สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ เป็นประธานการประชุมใหญ่มูลนิธิรามาธิบดีฯ พร้อมทอดพระเนตร “สวนบำบัดลอยฟ้า”

สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ เป็นประธานการประชุมใหญ่มูลนิธิรามาธิบดีฯ พร้อมทอดพระเนตร “สวนบำบัดลอยฟ้า” กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยต้นแบบแห่งการบำบัดกาย ใจ ด้วยธรรมชาติ โรงพยาบาลรามาธิบดี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานการประชุมใหญ่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ประจำปี 2561 ณ โถงประชุม ชั้น 9 ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี  โดยมีผู้แทนคณะผู้บริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีเฝ้าฯ รับเสด็จ อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์เกษม  วัฒนชัย, ศาสตรจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน, ศาสตราจารย์นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา, คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี, คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม และ ศาสตราจารย์กิตติคุณเติมศักดิ์  กฤษณามระ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องต่าง ๆ อาทิ รายงานการสนับสนุนคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีประจำปี 2559-2560, รายงานงบการเงิน ประจำปี 2560 ตลอดจนรายงานผลการดำเนินกิจการและกิจกรรมของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ปี 2559- 2560

ในโอกาสนี้  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  ทรงให้ความสนพระทัยในรายงานหลายประเด็น โดยเฉพาะ “สวนบำบัดลอยฟ้า” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนชั้น 10 ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์  และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสวนดังกล่าวด้วย และยังมีรับสั่งกับผู้แทนคณะผู้บริหารและคณะกรรมการมูลนิธิรามาธิบดีฯ ถึง เส้นทางเดินกายภาพบำบัด ที่นำกรวดมาใช้ปูเส้นทางเดิน ว่าเป็นวิธีกายภาพบำบัดที่ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพในการเดินของคนไข้ได้ดีขึ้นอย่างเห็นผล รวมถึงการแบ่งพื้นที่สำหรับสวนสมุนไพร เพราะจะเป็นการให้ความรู้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ ยังคงผสานกำลังกันอย่างเข้มแข็ง และมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพ เพื่อเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้านสาธารณสุข นอกจากนี้ยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้นการยกระดับและขยายขีดความสามารถในการให้บริการด้านการแพทย์ และการผลิตบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น อันได้แก่ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ซึ่งเปิดให้บริการปลายปีที่ผ่านมา เมื่อเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ จะสามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยนอกได้ถึง 1,000,000 ราย และ ผู้ป่วยใน 17,000 รายต่อปี

“จากนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดียังมีแผนจะเปิดให้บริการ “สวนบำบัดลอยฟ้า” กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ซึ่งเป็นโครงการที่เกิดจากความมุ่งมั่นของโรงพยาบาลรามาธิบดีที่จะสร้างโรงพยาบาลสีเขียว (Green Hospital) อย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิรามาธิบดีฯ ในการก่อสร้างสวนดังกล่าว ภายใต้แนวคิด “สวนบำบัดคน สวนบำบัดเมือง” ด้วยการพลิกฟื้นพื้นที่ดาดแข็ง (พื้นที่ที่มีลักษณะแข็ง) ชั้น 10 ของศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ ให้เป็นสวนหลังคาเขียวเพื่อการบำบัด (Healing Garden) ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดผลดีโดยตรงต่อการบำบัดรักษาพยาบาลแล้ว ยังเป็นพลังเล็ก ๆ ในการช่วยกอบกู้สิ่งแวดล้อมในเมืองใหญ่ ด้วยการลดปริมาณพื้นดาดแข็ง เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองหลวง ช่วยดูดซับน้ำฝนและความร้อนจากบริเวณโดยรอบ ตลอดจนลดอุณหภูมิของอาคารและลดการปล่อยความร้อนสู่ภายนอกอาคารและช่วยฟอกอากาศด้วย”

ศาสตราจารย์นายแพทย์ปิยะมิตร ยังเสริมด้วยว่า “สวนแห่งนี้เป็นต้นแบบของการรักษาแบบองค์รวมในสถานพยาบาล โดยชูแนวคิดธรรมชาติบำบัด (Ecotherapy) เป็นองค์ประกอบสำคัญในการบำบัดเยียวยา ด้วยสภาพแวดล้อมและบรรยากาศธรรมชาติที่สร้างกิจกรรมส่งเสริมการบำบัดทางจิตใจ กาย จิตวิญญาณ รวมถึงเพิ่มกิจกรรมทางสังคมแก่ผู้มาใช้บริการ เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ และผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติแห่งใหม่ของมหานครแห่งนี้ ”

