How to 5 ปีไม่เคยทะเลาะกันเลย ของ พอล – ภัทรพล และ ฟอว์น – ไปยดา

account_circle

วันพรุ่งนี้เป็นวัน 11 : 11 ไม่ใช่แค่เพียงเป็นวันเลขสวยอย่างเดียว แต่ยังเป็นวันสำคัญของคู่รัก อดีตพระเอก พอล – ภัทรพล และคนรักนอกวงการ ฟอว์น – ไปยดา วันนี้เราจึงขอพาคู่รักว่าที่บ่าวสาวมาเปิดใจถึงรัก 5 ปี ที่ทั้งคู่บอกว่าไม่เคยทะเลาะกันเลย

แรกพบสบรัก
พอล : เราเจอกันตามงานอีเวนท์ครับ
ฟอว์น : แต่เราไม่เคยคุยกันนะคะ จะเป็นมองเห็นจากที่ไกล
พอล : พี่ฟอว์นก็แอบส่องพี่มาตลอด (หัวเราะ) พี่ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้น่ารัก ยิ้มแย้ม สดใส ก็เลยไปถามเพื่อนว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไง เพื่อนก็บอกว่าเป็นคนดีนะ เป็นคนดีเลยละ เก่ง ฉลาด หลังจากนั้นก็พี่ก็ไปส่องเฟซบุ๊กเขา ส่องอยู่ 2-3 ปีเลย เพราะว่าตอนนั้นพี่ฟอว์นเขามีแฟนอยู่แล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ส่อง ดูจากโพสต์ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนมีทัศนคติที่ดี เขาไม่เคยโพสต์อะไรแย่ๆ วันหนึ่งก็ได้ทราบข่าวว่าเขาเลิกกับแฟนแล้ว (หัวเราะเขินเบาๆ ด้วยนะ) แต่ก็ไม่ได้คุยกัน จนกระทั่งมีข้ออ้าง เพราะเราไปเห็นเขาโพสต์รูปถือหนังสือธรรมมะโมเดิร์น ก็คิดว่าเขาต้องเป็นคนดีมากๆ แน่เลย จิตใจดีเนอะ ฝักใฝ่ธรรมมะ สวยด้วย ใจดีด้วย ก็เลยส่งข้อความไปหาเขา ถามเขาว่าหนังสือเล่มนี้ดีไหม นี่ คือครั้งแรกที่ได้คุยกัน เขาก็ตอบกลับมาว่ายังอ่านไม่จบเลย
ฟอว์น : ก็เป็นการถ่ายรูปหนังสือที่อีเวนท์ค่ะ
พอล : แต่นั่นแหละก็เป็นจุดเริ่มต้น ให้เราคุยกัน ก็เริ่มจีบเขาทางข้อความ (ตอบติดขัดนิดๆ ตามแบบฉบับหนุ่มขี้อายด้วยนะ)

แผนพิชิตใจ
ฟอว์น : ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจีบ ก็นึกว่าคุยกันในฐานะเพื่อนรุ่นพี่ มารู้ก็วันที่เขาบอกเลย เพราะก่อนหน้านี้เขาก็จะมาแบบเนียนๆ พิมข้อความคุยเล่น ปรึกษาด้วยว่าชอบแฟนเพื่อนอยู่ เหมือนเราเป็นศิราณีเนอะ แล้ววันนึงพี่พอลก็มาบอกว่าไม่ได้ชอบแฟนเพื่อนหรอก
พอล : ก็เหมือนในละครเลย พี่ก็บอกกับเขาตรงๆ ว่าไม่ได้ชอบแฟนเพื่อนที่ไหนหรอก ก็เขาเนี่ยละ พอพูดแบบนี้เขาก็หยุดไปเลย ไม่มีข้อความตอบกลับ เราก็แบบอ้าว หรือเขาจะไม่ชอบเรา สุดท้ายก็พอเขายอมคุยด้วยต่อก็นัดเขาไปกินข้าว ดูหนัง
ฟอว์น : ที่เงียบไปก็เพราะเขาเป็นดารานั่นแหละ เพราะปกติแล้วถ้าให้เลือกได้ก็ไม่ชอบคนที่คนรู้จักเยอะๆ เพราะเราเป็นคนสบายๆ ขอแค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอแล้ว แต่พอมาเจอพี่พอลแล้วจริงๆ เขาก็ไม่เหมือนดาราเลย เป็นคนสัมผัสได้ ง่ายๆ ธรรมดา เข้าถึงได้ ไม่ปาร์ตี้จ๋า เขาก็เป็นที่ใช้ชีวิตไปกับการพัฒนาตัวเอง ศึกษาหาความรู้ ฟอว์นอยู่ด้วยแล้วก็สบายใจ

