7 ท่า โยคะ คลายเครียดช่วยปรับบุคลิกสำหรับเจ้าสาวโดยเฉพาะ

7 ท่าโยคะคลายเครียดช่วยปรับบุคลิกสำหรับเจ้าสาวโดยเฉพาะ

account_circle

ปรับบุคลิกให้สวยสง่าในวันแต่งงาน ด้วย 7 ท่า โยคะ ที่เราคัดมาให้สำหรับว่าที่เจ้าสาวโดยเฉพาะ ทำเองที่บ้านก็ได้ง่ายจัง

โยคะ ถือเป็น การบริหารร่างกายสุดฮิตของสาวๆยุคนี้เลยว่ามั้ยคะ เพราะนอกจากจะไม่เหนื่อยมาก (เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายแบบอื่นๆ) ยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายได้แบบองค์รวมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการปรับบุคลิกท่าทาง แก้อาการปวดเมื่อย หรือแม้กระทั่งบริหารระบบภายในร่างกายหรือปรับสมดุลอารมณ์ก็ยังได้ เราเล็งเห็นว่าโยคะน่าจะให้ประโยชน์กับเหล่าว่าที่เจ้าสาวมากมายเลยทีเดียว ก็เลยรวบรวมเอา 7 ท่า โยคะที่เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวมาให้ฝึกปฏิบัติกันค่ะ ซึ่งท่าโยคะเหล่านี้จะเน้นช่วยเรื่องการผ่อนคลาย ปรับสมดุลอารมณ์ ประบสมดุลระบบขับถ่ายให้พุงยุบ และช่วยปรับท่าทางให้ดูสง่าผ่าเผยสมเจ้าสาว มาเริ่มฝึกกันเลยค่ะ!

1. Butterfly Pose (ท่าผีเสื้อ)

ประโยชน์: ช่วยเปิดข้อต่อสะโพก ลดความปวดเมื่อยของเจ้าสาวพิธีไทยที่ต้องนั่งพับเพียบนานๆ

เริ่มด้วยท่านั่งขัดสมาธิ นั่งตัวตรงไม่โก่งหลัง เอาฝ่าเท้าทั้งสองด้านมาชนกันโดยใช้มือรวบเท้าทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน จากนั้นให้ค่อยๆดึงข้อเท้าให้เข้ามาใกล้ตัวมากที่สุดจนรู้สึกตึง แล้วค่อยพยายามกดหัวเข่าให้ใกล้กับพื้นมากที่สุด ค้างไว้ 30-45 วินาที

Butterfly Pose

2. Pigeon Pose (ท่านกพิราบ)

ประโยชน์: เหมือนกับท่า Butterfly Pose ในข้อแรก แต่โฟกัสกล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกส่วนที่ลึกขึ้น

นั่งตัวตรงโดยที่ขาด้านซ้ายเหยียดตรงชี้ไปข้างหลัง ส่วนขาด้านขวาพับหัวเข่าดึงส้นเท้าเข้าหาตัวโดยให้หัวเข่าชี้ออกประมาณ 45 องศาจากตัว สะโพกทั้งสองข้างขนานพื้นเท่าๆกัน อย่าให้สะโพกด้านใดด้านหนึ่งติดพื้นหรือลอยขึ้นเหนือพื้นมากกว่าอีกด้าน พยายามกดสะโพกข้างซ้ายให้ใกล้พื้นมากที่สุด จากนั้นค่อยๆ เลื่อนเท้าให้ออกห่างจากตัวทีละน้อยๆ โดยที่หัวเข่ายังทำมุมเดิม จนกระทั่งรู้สึกตึง ค้างไว้ 1 นาที แล้วสลับข้าง หากอยากยืดมากขึ้นกว่าเดิม พับตัวลงมาเหยียดแขนออกเหมือนการนอนคว่ำหน้า ให้หน้าผากใกล้พื้นมากที่สุดหรือจรดพื้น

Pigeon Pose

3. Warrior II Pose (ท่านักรบที่ 2)

ประโยชน์: สร้างความแข็งแรงให้ขาและส่วนกลางลำตัว ลดความปวดเมื่อยของเจ้าสาวที่ต้องยืนนานๆ

ยืนตรง เหยียดขาข้างหนึ่งออกไปด้านหลังโดยให้ฝ่าเท้าทำมุม 90 องศากับลำตัว ย่อเข่าข้างที่อยู่ด้านหน้าให้หน้าขาขนานกับพื้นให้มากที่สุด กางแขนออกทั้งสองข้างโดยให้แขนข้างที่ชี้มาด้านหน้าเป็นข้างเดียวกับขาที่อยู่ด้านหน้า  เปิดลำตัวขนานกับสะโพก ค้างไว้ 30-45 วินาที สลับข้าง

4. Downward-Facing Dog (ท่าสุนัขยืดลง)

ประโยชน์: กระตุ้นการไหลเวียนเลือดสู่ศรีษะให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง สร้างความแข็งแรงให้ช่วงแขน ช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น

