เผยโฉม ซูม่า กรุงเทพฯ นิวลุค หลังปรับปรุงร้านอย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 12 ปี

account_circle

ซูม่า (Zuma) ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะร่วมสมัยยอดนิยมในกรุงเทพฯ เผยโฉมใหม่จากการปรับปรุงครั้งใหญ่ หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2544 โดยยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่ทุกคนคุ้นเคย การออกแบบในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ สอดประสานไปกับสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่นร่วมสมัย เชื่อมโยงช่วงเวลาแห่งการรับประทานอาหารอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยย้ายซูชิบาร์ไปไว้อีกด้านของพื้นที่รับประทานอาหารทำให้ทุกท่านได้มองเห็นขั้นตอนการปรุง และวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่ใช้ได้เด่นชัดยิ่งขึ้น ท่านยังสามารถเลือกนั่งบริเวณซูชิบาร์ได้เพื่อชมทักษะการประกอบอาหารจากเชฟยอดฝีมือของซูม่า

นอกจากพื้นที่รับประทานอาหารที่ได้รับการปรับปรุงให้กว้างขวางสบายตากว่าเดิมแล้ว ด้านขวาของพื้นที่ยังมีห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเหมือนอัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ รวมไลน์ไวน์ชั้นดีมากกว่า 400 รายการ และสาเกระดับพรีเมียมมากกว่า 50 รายการ ซึ่งซูม่าให้ความสำคัญกับทุกประสบการณ์กินดื่มเสมอ ซูม่ามีซอมเมอลิเยร์ประจำห้องอาหารถึง 4 คน ร่วมกันคัดเลือก ดูแล และให้ข้อมูลเครื่องดื่มแต่ละชนิดสำหรับแพริ่งกับอาหารได้อย่างโดดเด่นลงตัว การปรับปรุงอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ยังรวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมาอย่างประณีต ทั้งบริเวณโถงหลัก ลานด้านนอก เลานจ์ และห้องส่วนตัว โดยเปลี่ยนจากวัสดุที่ทำจากไม้ให้กลายเป็นสเตนเลสที่สง่างามดูร่วมสมัย ส่วนที่นั่งบริเวณเฉลียงด้านนอกนั้นได้ยกระดับการนั่งสังสรรค์ จากเก้าอี้ไม้ไผ่ ให้กลายเป็นโซฟานุ่มสบาย โดย เรเนอร์ เบคเคอร์ (Rainer Becker) ผู้ก่อตั้งร่วมของ ซูม่า ยังเป็นผู้ดูแลการใช้โทนสีของผ้า เพื่อเติมเต็มพื้นที่แห่งนี้ให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้นอีกด้วย

ห้องอาหาร ซูม่า ในช่วงกลางวันจะได้รับแสงธรรมชาติที่ตกกระทบลงมาบริเวณเทอเรสด้านนอก สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารเที่ยงไม่ว่าจะเป็นเพื่อการประชุมทางธุรกิจ หรือจะเป็นมื้อสบายในหมู่เพื่อนฝูง ส่วนบรรยากาศของห้องอาหารซูม่าในยามเย็นนั้นจะเปลี่ยนทันทีเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน เพราะการปรับปรุงในรอบนี้ยังรวมไปถึงระบบไฟทั้งหมดซึ่งจะสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเป็นส่วนตัวกว่าเดิม ทั้งแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่บนโต๊ะอาหาร เรื่อยไปถึงการจัดแสงที่เคาน์เตอร์ซูชิ และเตาย่างสไตล์โรบาตะ ที่จะเห็นเปลวไฟจากถ่านอยู่ตลอดเวลา บรรยากาศรอบห้องอาหารยังถูกเติมเต็มให้หรูหรายิ่งขึ้นจากไฟที่ซ่อนอยู่ใต้หินขนาดใหญ่ สะท้อนถึงความงามแบบญี่ปุ่นรวมสมัยได้เป็นอย่างดี