ด้านผศ. สุพัตรา ลีลาภิวัฒน์ เลขานุการและกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “ตลอดการดำเนินงาน ของมูลนิธิรามาธิบดีฯมากว่า 49 ปี เราทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการรับบริจาคหรือจำหน่ายของที่ระลึกของมูลนิธิฯ  โดยได้รับความร่วมมืออันดีจากหน่วยงาน องค์กรภาคเอกชน รวมถึงดาราจิตอาสา เพื่อสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยมากกว่า 2 ล้านรายต่อปี ผ่านโครงการต่างๆ ของมูลนิธิฯ อาทิ โครงการผู้ป่วยยากไร้ การจัดซื้อเครื่องมือการแพทย์ เช่น หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดสมองเครื่องแรกของไทย ห้องผ่าตัดไฮบริดสำหรับผู้ป่วยภาวะโรคซับซ้อนที่มีภาวะเสี่ยงสูงซึ่งไม่เหมาะกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม   รวมถึงการวิจัยและพัฒนาด้านการแพทย์ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยทุกคนได้พ้นจากความเจ็บป่วย ตลอดจนการก่อสร้างสวนบำบัดลอยฟ้าแห่งนี้

ภายในพื้นที่ 1,500 ตารางเมตรของสวนบำบัดลอยฟ้า ประกอบด้วย ห้องไม้ดอก (Flower Room) ห้องอเนกประสงค์ที่ตกแต่งด้วยภาพวาดพรรณไม้งาม และดอกกันภัยมหิดล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยมหิดล วาดมือโดยบุคลากรชาวรามาฯ ถัดมาคือซุ้มไม้เลื้อย (Under The Pergola) เพื่อเป็นร่มเงาในทางเดินที่โอบล้อมเป็นอุโมงค์และซุ้มบังแดด บนลานกิจกรรม Open Field ที่รองรับการใช้งานได้ถึง 200 คน จากนั้นตื่นตาไปกับ ผนังถุงน้ำเกลือ (Recycle Wall) ที่นำถุงน้ำเกลือกว่า 700 ถุงที่ได้รับการแปรรูปเป็นขยะปลอดภัยมาสร้างสรรค์เป็นผนังต้นไม้ที่ทรงคุณค่า อีกหนึ่งโซนไฮไลท์ คือ สวนไม้หอมและอักษรคนตาบอด (Aroma Garden and Belltal Railing) ที่สอดแทรกกุศโลบายในการบำบัดไว้อย่างแยบยล ด้วยการออกแบบเส้นทางเดินกายภาพบำบัด ให้ตลอดทางเต็มไปด้วยกรวดหลายขนาด เพื่อช่วยเปลี่ยนน้ำหนักในการกดจุดจากการทิ้งน้ำหนักลงบนเท้าขณะเดิน พร้อมมีราวจับเขียนอักษรเบรลล์สำหรับคนตาบอดเป็นกลอนชื่อว่า “เพลงรัก” อันเป็นพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

นอกจากนี้ ยังประกอบด้วย สวนเกษตรลอยฟ้า (Urban Farming) มีพืชพรรณที่ได้รับความร่วมมือจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาเป็นห้องเรียนสมุนไพรสำหรับนักศึกษา ตลอดจนผู้มาใช้บริการ ปิดท้ายด้วย อัฒจรรย์วงกลมกลางแจ้ง (Healing Circle Amphitheatre) สำหรับจัด
การแสดงขนาดกลางและเล็ก โดยสวนบำบัดลอยฟ้าของโรงพยาบาลรามาธิบดี พร้อมให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ได้เร็วๆ นี้ นับเป็นอีกมิติหนึ่งของการสร้างเสริมสุขภาพของคนไทยให้ดีอย่างยั่งยืนด้วยธรรมชาติ

มูลนิธิรามาธิบดีฯ คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด

Praew Recommend

keyboard_arrow_up