ท้องก่อนแต่ง!!! ปัญหาใหญ่บอกใครก่อนดี?

account_circle

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เรื่องการ “ ท้องก่อนแต่ง ” จะดูเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมโลก แต่ในสังคมไทยเราคงต้องยอมรับว่ายังมีบางครอบครัวที่มองเรื่องนี้ในแง่ลบอยู่  ผู้หญิงหลายคนที่พอรู้ว่าท้อง (ทั้งที่ยังไม่แต่งงาน) ออกอาการเครียด สับสนไม่รู้ว่าควรจะบอกใครก่อนดี ใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้อยู่ ขอให้ตั้งสติแล้วอ่านคำแนะนำต่อไปนี้อย่างตั้งใจค่ะ

สาวๆ ต้องใจเย็น พอรู้ตัวว่า ท้องก่อนแต่ง รีบตั้งสติแล้วแจ้งข่าวกับบุคคลต่อไปนี้

Photo by Andrew Wilus from Pexels

1. บอกพ่อของเจ้าตัวเล็กในท้องก่อน

อย่างแรกที่เราอยากให้ทำหลังจากตั้งสติได้ก็คือ “บอกพ่อเด็ก” ก่อนเลยค่ะ ให้เขารับรู้ว่าเรากำลังมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในตัวของเรา อย่าเพิ่งเป็นกังวลว่าเขาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ เพราะอย่างน้อยเขาก็ควรจะต้องรู้ จากนั้นค่อยมาคิดกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ห้ามจิตตกหรือคิดทำอะไรไม่ดีเด็ดขาด วินาทีนี้คนที่ต้องเข้มแข็งที่สุดคือตัวคุณเอง ท่องไว้เลยว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ

2. รวบรวมความกล้าแล้วบอก “พ่อกับแม่”

เราเชื่อค่ะว่าข้อนี้เป็นข้อที่ทำยากและลำบากใจมากที่สุด หลายคนกลัวถูกด่าว่า กลัวท่านทั้งสองจะรับไม่ได้ กลัวจะต้องทะเลาะกันจนเรื่องบานปลายใหญ่โต หนักที่สุดคือกลัวว่าท่านจะเสียใจ แต่อย่างน้อยก็ขอให้คิดไว้ว่า “ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่อีกแล้ว” และท่านพร้อมจะให้อภัยเราได้เสมอ เพราะฉะนั้นการพูดความจริงกับท่านคือสิ่งที่ดีที่สุด ควรหาเวลาที่เหมาะสม สังเกตดูว่าท่านกำลังอารมณ์ดีและไม่ได้กำลังเครียดเรื่องอื่นอยู่ ลองคลานเข่าเข้าไปหา พร้อมกับมาลัยดอกมะลิสักพวงแล้วจึงค่อยๆ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านฟัง

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มีคุณพ่อดุ ถ้ากลัวว่าท่านจะโกรธรุนแรงแนะนำให้บอกกับแม่ของคุณก่อน เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนเป็นแม่จะใจเย็นและเข้าใจคุณมากที่สุด จากนั้นค่อยคิดปรึกษากันต่อว่าคุณจะเข้าไปบอกคุณพ่อตรงๆ หรือให้คุณแม่ค่อยๆ เกริ่นให้ก่อน จะได้ลดอารมณ์โมโหของคุณพ่อลงได้บ้าง

Photo by Rosie Fraser on Unsplash

3. ระบายให้ “เพื่อนสนิท” ฟังก่อนก็ได้

สำหรับใครที่กลัวและยังไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ แต่ก็รู้สึกอยากหาคนช่วยฟังและให้กำลังใจ “เพื่อนสนิทที่สุด” ย่อมเป็นที่พึ่งและรับฟังปัญหาของคุณได้เสมอ บางคนเพื่อนอยู่ด้วยตั้งแต่ตอนตรวจเลยก็มี แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องเป็นเพื่อนที่คุณมั่นใจว่าเขาจะไม่นำเรื่องของคุณไปพูดลับหลังให้คุณเสียหายด้วยนะ

4. เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน

เป็นอีกหนึ่งกลุ่มคนที่คุณควรจะให้เขารู้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมันจะเกี่ยวเนื่องกับการทำงานของคุณเอง อย่างเช่น ในกรณีงานของคุณค่อนข้างที่จะหนักอยู่แล้ว การบอกหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานจะช่วยแบ่งเบาภาระงานของคุณได้บ้าง หรือเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องลาคลอดเป็นเวลาหลายเดือน หัวหน้าจะได้จัดสรรงานในส่วนของคุณให้กับเพื่อนร่วมงานได้อย่างถูกต้อง งานจะได้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด

ในกรณีที่แย่ที่สุดหากว่าผู้ชายคนนั้นไม่มีความรับผิดชอบมากพอ คุณจะต้องตัดสินใจเป็น “ซิงเกิ้ลมัม” ที่แข็งแกร่งให้ได้ ถ้าคุณอยากจะร้องไห้เสียใจก็สามารถทำได้ค่ะ แต่ “ห้ามทำแท้งเด็ดขาด” (ขีดเส้นใต้ 500 เส้น) ยังไงเสียเขาก็คือลูกของคุณ เกิดจากความรักของคุณ และที่สำคัญเขาไม่มีความผิดใดๆ เลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นขอให้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เข้มแข็ง เรื่องร้ายๆ ก็ทิ้งมันไว้ข้างหลัง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกน้อยและเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเถอะค่ะ

ทั้งหมดนี้ที่เขียนมานี้ก็เพราะว่าอยากจะช่วยแนะนำหนทางการแก้ปัญหาให้กับทุกคน แต่สิ่งสำคัญที่อยากจะย้ำไว้ก็คือ “กันไว้ดีกว่าแก้” เพราะถ้าคุณและคนรักเลือกที่จะรักสนุกก็ควรป้องกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นถุงยางอนามัยสำหรับชายหรือหญิง รวมไปถึงยาคุมกำเนิด เลือกใช้ให้ถูกที่ถูกสถานการณ์ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นทีหลัง

สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแน่นอนว่าก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดา แต่ไม่ว่าจะยังไง “ลูกก็คือลูก” ผิดพลาดพลั้งมาขอว่าอย่าซ้ำเติมเขาเด็ดขาด ต้องให้อภัย เป็นกำลังใจ และช่วยกันหาทางแก้ไขจะดีกว่านะคะ

ภาพ : Unsplash.com

Praew Recommend

keyboard_arrow_up