ห้องไพรเวทโฉมใหม่ – ห้องเคนโช และห้องอูกิโยะ

หากลูกค้าต้องความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกว่าเดิม ซูม่า กรุงเทพฯ ก็ตอบสนองความต้องการนั้นได้ทันที กับ ห้องเคนโช และห้องอูกิโยะ ห้องรับประทานอาหารแบบเป็นส่วนตัวที่ได้รับออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สวยงาม และขับเน้นให้ช่วงเวลาของทุกท่านมีคุณค่ามากกว่าเดิม เหมาะสำหรับทั้งการประชุมสัมมนาขององค์กร ไปจนถึงงานเลี้ยงส่วนตัวในโอกาสสำคัญ

ห้องส่วนตัวเคนโช และห้องส่วนตัวอูกิโยะ สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ห้องละ 6 ท่าน โดยทั้ง 2 ห้องนี้สามารถเปิดที่กั้นให้กลายเป็นห้องเดียวได้ สามารถรองรับแขกสำหรับนั่งได้ 14 ท่าน และแขกสำหรับยืนได้มากถึง 35 ท่าน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดทันสมัย มีระบบทำความเย็น ระบบไฟ และระบบควบคุมเพลงที่แยกกัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะสร้างบรรยากาศได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน

สำหรับห้องส่วนตัว ไคเซน ที่ให้บริการทุกท่านมาอย่างยาวนาน ก็ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นดังเดิม รองรับแขกแบบนั่งรับประทานอาหารได้มากถึง 16 ท่าน เชื่อมต่อความรู้สึกผ่านโต๊ะไม้ฉำฉาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นงานช่างฝีมือคนไทย และผลิตเพื่อ ซูม่า กรุงเทพฯ โดยเฉพาะ พื้นที่อันกว้างขวางของห้องไคเซนทำให้เหมาะกับการใช้งานทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการจัดเลี้ยงทางธุรกิจ หรือสังสรรค์กันในกลุ่มเพื่อนและครอบครัว

Zuma’s Terrace กับการยกระดับประสบการณ์ความสนุก

บริเวณเฉลียงด้านนอกของ ซูม่า กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งมุมที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทุกกลุ่มและทุกวัย พื้นที่ตรงนี้ก็ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่เช่นกัน เพิ่มความหรูหราด้วยหลังคาผ้าใบขนาดใหญ่ที่สามารถเปิด-ปิดได้ ตามสภาพอากาศของกรุงเทพฯ ไม่ว่าแดดในช่วงกลางวันจะแรงเกินไป หรือมีเม็ดฝนโปรยลงมาในช่วงกลางคืน ก็จะไม่มีอะไรมาขัดขวางประสบการณ์กินดื่มของทุกท่านได้อย่างแน่นอน

ความครึกครื้นในยามค่ำคืนเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ ซูม่า กรุงเทพฯ ที่ทุกคนจดจำ บูธดีเจด้านนอกได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย และสนุกสนานยิ่งขึ้น มาพร้อมลำโพงจาก d&b audiotechnik แบรนด์เครื่องเสียงระดับชั้นนำที่ทุกท่านจะได้สัมผัสกับคุณภาพเสียงอย่างไร้ที่ติ ไม่ไกลจากบูธดีเจ ยังมีแบ็กดร็อปขนาดใหญ่ส่องสว่างเพื่อให้เป็นสถานที่บันทึกความทรงจำ และแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นยังรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่ ทั้งโต๊ะไม้สำหรับวางอาหาร และโซฟาสีเขียวอ่อนสบายตา กำแพงหินที่ล้อมรอบร้านบริเวณด้านนอกยังสร้างความเป็นส่วนหนึ่งอย่างถึงที่สุด และให้บรรยากาศประหนึ่งโอบล้อมด้วยธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งโอเอซิสกลางเมืองที่รอการค้นพบ

การเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ซูม่า กรุงเทพฯ มุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้รักการกินดื่ม และแสวงหางานบริการที่เอาใจใส่ ซูม่า กรุงเทพฯ จะตอบสนองในทุกความต้องการอย่างเต็มที่ เพื่อเติมเต็มช่วงเวลาสำคัญของทุกท่านให้น่าประทับใจ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up