ข้าวกล้อง

สูตรผิวใส หุ่นเซี๊ยะ สารพัดประโยชน์จาก ‘ข้าวกล้อง’ อาหารคนจนที่ในหลวงทรงเห็นค่า

Alternative Textaccount_circle
ข้าวกล้อง
ข้าวกล้อง

หลายคนคงทราบกันดีถึงสารพัดประโยชน์ของ “ข้าวกล้อง” แต่ถึงรู้ว่าดีแค่ไหน คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ชอบกินข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือกันอยู่ดี ทั้งที่จริงๆแล้วสรรพคุณของข้าวกล้องนั้นบรรยายแทบไม่หมด บ้างก็ว่ากินแล้วป้องกันเหน็บชา ฟันแข็งแรง บำรุงสมอง ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ ท้องไม่ผูก ป้องกันโรคมะเร็งในลำไส้ และควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย ฯลฯ

แม้กระทั่งเกี่ยวกับเรื่องความสวยความงามก็น่าสนใจมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย  ผิวขาวกระจ่างใส และหมัดฮุกแสนโดนใจสำหรับสาวๆที่คิดจะไดเอต ลดความอ้วน เพราะเปลือกที่มีเยื่อบางๆหุ้มติดกับเนื้อข้าวอยู่จะเหนียว แตกตัวยาก ซึ่งเยื่อนี้ไม่สามารถย่อยได้ในร่างกายเรา ทำให้ไม่ได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยน้อยกว่าในข้าวขาว ทำให้อินซูลินที่หลั่งออกมาน้อย ร่างกายก็เลยใช้พลังงานจากไขมัน

โอ้ย…ฟังแล้วรู้สึกว่าอะไรจะดีขนาดนี้เนี่ย แต่…ทำม้าย ทำไมยังไม่รู้สึกอยากกินข้าวกล้องมากมายขนาดนั้น ไม่เป็นไร แพรวเข้าใจ ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆปรับ เริ่มแรกลองนำข้าวกล้องมาหุงปนกับข้าวขาวกินก่อน พอเริ่มชินคราวนี้ก็กินข้าวกล้องได้ชิลแล้ว อะๆ ถ้าไม่ยอมกินล่ะ จะสวยจากข้าวกล้องได้ยังไง (พร้อมนะ เตรียมตัวจดสูตรให้ดี) ไปขัดผิวกันดีกว่า

สูตรขัดผิวด้วยข้าวกล้อง
เผยผิวเนียนขาวกระจ่างใสฉบับก้นครัว รับรองไม่ยาก สูตรที่แพรวให้สามารถหาวัตถุดิบได้ในครัวทุกบ้านอย่างแน่นอน

  • ข้าวกล้อง 1 ถ้วยตวง หรือกะคร่าวๆ 1 กำมือ
  • นมสดประมาณครึ่งแก้ว (แก้วน้ำที่เราดื่มกันปกติเนี่ยแหละ) กรณีนี้ใช้โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ 1 ถ้วยแทนได้นะคะ
  • มะนาวครึ่งซีกก็พอ
  • น้ำผึ้งประมาณ 2 ช้อนชา

จากนั้นเททุกอย่างผสมกันลงเครื่องปั่น (เครื่องปั้นน้ำผลไม้นะจ๊ะ ไม่ใช่เครื่องปั่นซักผ้านะ จะตลกกันไปใหญ่ละ อิอิ) ปั่นรวมกันรวดเดียวจบ แต่ไม่ต้องให้ละเอียดยิบเกินไปนะ ลองดูให้ปั่นพอหยาบก็ใช้ได้ละ เทเก็บใส่ขวดโหลเปล่าไว้

ถึงเวลาอยากสวยก็นำมาขัดสครับผิวได้ทั่วเรือนร่างเลยละ ใบหน้าก็ได้นะจ๊ะ แต่อย่าขัดแรง เบามือหน่อย เดี๋ยวหน้าพัง หลังสครับเสร็จก็พอกทิ้งไว้เหมือนมาสก์สักประมาณ 15 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆเช็ดออก ล้างตัวด้วยน้ำเย็นให้สะอาด นอกจากผิวพรรณจะรู้สึกสะอาดแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงผิวที่เนียนนุ่มเด้งสู้มือ ชุ่มชื้นขึ้นทันทีเลยละ ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวได้ผลัดเซลล์ใหม่บ้าง รับรองสาวๆจะได้ผิวขาวผุดผ่องเป็นยองใยด้วยละ

 

kaokinglobroy-01

นี่ไงหน้าตาของข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ เป็นเมล็ดข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี มีสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม รสชาติมันปานกลาง และมีคุณค่าประโยชน์จากสารอาหารต่างๆมากกว่าข้าวขาวธรรมดา เพราะผ่านการกะเทาะเปลือกออกเพียงครั้งเดียว ทำให้เยื่อหุ้มเมล็ดข้าวยังอยู่ ซึ่งเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ รวมทั้งกากใยอาหารที่มีมากกว่าในข้าวขาวในปริมาณเท่ากันถึง 3 เท่าทีเดียว

แต่คนมักชอบติดภาพว่าข้าวกล้อง หรือที่ชอบเรียกว่าข้าวแดงนั้นเป็นข้าวสำหรับนักโทษ ไม่เห็นจะมีดีอะไร ขอบอกเลยว่าคุณพลาดแล้ว ความเชื่อสมัยก่อนมาจากนักโทษต้องใช้แรงทำงานมาก ข้าวก็ไม่ได้มีครบสามมื้อ เขาเลยให้กินข้าวแดง จะได้มีกำลังมาก อิ่มนาน  ระบบย่อยอาหารดี คนส่วนใหญ่เลยฝังใจว่าข้าวขาวเนี่ยหละดีที่สุด ซึ่งเกิดจากการจินตนาการล้วนๆเลยเห็นไหมล่ะ ลองเปิดใจทำความรู้จักแล้วเริ่มกินดูสิคะ ถ้ายังตะขิดตะขวงใจ ลองฟังคลิปในหลวงรัชกาลที่ 9 รับสั่ง แล้วจะรู้ว่าเราไม่ได้โม้จริงๆนะตัวเอง

rice_king_xl_2

ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้าวและชาวนามากเป็นอันดับต้นๆ จะเห็นได้จากการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆเกี่ยวกับข้าว และกระแสพระราชดำรัสเกี่ยวกับข้าว ความว่า

“…ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อยๆ ข้าวจะไม่พอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก…” กระแสพระราชดำรัส (เมื่อปี 2536)

และอีกกระแสพระราชดำรัสที่ฟังแล้วต้องขำตาม (เมื่อปี 2541) ในคลิปวิดีโอ ความว่า “ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้องเนี่ยนะเรากินทุกวัน เพราะว่ามีประโยชน์ ร่างกายแข็งแรง ข้าวขาวนี่เอาของดีออกไปหมด และข้าวกล้องนี่ดี มีคนบอกว่ากินข้าวกล้องเป็นคนจน เราก็เป็นคนจน” รับสั่งพร้อมแย้มพระสรวล

เครดิต : Youtube โพสต์โดย Dhammaintrend


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและรูปภาพเรื่องข้าวเกี่ยวกับรัชกาลที่ 9 : www.thairice.org
ข้อมูลเรื่องข้าวอื่นๆ : เกร็ดความรู้.net
รูป Cover : นิตยสาร ชีวจิต ปี 2555 ฉบับที่ 337 หน้า 60

Praew Recommend

keyboard_arrow_up