tatum

Tatum’s Gallery ศิลปะสร้างสุข

account_circle
tatum
tatum

ภายในศูนย์บริการรถยนต์ย่านบางนาที่คลาคล่ำไปด้วยเหล่าช่างผู้ชำนาญและสารพัดอุปกรณ์หนัก  มีโลกของศิลปะสวยงาม Tatum’s  Gallery  ที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการซ่อนตัวอยู่บนชั้นสองของศูนย์บริการรถยนต์อย่างคาดไม่ถึงบรรยากาศเก๋สะอาดตา  เปิดรับผู้คนเข้ามาเวิร์กช็อปสร้างสรรค์งาน

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแพสชั่นอันแรงกล้าของ คุณตาตั้ม – ภัคจิรา  ชีวรักษ์สกุล  ผู้บริหารบริษัทจำหน่ายยางรถยนต์คนเก่งที่มีใจรักในศิลปะ  และสานฝันจนธุรกิจกับความฝันกลายเป็นอยู่ด้วยกันได้อย่างน่าตื่นตา

ใจรัก…ศิลปะ

 “ตั้มจบปริญญาตรี  Management  Study ที่ University of Nottingham  และปริญญาโทใบแรกจบ  Marketing  ที่  University of Bath ประเทศอังกฤษ  ใบที่สองจบ  Management of Information Systems & Digital Innovation ที่ London School of Economics (LSE)  ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับด้านศิลปะ  เพราะคิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องกลับมาช่วยธุรกิจครอบครัวจึงเลือกเรียนด้านธุรกิจ

 “ครอบครัวทำธุรกิจศูนย์บริการยางรถยนต์ของ Michelin เป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งค้าส่งและค้าปลีก  ส่วนตั้มชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ  เคยเรียนวาดรูปกับอาจารย์อนุโรจน์  จันทร์โพธิ์ศรี ศิลปินงานจิตกรรมไทยร่วมสมัย ซึ่งทางครอบครัวรู้จักอาจารย์เป็นการส่วนตัว  เรียนอยู่  3 – 4 ปี  แล้วภายหลังยังได้สะสมผลงานของอาจารย์ด้วย

“ตอนเรียนอยู่บางกอกพัฒนาเลือกวิชาเอกด้านศิลปะ  พอจะเข้ามหาวิทยาลัยที่อังกฤษก็สอบติดทั้งด้านศิลปะและด้านธุรกิจ  แต่พอปรึกษากับครอบครัว  ทุกคนเห็นไปทางเดียวกันว่าให้เรียนด้านธุรกิจ  เพราะมองเห็นช่องทางในเรื่องการงานมากกว่า  เรื่องศิลปะจึงว่างเว้นไป

“กระทั่งช่วงโควิดกลายเป็นว่าได้กลับมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบอีกครั้ง หลังจากไม่ได้วาดภาพมานาน  10  ปี  เริ่มจากศึกษาผลงานของศิลปินหลายท่านทั้งในและต่างประเทศ  ลองทำหลายแบบจนมาเจอสไตล์ที่ตัวเองชอบนั่นคือสีน้ำมันที่มีเท็กซ์เจอร์นูนหนา  กระทั่งกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งในงานของตั้มทุกวันนี้”

ก้าวแรกของ  Tatum’s Gallery

“จุดเริ่มต้นเกิดจากชิ้นงานศิลปะที่ค่อย ๆ เติบโตขยายพื้นที่ไปเรื่อย ๆ ค่ะ  ซึ่งตอนแรกก็เริ่ม paintในห้องทำงานที่ออฟฟิศ สร้างผลงานจำนวนมากจนไม่มีที่วางผลงานที่เหมาะสม จึงคิดว่าถ้ามีแกลเลอรี่เป็นของตัวเองคงจะดี เราและคนในครอบครัวจะได้ชมภาพด้วยกัน ใช้เวลาร่วมกัน สังสรรค์ อย่างเช่นในแกลลอรี่ก็จะมีเปียโนตัวโปรดของพี่ชาย ทุกวันศุกร์คุณพ่อจะดื่มไวน์และมาชมผลงานของเรา และยังสามารถเปิดให้ผู้สนใจศิลปะเข้าชมและมาวาดภาพในเวิร์กช็อปของเราได้ด้วย  จึงกลายมาเป็น Tatum’s Gallery ค่ะ”

