ลิซ่า BLACKPINK

Drop some money! ลิซ่า BLACKPINK กับ Black Card ที่ผู้ใช้ต้องถูกรับเชิญเท่านั้น

account_circle
ลิซ่า BLACKPINK
ลิซ่า BLACKPINK

I came here to drop somе money…. เอาอะไรมาต้านความรวยที่แท้ทรูนี้ของ ลิซ่า BLACKPINK เมื่อบัตรเครดิตที่เธอใช้นั้นคือ Hyundai Black Card ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าใครที่จะใช้บัตรนี้ได้ต้องถูกรับเชิญเท่านั้น!!!

Drop some money! ลิซ่า BLACKPINK กับ Black Card ที่ผู้ใช้ต้องถูกรับเชิญเท่านั้น

Youtube / @sooyaaa__

ทั้งนี้ชาวเน็ตตาดีได้เห็น Black Card บัตรดำที่บ่งบอกความร่ำรวยของลิซ่าได้อย่างแท้ทรูจาก Vlog ของ จีซู BLACKPINK ที่โพสต์ทางช่องยูทูป Happy Jisoo 103 % “COLOGNE vlog” โดยเป็นตอนที่สาวๆ เดินทางทัวร์คอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] ที่เมือง Cologne ประเทศเยอรมนี ซึ่งในช่วงเวลาพักผ่อน ลิซ่า และ จีซูได้เดินเที่ยวในตลาดคริสต์มาส ทั้งคู่ได้ลองชิมอาหาร และ เครื่องดื่มต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน ขณะนั้นเอง ลิซ่า ก็ได้ตัดสินใจซื้อเครื่องดื่มชนิดหนึ่งและได้นำ Card Holder ออกมา จังหวะนี้เองที่ชาวเน็ตตาดีได้เห็น Black Card ในกระเป๋าใส่บัตรของลิซ่า จนกลายเป็นไวรัลที่ชาวเน็ตพูดถึง

Hyundai
Hyundai

สำหรับ Black Card ของลิซ่านั้น ชาวเน็ตได้คาดการณ์ว่าเป็นรุ่น Limited Edition Hyundai’s Black Card 3 ซึ่งความพิเศษคือ ฮุนไดได้พิมพ์บัตรออกมาเพียงแค่ 1,000 ใบเท่านั้น ซึ่งหมายความจะมีผู้ที่ได้รับเชิญทั้งหมดเพียงหนึ่งพันคนจากประชากรทั้งหมดของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งลิซ่าคือหนึ่งในนั้น

ความพิเศษของ Black Card หรือ บัตรดำ นั้นจัดมาเพื่อ VVIP ที่ได้รับเชิญโดยเฉพาะ โดยในประเทศเกาหลีใต้มีเพียงแค่ 0.05% ที่ได้รับคำเชิญให้ใช้บัตร Hyundai Black Card ซึ่งเจ้าของบัตรต้องใช้จ่ายอย่างน้อย 10 ล้านวอน (280,000 บาท) ในแต่ละเดือน และมีทรัพย์สินขั้นต่ำ 10,000 ล้านวอน หรือประมาณ 280 ล้านบาท !!!

Hyundai

ไม่เพียง Black Card จะแสดงถึงความร่ำรวยของคนที่ใช้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีเงินแล้วจะสามารถเดินไปสมัครได้ เพราะผู้ที่สามารถถือบัตรเอ็กซ์คลูซีฟนี้ใบนี้ได้จะต้องได้รับคำเชิญเท่านั้น ที่สำคัญคือ Black Card ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “บัตรดำที่ไร้ขีดจำกัด” หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่มีการจำกัดวงเงินในการใช้จ่าย

นอกเหนือจากอำนาจในการใช้จ่ายที่มอบให้กับเจ้าของบัตรแล้วเหล่า VVIP “Black Card” ยังได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ การอัพเกรดตั๋วเครื่องบิน, คูปอง และบัตรกำนัลสำหรับแบรนด์หรู, บริการด้านต่างๆ เช่น สปา และโรงแรม รวมถึงอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน  

Youtube / @sooyaaa__

ทั้งนี้ตามรายงานของ KoreaBizWire มีการเผยว่าบัตรเครดิตที่แพงที่สุด 4 อันดับแรกในแง่ของค่าธรรมเนียมรายปี ได้แก่ The Black ของ Hyundai Card, Raume O ของ Samsung Card, Hana Card’s Club 1 และ Tantum ของ KB Kookmin Card


Praew Recommend

keyboard_arrow_up