กรรณิกา จิตรสังวรณ์

“กรรณิกา จิตรสังวรณ์” หัวหน้าเชฟครัวไทยคนใหม่ห้องอาหารพระนคร คาเพลลา กรุงเทพฯ

Alternative Textaccount_circle
กรรณิกา จิตรสังวรณ์
กรรณิกา จิตรสังวรณ์

นับเป็นความบังเอิญที่ลงตัว เนื่องในเดือนมีนาคม ซึ่งตรงกับวันสตรีสากล (8 มีนาคม ของทุกปี) ประจำปี พ.ศ. 2565 โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ได้ให้การต้อนรับ “กรรณิกา จิตรสังวรณ์” เชฟคนใหม่ประจำครัวไทยของห้องอาหารพระนคร ห้องอาหารไทยรสชาติต้นตำรับของรีสอร์ตหรูริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่ายินดีของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการที่โรงแรมฯ ให้ความสำคัญ พร้อมนำเสนอความเท่าเทียมและมอบโอกาสให้กับผู้หญิงได้ทำงานในระดับผู้บริหารและได้แสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่

“กรรณิกา จิตรสังวรณ์” หัวหน้าเชฟครัวไทยคนใหม่ห้องอาหารพระนคร โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ 

กรรณิกา จิตรสังวรณ์ 1
“กรรณิกา จิตรสังวรณ์” เชฟคนใหม่ประจำครัวไทยของห้องอาหารพระนคร

เชฟกรรณิกา (หรือเชฟต้อย) ได้รับคำชื่นชมจากผู้ที่เคยได้ร่วมงานและได้ลิ้มรสอาหารฝีมือของเชฟว่าเป็นผู้ที่สามารถคัดสรรและเสาะแสวงหาวัตถุดิบที่สดใหม่และหารับประทานได้ยาก มาปรุงเป็นอาหารไทยจานอร่อยได้เก่งมากคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นเชฟที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในรายละเอียดของทุกขั้นตอนการปรุงอาหาร ตลอดจนเทคนิคเฉพาะตัวในการนำเสนออาหารให้น่ารับประทานอีกด้วย

เชฟกรรณิกา สั่งสมประสบการณ์ก้นครัวและได้ร่วมงานกับโรงแรมและรีสอร์ตชั้นนำมาแล้วกว่า 2 ทศวรรษ เช่น โรงแรมเดอะดาไต ลังกาวี, โรงแรมโคโม แพร็อทเคย์ หมู่เกาะเติกส์และเคคอส และรีสอร์ตต่างๆ ของเครือโรงแรมอมัน ทั้งในประเทศอินโดนีเซีย ตุรกี และภูฏาน ก่อนที่เชฟจะได้กลับมาเมืองไทย เพื่อแสดงฝีมือการปรุงอาหารและการบริหารจัดการห้องอาหารไทยของโรงแรมอมันปุรี ภูเก็ต ในปี ค.ศ. 2017 ที่ซึ่งเชฟได้ฝึกฝนทักษะการปรุงอาหาร เรียนรู้เทคนิค และเคล็ดลับการปรุงอาหารสูตร “ปักษ์ใต้” แบบดั้งเดิมจากชาวพื้นเมืองโดยแท้

การเกิดมาเป็นผู้หญิงเคยเป็นอุปสรรคในการเติบโตขึ้นของสายอาชีพและการทำงานในครัวของเชฟกรรณิกา ซึ่งคุณแม่ของเธอเองคือผู้ที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำให้เธอรู้จักกับความสุขในการทำอาหารตั้งแต่อายุยังน้อย เชฟกรรณิกาเล่าให้ฟังว่ารอบๆ บ้านของเธอในวัยเด็กนั้นรายล้อมไปด้วยต้นขนุนและต้นมะพร้าว คุณแม่ของเธอสอนให้เธอตำน้ำพริกจากต้นตะไคร้และใช้ผลมะนาวที่ปลูกไว้ใช้เองภายในสวนของตัวเอง สิ่งนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกชื่นชอบการปลูกพืชผักสวนครัวแบบปลอดสารพิษไว้ประกอบอาหารรับประทานเอง และทำให้เธอรู้จักการเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากท้องตลาดมาประกอบอาหารอีกด้วย

 