 “ตั้มชื่นชอบสไตล์การตกแต่งของ Interior designer ที่ชื่อ Athena Calderone  จะเป็นแนว Mid-Century Modern ดูตัวอย่างงานที่เขาตกแต่งบ้าน  สตูดิโอ   แล้วนำมาปรับเป็นสไตล์ของเราอีกที  เน้นความเรียบง่ายแต่ดูแปลกตา เช่นตรงประตูแกลลอรี่จะมีความโค้งมน บวกกับด้วยความท่องเที่ยวประเทศแถบสแกนดิเนเวียค่อนข้างบ่อย ทำให้ซึมซับการตกแต่งสไตล์ของเขามาค่ะ”

กิจกรรมน่าลองของคอศิลปะ

 “กิจกรรมที่นี่ตั้มเริ่มจากแสดงและขายผลงานตัวเองก่อน  ต่อมาจึงทำเวิร์กช็อป  เพราะคิดว่ามีพื้นที่อยู่แล้ว  อยากให้คนที่ชอบสิ่งเดียวกันได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน เป็นแบบ community  พอมีคนสนใจมากขึ้น  เราก็อยากให้จริงจังขึ้น  จนอยากจะสร้างเป็นโรงเรียนสอนหรือสตูดิโอทางศิลปะโดยเฉพาะ เราอยากสร้างธุรกิจที่มีคุณค่าค่ะ

 “เป้าหมายที่เริ่มเปิดสอนศิลปะคืออยากรวมตัวคนที่ชอบด้านศิลปะมาอยู่ด้วยกัน  ไม่ได้เน้นทางศิลปะบำบัด  เพราะคิดว่าศิลปะเป็นสิ่งที่สามารถบำบัดได้ในตัวอยู่แล้ว  เพราะแค่เราได้ทำงานศิลปะก็จะมีจิตใจที่สงบ  ผ่อนคลาย  ศิลปะไม่มีถูกไม่มีผิด  รวมทั้งไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ  การเปิดแกลเลอรี่เหมือนเราได้หาตัวเองเจอและเป็นการ fulfil ตัวเองด้วย  และมาเจอช่วงที่เรามีเวลา  จนตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา  นอกจากเรามีความสุขแล้ว  คนที่มาเวิร์กช็อปก็ได้ความสุขนี้กลับไปด้วย

 “ที่นี่รับสอนทั้งเด็กและผู้ใหญ่  เด็กมีจินตนาการของเขาอยู่แล้ว  เรามีหน้าที่ช่วยเสริม  หรือเด็กบางคนที่ไม่กล้า  เราก็ชี้แนะให้เขาไม่กลัว  ไม่กังวล

 “นอกจากเปิดโรงเรียนสอนด้านศิลปะแล้วยังมีโปรเจ็กต์สำคัญที่อยากให้ติดตามค่ะ  คือปลายปีจะมีงานนิทรรศการที่เป็นการรวบรวมผลงานแนวแอ็บสเตร็กต์ของตั้มตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน  จัดที่  Old  Town  Gallery  ตลอดเดือนธันวาคม

 “Tatum’s Gallery  อยู่แถวบางนา  แต่ก็มีนักเรียนหลายท่านมาหาเราทั้งฝั่งธน กาญจนบุรี ล่าสุดนั่งรถตู้มาจากชลบุรี  คราวนี้ได้จัดแสดงในพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างย่านเจริญกรุงซึ่งเป็นย่านที่มีกลิ่นอายของอาร์ตอยู่แล้ว  อยู่ใจกลางเมือง น่าจะมาง่ายขึ้น อยากให้คนรักศิลปะได้มาจอยน์กันค่ะ

ถึงผู้คนที่กำลังค้นหาความฝัน

 “อยากบอกว่าบางครั้งการที่เราพยายามมากเกินไปในการค้นหาตัวเองก็กลายเป็นการบังคับตัวเองกลาย ๆ ว่าต้องเรียนต่อด้านไหน  ทำงานแบบไหน  ซึ่งบางทีเราอาจไม่ต้องรีบ  แค่รอจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะสม  ถ้ารู้สึกว่าชอบแล้วลงมือทำ  ก็จะต่อยอดไปได้อีกมากมาย

 “หากฝันของเราชัดเจน  ก็ไม่มีคำว่าสายไปที่จะเริ่มต้นค่ะ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up