เป็นแฟนกันนะ
ฟอว์น : อื้ออหื้ออ นานมากค่ะ 5-6 ปีที่แล้ว
พอล : ขอนึกก่อน ก็เป็นพี่ที่บอกเขาละว่าเรามาคบกันอย่างเป็นทางการไหม คือตอนช่วงจีบกันเราก็แฟร์ๆ เนอะ ว่าถ้าเขาคุยกับคนอื่นๆ ด้วย เราก็โอเคนะ เพราะว่าเราทั้งคู่ค่อนข้างฝรั่ง แต่พอถึงจุดหนึ่งเราก็คุยกันว่าเราจะมาคุยกันแบบที่ฝรั่งเรียกว่า Exclusive นะ คือไม่คุยกับคนอื่นแล้ว เราคุยกันแต่ 2 คนนะ จากนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นแล้วก็ยาวเลย เป็น Exclusive จริงๆ จนถึงแต่งงานเลย
ฟอว์น : คือฟอว์นตัดสินใจไปแล่ว แล้วก็ตัดสินใจแค่ครั้งเดียว

5 ปีที่ไม่ทะเลาะกัน (คู่รักทั้งหลายเตรียมสมุดปากกามาจดเลยค่ะ)
ฟอว์น : ไม่มีเลย
พอล : เราเหมือนกันมาก ยิ่งคบกันก็ยิ่งเหมือน ทั้งวิธีคิด ความชอบอะไร อีกอย่างเราทั้งคู่อยู่เหนืออารมณ์ ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ปัญหาเดียวเลยนะที่เกิดขึ้นไม่รู้จะกินอะไรดี
ฟอว์น : สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราไม่ทะเลาะกันก็เพราะว่า คุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังเราว่าความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราอยากเอาชนะกันแล้วทำให้เสียความสัมพันธ์มันไม่คุ้ม

รักกัน ทำงานด้วยกันได้จริงๆ นะ
ฟอว์น : ตอนนี้เราทำงานด้วยกัน แต่แบ่งไปตามความถนัด ของพี่พอลก็จะอยู่หน้ากล้อง ส่วนฟอว์นก็จะอยู่หลังกล้อง ดูทุกสิ่งอย่างที่เป็นเบื้องหลัง
พอล : อันนี้พูดถึงที่เราทำเรื่องคอร์สออนไลน์หรือให้ความรู้คนทางโซเชี่ยลมีเดียนะครับ เราช่วยกันคิดหัวข้อ พี่เป็นคนพูด พี่ฟอว์นเป็นคนจัดการ
ฟอว์น : เป็นเพราะเราแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน
พอล :ใช่ ระหว่างการทางทำงานมันต้องมีเรื่องขัดแย้งกันเป็นธรรมดา แต่สำหรับพี่มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็แค่รับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่าย มีเป้าหมายเป็นหลัก
ฟอว์น : แล้วเราต่างเคารพซึ่งกันและกัน ถึงจะความเห็นไม่ตรงกัน แต่ถ้าเราเห็นว่าความคิดเขาดีกว่าของเรา เราก็จะยึดอันที่ดีกว่าเป็นหลัก

Praew Recommend

keyboard_arrow_up