เชฟกรรณิกา กล่าวถึงคุณแม่ของเธอว่า “คุณแม่เป็นผู้มอบแรงบันดาลใจให้ต้อยพัฒนาตนเอง และสามารถยืนหยัดขึ้นมาเป็นเชฟตัวจริงได้ในทุกวันนี้ แม่ของต้อยสอนให้ยึดมั่นในปรัชญาการปรุงอาหารไทยและรักษามรดกอันล้ำค่าของอาหารไทยไว้ให้ได้มากที่สุด”

นับตั้งแต่เปิดให้บริการในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 ห้องอาหารพระนคร โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ นำเสนอรายการอาหารไทยที่เดินทางมาจากภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ อาทิ แกงคั่วกะทิสูตรเผ็ดร้อนจากภาคใต้ของไทย, ส้มตำรสจัดจ้านสูตรเฉพาะจากภาคอีสาน หรืออาหารไทยสไตล์จีนรสกลมกล่อมที่มีต้นกำเนิดมาจากชุมชนโดยรอบบนถนนเจริญกรุง ที่ซึ่งโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพตั้งอยู่

 

ในการเข้ามารับหน้าที่หัวหน้าเชฟประจำครัวไทยของห้องอาหารพระนครนั้น เชฟกรรณิกาจะสานต่อแนวคิดของการนำเสนอความหลากหลายและรสชาติแห่งอาหารไทยที่มาจากทุกภูมิภาคของประเทศ พร้อมนำประสบการณ์และความสัมพันธ์อันดี ที่เธอมีมายาวนานกับชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน และชาวประมง ที่เธอเคยได้ร่วมงานด้วยมาเป็นผู้ช่วยในการเฟ้นหาวัตถุดิบที่สดใหม่ และนำพารสชาติใหม่ๆ มาสู่ห้องอาหารพระนคร

“ดิฉันรู้สึกว่าการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร เชฟน้อยใหญ่จากร้านอาหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หรือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอยู่โดยรอบร้านอาหาร หรือในชุมชนนั้นๆ เองก็จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน สิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจและปรัชญาของดิฉันที่ต้องการถ่ายทอดและนำเสนอไว้ในรายการอาหารของห้องอาหารพระนคร”

 

ห้องอาหารพระนคร นำเสนออาหารไทยสูตรต้นตำรับที่มีรสชาติจัดจ้านแต่กลมกล่อม อาหารทุกจานปรุงแต่งขึ้นตามสูตรของการปรุงอาหารไทยแท้แบบดั้งเดิม ร้านอาหารเป็นอาคารเรือนกระจกที่รายล้อมไปด้วยสวนสวยและสนามหญ้าอันเขียวขจี ด้านนอกมีระเบียงใต้ร่มไม้ใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาไว้คอยให้บริการพร้อมห้องจัดเลี้ยงแบบเป็นส่วนตัว เปิดให้บริการอาหารไทยในมื้อกลางวันและมื้อค่ำทุกวัน

พบกับเชฟกรรณิกา และรายการอาหารไทยสูตรต้นตำรับของเธอได้ที่ห้องอาหารพระนคร โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ร้านอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รายการอาหารยอดนิยมนอกจากอาหารไทยจากภูมิภาคต่างๆ แล้วยังมีชุดอาหารไทยซิกเนเจอร์ “ลองชิม” สำหรับมื้อกลางวัน และชุดอาหารไทยซิกเนเจอร์ “สำรับ” สำหรับมื้อค่ำ ที่นำเสนออาหารในรูปแบบ “แฟมิลี่ แชริ่ง” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบครอบครัวไทย และ “ซันเดย์ ซีฟู้ด ลันช์” ที่นำเสนอบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสุดพรีเมี่ยม และอาหารไทยที่ปรุงขึ้นสด-ใหม่ แบบ “จานต่อจาน” ในมื้อกลางวัน (ระหว่างเวลา 12.00-15.00 น.) ซึ่งจะจัดขึ้นทุกวัน อาทิตย์-เว้น-อาทิตย์ และได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมากและถูกจองเต็มล่วงหน้ามากกว่า 1 เดือนเสมอ สำหรับ “ซันเดย์ ซีฟู้ด ลันช์” ที่เปิดให้สำรองโต๊ะในครั้งต่อไป คือวันอาทิตย์ที่ 10 และวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน และวันอาทิตย์ที่ 8 และวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม นี้

 

ท่านสามารถสำรองโต๊ะได้ที่ โทร. 02 098 3888, 065 998 4690 และอีเมล [email protected].


 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up