account_circleปีใหม่ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว หลายคนมีการตั้งเป้าถึงสิ่งใหม่ๆ ที่อยากทำหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ในปี 2019 นี้ถึงเรื่องของการมีสุขภาพดี เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้คนในยุคนี้ให้ความสนใจ เรียกได้ว่าติดอันดับท็อปลิสต์ New Year Resolutions อยู่ตลอดแทบทุกปี โดยเฉพาะเทรนด์ความเชื่อของคนรุ่นใหม่กับคำว่า Live Well Eat Well เพราะเชื่อว่าการกินดีส่งผลต่อ สุขภาพดี โดยตรง
หากคุณเป็นอีกคนที่มีความคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องของอาหารการกินเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น รูปร่างที่ดีขึ้น ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งขึ้น ขอแนะนำ 5 วิถีการกินแบบสุขภาพดีที่ทำได้ง่ายๆ ในทุกๆ วัน
Live Well Eat Well เทรนด์ความเชื่อคนรุ่นใหม่กับ 5 วิถีการกินแบบ สุขภาพดี ในปี 2019
-
เพิ่มปริมาณผักและผลไม้ให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) รณรงค์ให้ผู้คนหันมากินผักและผลไม้ให้ได้อย่างน้อย 400 กรัมต่อคนต่อวัน เพราะผักนั้นอุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ แร่ธาตุต่างๆ รวมถึงกากใยไฟเบอร์ ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ลองสังเกตดูสิว่าในแต่ละมื้อของคุณ มีปริมาณผักและผลไม้มากน้อยแค่ไหน หากน้อยกว่า 400 กรัมในแต่ละวัน ลองเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น
-
กินผักและผลไม้ให้ครบทั้ง 5 สี เพื่อได้ประโยชน์ที่หลากหลาย
ผักและผลไม้แต่ละสี มีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการกินผักและผลไม้อย่างเต็มที่ ควรเลือกกินให้หลากหลายครบทั้ง 5 สี โดยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนการกินไปเรื่อยๆ
- ผักสีเขียว มีสารคลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) โดยเฉพาะผักใบเขียว ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านโรคมะเร็ง มีแร่ธาตุและวิตามิน ไฟเบอร์สูงทำให้การขับถ่ายดี เช่น จิงจูฉ่าย ผักเคล ผักโขม ต้นอ่อนทานตะวัน
- ผัก-ผลไม้สีเหลือง มีสารลูทีน (Lutein) พบในผักผลไม้ที่มีสีเหลือง เช่น ข้าวโพด ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกิดขึ้นกับจอประสาทตา ส่วนผัก-ผลไม้ สีเหลืองส้มและส้มแดง มีสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ได้แก่ แครอท ฟักทอง ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ลดการเกิดอนุมูลอิสระ บำรุงสายตาและจอประสาทตา
- ผัก-ผลไม้ สีแดง มีสารไลโคปีน (Lycopene) เช่น มะเขือเทศ แตงโม ข้าวโพดทับทิมสยาม ไลโคปีนนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิต้านทาน ชะลอวัย เสริมให้เซลล์ในร่างกายแข็งแรง
- ผัก-ผลไม้ สีม่วงแดงและสีม่วงน้ำเงิน มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) เช่น องุ่น กะหล่ำปลีสีม่วง บีทรูท ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตัน
- ผัก-ผลไม้สีขาว มีสารอัลลิซิน (Allicin) เช่น หอมหัวใหญ่ กระเทียม หัวไชเท้าและลูกเดือย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจ
-
เลือกกินอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบปลอดสารพิษที่สดใหม่ตามฤดูกาล
วัตถุดิบปลอดสารพิษนั้นดีต่อสุขภาพ เพราะปราศจากสารเคมีและสารตกค้างต่างๆ ในกระบวนการผลิตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และธัญพืช โดยเฉพาะวัตถุดิบที่สดใหม่ตามฤดูกาลที่ทั้งอร่อยและคงคุณค่าของวิตามิน เกลือแร่เอาไว้แบบครบถ้วน แถมยังอร่อยมากกว่าด้วยรสชาติที่สดใหม่ และควรเน้นการกินอาหารครบทุกหมวดหมู่อย่างมีสมดุล
-
เลือกกินอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง แทนการทอด
ลดการกินอาหารจานทอดที่ใช้น้ำมันปริมาณมากลง เปลี่ยนมาปรุงอาหารด้วยการต้ม อบ นึ่ง และย่าง จะช่วยลดการสะสมของไขมันไม่ดีในร่างกาย อาหารประเภทต้ม อบ นึ่ง ย่าง ก็สามารถปรุงให้มีรสอร่อยได้เช่นกัน
-
เลือกดื่มน้ำผักผลไม้สกัดเย็น เพิ่มวิตามิน เกลือแร่ และความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
บางครั้งการจะทานผักผลไม้ให้ได้คุณค่าแบบครบถ้วนอาจไม่ง่ายนัก เพราะผักผลไม้มักสูญเสียวิตามินไปบ้างในระหว่างการปรุงด้วยความร้อน แต่เครื่องดื่มรูปแบบการสกัดเย็นนั้น เป็นการคั้นคุณค่าจากผลไม้โดยตรงให้คงอยู่และดื่มได้ง่ายขึ้น ยิ่งหากมีการมิกซ์แอนด์แมตช์รสชาติได้ลงตัวก็ยิ่งเพิ่มความอร่อย สดชื่น ในขณะดื่มอีกด้วย
ทั้ง 5 ข้อ ที่กล่าวมานี้ สาวๆ สามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้านในทุกวัน แต่ไม่มีเวลาในการไปเลือกซื้อวัตถุดิบหรือปรุงอาหารด้วยตนเองมากนัก ลองมองหาอีกทางเลือกที่น่าสนใจอย่าง การไปลิ้มชิมรสอาหารจากร้านสุขภาพที่มั่นใจได้ในเรื่องของความอร่อย กินได้ทุกวันไม่มีเบื่อ มีหลากหลายเมนูให้เลือก ยิ่งเป็นร้านที่มีพิกัดที่เดินทางได้สะดวกง่ายดาย ยิ่งตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี อย่างที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 มีร้านฌานา ร้านเพื่อสุขภาพน้องใหม่กับหลากเมนูให้เลือก ใครสะดวกวิธีไหนก็ลองมุ่งมั่นตั้งใจกันดู เพื่อผลลัพธ์ “สุขภาพดี” ที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณและคนที่คุณรักนะคะ