ยกความสดจากทะเลส่งตรงจากนอร์เวย์ สู่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์

อาหารทะเลจำพวกเปลือก (shellfish) วัตถุดิบที่พรีเมียมที่สุดจากนอร์เวย์ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเปิดประตูสู่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) กับ บริษัท จาโกต้า บราเดอร์ส เทรดดิ้ง มาสร้างสรรค์ประสบการณ์การกินใหม่ที่ให้นักชิมทั่วไทยได้สัมผัสกับความสดแบบยกทะเลขึ้นมาไว้ในแต่ละเมนู

ภายในงานเปิดตัวที่ห้องอาหารลอร์ดจิมส์ พบกับเมนู shellfish จากนอร์เวย์ ทั้งหมด 5 เมนู รังสรรค์โดยเชฟคริสเตียน แอนเดรย์ เพตเตอเซน ตัวแทนประเทศนอร์เวย์ที่คว้ารางวัล Bocuse D’or Europe การแข่งขันด้านการทำอาหารที่โด่งดังที่สุดในโลก ได้แก่ ‘Brioche Bun’ บริยอชปูแดงจักรพรรดิเสิร์ฟคู่กับซาวครีมจากนอร์เวย์และฮอร์สแรดิช ‘East meets West’ กุ้งน้ำเย็นจากนอร์เวย์เสิร์ฟคู่กับมะเขือเทศสีเขียว น้ำส้มยูสุ ครีมอะโวคาโด และส้มโอ ‘Royal’ กุ้งลังกู้สตีนเสิร์ฟคู่กับคัสตาร์ดไข่ ยี่หร่าฝรั่งและซอสเห็ดชิตาเกะสไตล์นอร์เวย์ ‘Bocuse d`Or’ หอยเชลล์เสิร์ฟคู่กับถั่วลันเตา ซอสซาบายองกับบราวบัตเตอร์ และอโรมาจากสมุนไพร (เมนูจากการแข่งขันทำอาหารระดับโลก) และ ‘Cha Plu’ ปูสีน้ำตาลเสิร์ฟคู่กับหัวหอมและสลัดตะไคร้ ซิกเนเจอร์เมนูเซตนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นนอร์ดิกที่แทรกด้วยกลิ่นอายตะวันออกซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากแม่ของเชฟคริสเตียน มีการผสมผสานวัตถุดิบตะวันออกและตะวันตก และใส่ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชูรสชาติของ shellfish จากนอร์เวย์ในแต่ละจาน

ยกความสดจากทะเลส่งตรงจากนอร์เวย์ สู่ร้านอาหารระดับไฮเอนด์

ดร. อัสบีเยิร์น วาร์วิค เรอร์ทเว็ท ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC) กล่าวว่า “เราภูมิใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับการเปิดตัวสินค้าไลน์ใหม่ที่พรีเมียมที่สุดอย่าง shellfish จากนอร์เวย์ ซึ่งมีตัวเลือกหลากหลายประเภทให้ได้เลือกสรรให้กับร้านอาหารระดับไฮเอนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนไทย เช่น fine dining (ไฟน์ไดนิ่ง) และ omakase (โอมากาเสะ) นอกเหนือจากรสชาติที่สด หวานละมุนของปูแดงจักรพรรดิ กุ้งลังกู้สตีน หอยเชลล์ ปูสีน้ำตาล และกุ้งน้ำเย็นจากนอร์เวย์ วัตถุดิบพรีเมียมดังกล่าวยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วยมาจากแหล่งธรรมชาติที่ใส่ใจในความยั่งยืน นอร์เวย์มีกฎระเบียบด้านการประมงที่เข้มงวด ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดโควตาปลาและการเลือกใช้อุปกรณ์จับปลาที่มีประสิทธิภาพ โดยแบ่งแยกสำหรับปลาขนาดใหญ่และเล็กไว้อย่างชัดเจน เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนของระบบนิเวศรอบแนวชายฝั่ง นอร์เวย์เป็นประเทศแห่งอาหารทะเล ที่ส่งออกอาหารทะเลใหญ่เป็นอันดับสองของโลก การบริหารจัดการบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อแหล่งทรัพยากรของประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสภาอุตสาหกรรมอาหารทะเลนอร์เวย์ (NSC)”

มร. โกปาล จาโกต้า ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาธุรกิจ บริษัท จาโกต้า บราเดอร์ส เทรดดิ้ง กล่าวว่า “ที่จาโกต้า เรามองหาเทรนด์ที่จะขับเคลื่อนนวัตกรรมและสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ถ้าพูดถึงอาหารทะเล เราคัดสรรวัตถุดิบที่คุณภาพดีและมาจากแหล่งการประมงที่ยั่งยืนที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเราสามารถนำไปประกอบอาหารได้จริง ในปี 2565 นี้ เราเชื่อว่าเรื่องของคุณภาพเป็นมากกว่าการมีเนื้อสัมผัส รสชาติ หรือรูปลักษณ์ที่ดี แต่ยังหมายถึงความยั่งยืน การไม่จับปลาเกินกว่าที่จำเป็น ความรับผิดชอบต่อสุขภาวะของภาคแรงงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับที่ต่ำ ตั้งแต่การผลิต ขนส่ง ไปจนถึงการบริโภค เราอยากที่จะสร้างคำนิยามใหม่ของคำว่า “คุณภาพ” ที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความยั่งยืนต่อระบบนิเวศและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นหลักการที่สอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของนอร์เวย์ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ทางสภาฯ ได้เชิญให้เราเป็นพันธมิตรสำคัญในการเปิดตัว shellfish จากนอร์เวย์ ที่ห้องอาหารลอร์ดจิมส์ ในวันนี้”

Shellfish จากนอร์เวย์ ทั้งแบบเปลือกแข็งและอ่อน ต่างได้รับความนิยมและโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยรสชาติอันหวานละมุน มีการเลี้ยงดูในน้ำทะเลที่เย็นและใสสะอาด บริหารจัดการด้วยกฎระเบียบการทำประมงที่เข้มงวด ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่ากำลังรับประทานอาหารทะเลที่คุณภาพดีที่สุดและมาจากแหล่งธรรมชาติที่ยั่งยืนที่สุด