เริ่มจากท่า all four หรือนั่งคุกเข่ามือทั้งสองข้างยันพื้น แล้วค่อยๆ ดึงเท้าทั้งสองข้างออกไปด้านหลังจนขาตรง ส่งก้นและสะโพกขึ้นให้สูงที่สุด พยายามดึงส้นเท้าให้ติดพื้นมากที่สุดโดยที่ขาทั้งสองข้างเหยียดตรงตลอดเวลา แขนเหยียดตรงมือกางนิ้วทั้งห้าห่างจากกัน กดโคนนิ้วชี้ทั้งสองข้างให้แน่นเพื่อช่วยพยุงตัว  พยายามดันศีรษะไปด้านหลังให้ไหล่อยู่ใกล้หูมากที่สุด สายตามองลอดหว่างขา ค้างไว้ 30-45 วินาที โดยตอนแรกที่เข้าท่าสามารถย่อเข่าสลับซ้ายขวาเบาๆ 2-3 ครั้งเพื่อยืดเส้นให้เราสามารถค้างท่าได้นานขึ้น

5. Child’s Pose (ท่าเด็ก)

ประโยชน์: ช่วยยืดหลังแก้อาการหลังค่อม และยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

นั่งพับเพียบทับส้นเท้า แล้วพับตัวลงเหมือนการนอนคว่ำหน้า เหยียดแขนทั้งสองข้างออกมาด้านหน้า โดยที่ก้นกับส้นเท้าต้องติดกัน สูดหายใจข้า และออกลึกๆ ยาวๆ โดยทุกครั้งที่หายใจออก พยายามยืดหลังให้ได้มากขึ้นโดยที่ก้นกับส้นเท้ายังคงติดกัน ค้างไว้ 1-2 นาที

Child Pose

6. Camel Pose (ท่าอูฐ)

ประโยชน์: เปิดไหล่ เปิดหน้าอก แก้อาการไหล่ห่อ หลังห่อ และแก้อาการปวดหลังจากการยืนหรือนั่งนานๆ

นั่งบนเข่าทั้งสองข้าง แยกหัวเข่าออกจากกันให้เท่าความกว้างของสะโพกให้หัวแม่เท้าจิกพื้นไว้ นำมือทั้งสองข้างรองหลังช่วงล่าง หายใจเข้า เกร็งหน้าท้อง แล้วค่อยๆ ดันหน้าท้องมาด้านหน้าพร้อมๆกับแอ่นลำตัวและหัวไหล่มาด้านหลัง ***ถ้ารู้สึกตึงแล้วแค่ช่วงนี้ให้ค้างไว้ที่เท่านี้**** แต่ถ้าไปต่อได้ แอ่นหน้าท้องมาด้านหน้าเพิ่มเติม ตลอดเวลานี้พยายามเกร็งต้นขาและหน้าท้องไว้ ค่อยๆ ปล่อยมือทั้งสองข้างจากหลังช่วงล่างมาจับที่ส้นเท้า สูดหายใจเข้า สูดหายใจออกแล้วค่อยๆ ทิ้งศรีษะลงมาด้านหลัง ค้างไว้ 30-45 วินาที

7. Forward Fold (ท่ายืดก้มตัว)

ประโยชน์: กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย แก้อาการนอนไม่หลับหรือปวดหัวเรื้อรัง

ยืนตัวตรง เท้าห่างกันเล็กน้อย ค่อยๆ พับตัวลงสู่ด้านล่างโดยพับจากข้อสะโพก ดันก้นไปด้านหลังได้เล็กน้อย ทิ้งศีรษะและคอให้สบายๆ ก้มตัวลงให้มากที่สุด ถ้าจับข้อเท้าได้ให้จับข้อเท้า แต่ถ้าจับไม่ถึง ให้จับที่น่องแทน แล้วดึงลำตัวให้ชิดขา

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลัง ให้เริ่มเข้าท่านี้โดยย่อเข่าลงจนเราสามารถจับถึงข้อเท้าได้โดยไม่ต้องโก่งหลังลง ลำตัวชิดหน้าขาไว้ หายใจเข้า หายใจออก แล้วยืดขาให้ตรงมากที่สุดโดยที่ไม่ปล่อยมือจากข้อเท้า ค้างไว้ 30-45 วินาที

Forward Fold

เป็นยังไงบ้างคะท่า โยคะ สำหรับเจ้าสาวเพื่อสุขภาพแข็งแรงและปรับบุคลิกให้ดูสวยสง่าในวันแต่งงาน เราแนะนำให้หาคลิปประกอบการทำท่าโดยผู้เชี่ยวชาญประกอบไปด้วยเพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการที่เราทำท่าไม่ถูกต้องนะคะ

ชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา? คลิกอ่าน วิธีการ ออกกำลังกาย ที่บ้านด้วยตนเอง แต่ได้ผลเหมือนไปฟิตเนส!

credit story: bridesloveyoga.com , bridalguide.com 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up