ทั้ง ออกกำลังกาย ทั้ง ไดเอท ทำไมน้ำหนักไม่ลด? อาจเป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้ก็ได้!

ทั้ง ออกกำลังกาย ทั้ง ไดเอท ทำไมน้ำหนักไม่ลด? อาจเป็นเพราะเหตุผลเหล่านี้ก็ได้!

account_circle

ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังคร่ำเคร่งกับการ ออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร เพื่อเตรียมหุ่นสวยให้ทันวันวิวาห์ แน่นอนว่าต้องคาดหวังให้ตัวเลขบนตราชั่งขยับเขยื้อนลงให้เป็นกำลังใจบ้าง แต่ทว่าทำม๊ายย ทำไม ทุกครั้งที่ขึ้นชั่งน้ำหนักที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าลุ้นผลสลากกินแบ่ง กลับกลายเป็นว่าน้ำหนักแทบไม่ลดลงเลย? เราทำอะไรผิดไป?  หรือจะเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้หรือเปล่าที่ทำให้น้ำหนักเราไม่ลด แม้จะออกกำลังกายหรือคุมอาหารมากแค่ไหนก็ตาม สาเหตุอะไรบ้าง? มาดูกัน

ออกกำลังกาย

1. คุณยังออกกำลังกายและคุมอาหารไม่นานพอ

เหตุผลที่ง่ายแสนง่าย เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่คาดหวังผลลัพธ์ที่เร็วเกินไป ทุกครั้งที่ออกกำลังกายเสร็จก็จะรีบขึ้นชั่งน้ำหนักเพื่อคาดหวังให้ตัวเลขบนตราชั่งลดลงเร็วๆ ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้นร่างกายต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 เดือน หรือสำหรับบางคน 5-6 เดือน เพื่อที่จะให้เห็นผลจากการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งเป็นกังวลมากไปในระยะเวลาอันสั้นๆค่ะ

2. คุณลืมไปว่ากล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน

ฟิตเนสเทรนเนอร์ หรือฟิตเนสไอดอลหลายคนที่หุ่นเฟิร์มสวยเป๊ะ กลับมีน้ำหนักตัวที่มากกว่าที่เราคิด เพราะความเป็นจริงนั้นคือกล้ามเนื้อมีความหนาแน่นมากกว่าไขมัน และกล้ามเนื้อที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นมีผลกับน้ำหนักตัวด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากเราเริ่มรู้สึกว่าใส่กางเกงแล้วสบายตัวขึ้น รูปร่างกระชับขึ้น แต่ตัวเลขน้ำหนักไม่ค่อยลดลงก็อย่ากังวลใจไป หรือถ้าอยากรู้ให้ชัวร์ ลองชั่งน้ำหนักจากเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีฟังค์ชั่นการวัดเปอร์เซ็นกล้ามเนื้อและไขมันในร่างกายดูค่ะออกกำลังกาย

3. คุณคาร์ดิโอไม่เพียงพอ

เพราะว่าที่เจ้าสาวหลายคนเอาแต่เวทเทรนนิ่ง เพราะอยากมีกล้ามเล็กๆ ลีนสวยเหมือนเหล่านางแบบวิคตอเรีย ซีเครต แต่คุณๆอย่าลืมนะ เวทเทรนนิ่งนั้นต้องทำควบคู่กับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือการออกกำลังกายที่เน้นจังหวะการเต้นของหัวใจ เพราะการคาร์อิโอนั้นจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน หากคุณจดจ่ออยู่กับการเวทเทรนนิ่งโดยไม่คาร์ดิโอ เป็นไปได้ว่าน้ำหนักของคุณจะลดลงช้ากว่าปกติค่ะ

4. คุณทานน้อยเกินไป!

เมื่อเรารับประทานอาหารน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการพลังงานต่อวัน แทนที่จะเป็นผลดีกลับกลายเป็นผลเสียค่ะ!  เพราะร่างกายของเราจะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน คล้ายๆโหมดจำศีลของสัตว์ ร่างกายจะกักเก็ยสารอาหารและไขมันที่เราทานเข้าไปเอาไว้ โดยไม่ยอมดึงออกมาใช้ หรือดึงออกมาใช้ให้น้อยที่สุด ยิ่งถ้าเราออกกำลังกายหนัก และทานน้อย ร่างกายของเราก็จะยิ่งไม่ยอมเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน ทำให้นอกจากน้ำหนักเราจะไม่ลง ร่างกายเราจะยิ่งเหนื่อยและอ่อนแอด้วยค่ะ ไม่แนะนำสุดๆออกกำลังกาย

5. คุณเครียดและพักผ่อนน้อย

เหตุผลคล้ายกับข้อข้างบน เพราะเมื่อร่างกายของเราเครียดหรือพักผ่อนน้อย สมองจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกหิว กระตุ้นให้เรากินมากขึ้นจนอ้วนไม่รู้ตัวได้ นอกจากนั้นการพักผ่อนไม่เพียงพอยังทำให้ระบบเผาผลาญลดลง มีส่วนทำให้น้ำหนักของเราลดช้าลงด้วยค่ะ

6. คุณมีความผิดปกติทางร่างกายหรือเปล่า?

ถ้าหากทั้ง 5 ข้อที่ผ่านมา คุณแน่ใจมากๆว่าไม่ได้เข้าข่ายข้อใด และหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ เช่น รู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรงช่วงแขนและขา เหนื่อยง่าย เหงื่อออกมาก ท้องผูก อารมณ์แปรปรวน นอนหลับยาก ขี้หนาวผิดปกติ ผมร่วง เราแนะนำให้คุณไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นข้อบ่งชี้ของอาการต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ Hypothyroidism ซึ่งกระทบกับระบบการเผาผลาญ ทำให้เราอ้วนง่ายแม้จะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารเป็นอย่างดีค่ะ (แต่ทั้งนี้อย่าเพิ่งรีบตื่นตระหนก! เราแนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซด์ทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ร่วมด้วยนะคะ)

สรุปแล้ว เหล่าว่าที่เจ้าสาวที่กำลังตั้งใจฟิตเฟิร์มหุ่นก่อนวันแต่งงาน อย่าเพิ่งเครียดและจริงจังจนเกินไปนะคะ ตัวเลขบนตราชั่งไม่ใช่ตัววัดเสมอไปว่าเราสุขภาพดีขึ้นหรือหุ่นฟิตเฟิร์มขึ้นจริงหรือไม่ ลองหาวิธีอื่นๆที่ช่วยวัดผลมาเป็นตัวช่วย และจงมีวินัยกับการออกกำลังกายอย่างถูกต้องต่อไปเรื่อยๆนะคะ

หากชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา ลองคลิกอ่าน ทิปส์การเลือกทานอาหารเพื่อลดน้ำหนักให้หุ่นลีนทันวันวิวาห์ ที่นี่เลยค่ะ

credit photo: livestrong.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up