เบรเกต์ ประเทศไทย ร่วมมือกันกับ เพนดูลัม เชียงใหม่ เผยโฉมเรือนเวลาคอลเลคชั่นไอคอนนิคของแบรนด์ เชิญเหล่าคนรักนาฬิการ่วมสัมผัสความงามสง่าอันร่วมสมัย ณ โรงแรมรายา เฮอริเทจ เชียงใหม่
เบรเกต์ ประเทศไทย ร่วมมือกันกับ เพนดูลัม เชียงใหม่ Cover

เบรเกต์ ประเทศไทย ร่วมมือกันกับ เพนดูลัม เชียงใหม่ เผยโฉมเรือนเวลาคอลเลคชั่นไอคอนนิคของแบรนด์ เชิญเหล่าคนรักนาฬิการ่วมสัมผัสความงามสง่าอันร่วมสมัย ณ โรงแรมรายา เฮอริเทจ เชียงใหม่

เบรเกต์ ประเทศไทย ร่วมมือกันกับ เพนดูลัม เชียงใหม่ Cover
เบรเกต์ ประเทศไทย ร่วมมือกันกับ เพนดูลัม เชียงใหม่ Cover

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา เบรเกต์ เดินทางขึ้นเหนือไปยังจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดที่มีวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอันโดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งทั้งศาสตร์และงานศิลป์อีกด้วย โดยงานนี้ เบรเกต์ ได้เนรมิตห้องอาหาร คุข้าว ของโรงแรมรายา เฮอริเทจ เชียงใหม่ เพื่อต้อนรับแขกพิเศษของทาง เพนดูลัม เชียงใหม่ ผู้หลงใหลในความประณีตละเอียดอ่อนของแบรนด์นาฬิการะดับโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นด้วยมื้ออาหารสุดพิเศษจากทางแบรนด์ โดยได้รับเกียรติจาก คุณยลอร วัชรเพชร์ รองประธานแบรนด์ เบรเกต์ ประเทศไทย, คุณนริพร เคียงศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดบริษัท เพนดูลัม จํากัด, คุณโจเซฟ วี รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท เพนดูลัม จํากัด ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติภายในงานอย่างเป็นกันเอง

สำหรับนาฬิการุ่นไฮไลท์ภายในงาน ได้แก่ REINE DE NAPLES 9838  (แรน เดอ นาปล์ 9838) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกที่รังสรรค์ขึ้นในปี 1812 เพื่อถวายแด่แคร์โรลีน มูราต์ (Caroline Murat) พระราชินีแห่งเนเปิลส์ และพระขนิษฐาในจักรพรรดินโปเลียน โดดเด่นด้วยตัวเรือนไวท์โกลด์ 18K ขอบหน้าปัดประดับบลูแซฟไฟร์ 118  เม็ด พร้อมกับเข็มนาฬิกาอัจฉริยะ ที่บิดบรรจบกันเป็นรูปหัวใจ

เบรเกต์ ประเทศไทย ร่วมมือกันกับ เพนดูลัม เชียงใหม่ เผยโฉมเรือนเวลาคอลเลคชั่นไอคอนนิคของแบรนด์ เชิญเหล่าคนรักนาฬิการ่วมสัมผัสความงามสง่าอันร่วมสมัย ณ โรงแรมรายา เฮอริเทจ เชียงใหม่

นอกจากนี้ในงานยังได้รวมนาฬิการุ่นพิเศษที่หาชมได้ยาก อาทิเช่น MARINE HORA MUNDI 5557 (มารีน ฮฮรา มอลดิ 5557) นาฬิกาจักรกลที่มาพร้อมกับกลไกการแสดงสองเขตเวลาที่สามารถเปลี่ยนในทันที ส่วนหนึ่งของกลไกระดับสูงนี้คือสามารถสำรองพลังงานที่ยาวนานกว่า 55 ชั่วโมง ที่สามารถรับชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังซึ่งตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยการขัดแต่งด้วยลาย Côtes de Genève, กิโยเชต์ และลายก้นหอย รวมไปถึง REINE DE NAPLES NOIR และ REINE DE NAPLES NOIR RUBIS ก็ได้ถูกนำมาจัดโชว์ภายในงานด้วยเช่นกัน

Praew Recommend

keyboard_arrow_up