว “การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของโรคอ้วนและผลกระทบต่อประชากรไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนากลยุทธ์การป้องกันและการจัดการที่มีประสิทธิภาพ” แพทย์หญิงจิรา กล่าวเสริม

บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก มุ่งเน้นการดูแลน้ำหนักแบบองค์รวม มากกว่า การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายแบบเดิมๆที่มักจะไม่ประสบผลสำเร็จในการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ส่งผลให้เกิด “โยโย่เอฟเฟ็กต์” ที่น่าหงุดหงิดจากการลดและเพิ่มน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม โปรแกรมของคลินิกได้รับการออกแบบมาเพื่อทำลายวงจรนี้โดยมุ่งเน้นไปที่ตัวบุคคลแบบโดยรวม

“แนวทางของเราจะมีความครอบคลุม ผสมผสานตั้งแต่การวิจัยทางพันธุกรรม การวิเคราะห์ไมโครไบโอมในลำไส้ และการตรวจสุขภาพจิต เพื่อวางแผนควบคุมน้ำหนักแบบส่วนบุคคล โดยเราจะพิจารณาจากความอยากอาหารและอัตราการเผาผลาญของแต่ละบุคคล” แพทย์หญิงพิชชาพร ธนาพงศธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลีนิค และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อธิบาย “เมื่อพิจารณาถึงองค์ประกอบทางพันธุกรรมและไลฟ์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้รับบริการแต่ละราย เราจึงสามารถสร้างกลยุทธ์การจัดการน้ำหนักส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นส่วนตัวได้”

“นอกจากนี้ สุขภาพจิตถือเป็นองค์ประกอบที่เราควรให้ความสำคัญ ในยามที่เราต้องการที่จะควบคุมน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพ แต่หลายคนอาจจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป ทั้งนี้ การมีสุขภาพจิตที่ดีถือเป็นรากฐานในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับจิตวิทยาเบื้องหลังพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย ถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกเส้นทางการจัดการน้ำหนักที่ประสบความสำเร็จ” แพทย์หญิงพิชชาพร กล่าวเสริม

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของคลินิกควบคุมน้ำหนักที่บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก คือ การทำงานร่วมกันระหว่างทีมทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมเทรนเนอร์ส่วนบุคคล โดยจะใช้ผลการตรวจเลือด ความอยากอาหาร และอัตราการเผาผลาญที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล  พร้อมด้วยการทำ DEXA Scan ที่เป็นมาตรฐานและมีความแม่นยำสูงในการวัดองค์ประกอบของร่างกายรวมทั้งระดับไขมัน  การใช้วิธีการที่ครอบคลุมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยสร้างแผนการออกกำลังกายส่วนบุคคลที่ตอบสนองทั้งความต้องการของร่างกายและเป้าหมายของผู้รับบริการ ไม่ว่าผู้รับบริการต้องการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้ได้สัดส่วนที่ดีขึ้นหรือต้องการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน ทางคลินิกสามารถปรับแต่งแผนการออกกำลังกายให้ตรงตามความต้องการส่วนบุคคลได้

“เป้าหมายสูงสุดของเราคือการมอบความรู้และแนะนำเครื่องมือที่จำเป็นให้กับผู้รับบริการแต่ละบุคคล เพื่อใช้เป็นแนวทางรักษาน้ำหนักตัวให้แข็งแรงอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ดร. ปีเตอร์ ปทุมมารนันทน์ ผู้อำนวยการคลินิกสร้างเสริมและฟื้นฟูระบบกล้ามเนื้อและกระดูก กล่าว

เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับวันอ้วนโลกและปัญหาที่กำลังเติบโตในประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกันที่ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จึงได้แนะนำแนวทางการจัดการน้ำหนักที่รวบรวมองค์ประกอบหลัก 4 ประการเข้าด้วยกัน เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดการน้ำหนักจะมีประสิทธิภาพ

องค์ประกอบหลักสี่ประการในการควบคุมน้ำหนัก

  1. การเลือกรับประทานอาหาร ไม่ใช่แค่การทานน้อยลงแต่ทานให้ถูกต้องด้วย นักโภชนาการที่คลินิกได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้รับบริการเพื่อพัฒนาแผนการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ น่าพึงพอใจ และปรับให้เหมาะกับความต้องการและความชอบด้านอาหารของแต่ละบุคคล วิธีการเฉพาะบุคคลนี้จะช่วยให้เราแน่ใจว่า ผู้รับบริการจะทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความสุขในการทาน แทนที่จะเป็นข้อจำกัด
  2. การควบคุมความอยากอาหาร จะส่งผลต่อการบริโภคและการเลือกรับประทานอาหาร ทั้งนี้ การประเมินที่ครอบคลุมของทางคลินิกจะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงปัจจัยการกระตุ้นและรูปแบบความอยากอาหารของผู้รับบริการแต่ละรายได้ โดยการประเมินจะเป็นการพูดคุยถึงความอยากอาหารในด้านจิตวิทยาและสรีรวิทยา โปรแกรมนี้จะช่วยให้ผู้รับบริการสามารถพัฒนานิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งจะช่วยไปให้ถึงเป้าหมายในการควบคุมน้ำหนักได้ด้วย
  3. การเผาผลาญ เป็นกระบวนการของการเปลี่ยนพลังงานในร่างกาย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทางพันธุกรรมที่นำไปสู่ความแตกต่างในประสิทธิภาพการเผาผลาญของแต่ละบุคคล ฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ เทสโทสเตอโรน และอะดิโพเนคติน  ก็มีผลกับระบบเผาผลาญเช่นกัน รวมถึงสารพิษที่ปนเบื้อนในอาหาร หรือจากสิ่งแวดล้อมก็สามารถส่งผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญของร่างกายได้ด้วย ดังนี้ เราจึงต้องให้ความสำคัญต่อดัชนีมวลกล้ามเนื้อ เนื่องจากเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าเนื้อเยื่อไขมัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐานของผู้รับบริการจึงเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการจัดการน้ำหนัก
  4. การออกกำลังกายที่ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและวัตถุประสงค์ในการจัดการน้ำหนักเฉพาะของผู้รับบริการ ไม่ว่าเป้าหมายคือการสร้างกล้ามเนื้อหรือลดไขมัน แผนการออกกำลังกายส่วนบุคคลจะได้รับการออกแบบมาให้มีความสนุกสนาน ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้รับบริการจะมีแรงบันดาลใจและมีส่วนร่วมตลอดระยะเวลาการควบคุมน้ำหนัก

ทั้งนี้ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ได้รวมองค์ประกอบทั้งสี่นี้ไว้ในโปรแกรมการจัดการน้ำหนักแบบองค์รวมและมีประสิทธิภาพ โดยการเลือกใช้วิธีการนี้ ไม่เพียงแต่สามารถกำหนดเป้าหมายของการลดน้ำหนักได้ แต่ยังช่วยให้ผู้รับบริการมีความรู้และอุปนิสัยที่จำเป็นต่อสุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงในระยะยาวได้

Praew Recommend

keyboard_arrow_up