The Touch of Bridal Fabric จับคู่ให้เหมาะ เนื้อผ้ากับชุดแต่งงาน

account_circle

ชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบต้องประกอบด้วยวัสดุและฝีมือการออกแบบตัดเย็บที่ลงตัวกับเจ้าสาวที่สุด เพราะเนื้อ ผ้าชุดแต่งงาน แต่ละชนิดมีคุณสมบัติ สัมผัส และความรู้สึกที่ต่างกัน ชุดแบบเดียวกันแต่ต่างเนื้อผ้า ก็อาจทำให้อารมณ์ของชุดต่างกัน

เจ้าสาวสมัยนี้นับว่าโชคดีที่มีเนื้อผ้าหลากหลายชนิดให้เลือก แต่เชื่อเถอะว่าส่วนใหญ่ยังสับสน เราจึงขอรวบรวมเนื้อผ้าตัดชุดเจ้าสาวยอดนิยมมาให้ “คุณว่าที่” ได้รู้จักเวลาสั่งตัดชุดจะได้เลือกผ้าให้เหมาะกับสไตล์และรูปร่าง หรือถ้าใช้บริการเวดดิ้งสตูดิโออย่างน้อยก็จะได้เข้าใจเวลาที่ดีไซเนอร์ให้คำแนะนำ

แม้จะมีหลากหลายชนิด แต่หลักๆ แล้วผ้าสำหรับตัดชุดแต่งงานแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. Structured Bridal Fabric เป็นผ้าที่ใช้ตัดเย็บโครงเสื้อหรือกระโปรง และ

2. Soft Bridal Fabric เป็นผ้าที่ใช้เพิ่มอารมณ์พลิ้วไหวโรแมนติกให้ชุดเจ้าสาว แต่ปัจจุบันนี้ชุดเจ้าสาวส่วนใหญ่ตัดเย็บจากผ้าหลายชนิดและไม่มีข้อกำหนดตายตัว บางชุดอาจทำจากผ้าเนื้อนุ่มบางเบาทั้งตัวก็ได้ และในทางกลับกันบางชุดอาจตัดจากผ้าเนื้อหนาทั้งตัว ทั้งนี้เจ้าสาวควรเลือกให้เข้ากับลักษณะพิธีการรสนิยม และสวมใส่สบาย ผ้าที่นิยมใช้ตัดชุดเจ้าสาว อาทิ

ซิลค์ซาติน

นิยมใช้ตัดเป็นชุดแต่งงานมากเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนี้ยังแยกย่อยเป็นดัชเชสซาตินที่มีเนื้อหนาและอยู่ตัว เหมาะกับชุดแต่งงานทุกทรง จะใช้เดี่ยวๆ ก็สวย ตกแต่งลูกไม้ก็เลิศ

ซิลค์ทาฟต้า

เช่นเดียวกับผ้าตระกูลซาตินซิลค์ทาฟต้ามีความสวยหรูและอเนกประสงค์ มีหลายเนื้อ หลายน้ำหนัก บางชนิดอาจเงาเกินไป (ถ่ายรูปยาก) หรือบางชนิดอาจมีเสียงเวลาเดิน เจ้าสาวขี้รำคาญควรหลีกเลี่ยง

ซิลค์ออร์แกนซา

เป็นเนื้อผ้าที่อยู่ตรงกลางระหว่างความหนักของซิลค์ซาตินและความเบาของซิลค์ทาฟต้า จึงเป็นผ้าที่ใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์ทั้งยังดูสะอาดตาร่วมสมัยเมื่อใช้เดี่ยวๆ และดูคลาสสิกเยาว์วัยเมื่อปักลูกปัดหรือปักประดับ แถมยังจับคู่กับผ้าชนิดอื่นๆ หรือผ้าลูกไม้ได้หลายสไตล์

ซิลค์จอร์เจีย

มักใช้จับเดรปช่วงกระโปรง และด้วยเนื้อผ้าที่บางเบาจึงใช้ทำกระโปรงระบายเป็นชั้นๆ หรือกระโปรงบานแบบเรียบที่เน้นโชว์เนื้อผ้าสวยๆ

ซิลค์ชีฟอง

เป็นผ้าเนื้อบางเบา นิยมใช้ทำกระโปรงระบายเป็นชั้น มักใช้ตัดชุดแต่งงานช่วงเย็นมากกว่าช่วงพิธีการ เพราะเป็นผ้าซีทรู

ผ้าลูกไม้

นอกจากจะใช้ตกแต่งเพื่อความงดงามอ่อนหวานแล้ว สมัยนี้ยังนิยมใช้ผ้าลูกไม้ตัดทั้งชุดด้วย ซึ่งลูกไม้อีกชนิดที่กำลังมาแรงคือ Venise Lace เป็นลูกไม้ลอยตัวที่ไม่มีผ้าตาข่ายเป็นพื้นหลัง
พูดถึงเรื่องผ้าสำหรับตัดชุดแต่งงาน ใครจะรู้ลึกรู้จริงเท่าดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์ตรง เราจึงตามไปสัมภาษณ์คุณทิม – พิสิษฐ์ศิริเหมะรัตน์ ดีไซเนอร์มาแรงแห่ง Klärlov

“ผ้าที่นิยมใช้ในการตัดชุดแต่งงานหลักๆ เลยคือ ผ้าซิลค์ซิลค์ทาฟต้า ผ้าลูกไม้ และผ้าทูล แต่นอกเหนือจากนี้เรายังใช้วัสดุคุณภาพอื่นๆ มาเสริมเพื่อให้ชุดมีความพิเศษและแตกต่างด้วย

“สำหรับผ้าไหมอิตาลีนั้นมีคุณสมบัติที่ให้ฟอร์มและสร้างวอลุ่มให้รูปร่างดีขึ้น คือ ช่วยสร้างเชปให้คนที่มีส่วนบกพร่องหรือรูปร่างผอมดูสมส่วนขึ้น ส่วนคนที่มีรูปร่างดีอยู่แล้วจะยิ่งดูเป๊ะ

“ส่วนซิลค์จำพวกชิฟฟอนหรือจอร์เจียมีความทิ้งตัวและพลิ้วไหว ให้ความรู้สึกเป็นเฟมินีน เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีรูปร่างอวบขึ้นไป โดยสามารถใช้เทคนิคการจับเดรปเพื่อช่วยพรางจุดบกพร่องได้

“ที่จริงแล้วผ้าสำหรับทำชุดแต่งงานซึ่งเป็นที่นิยมตลอดกาลและทาง Klärlov ใช้อยู่เสมอคือ อิตาเลียนซิลค์ทาฟต้าหรือซิลค์ออร์แกนซา แต่ที่ผ่านมาเราก็เคยลองใช้พวกซิลค์เครปเนื้อหนาแบบที่แบรนด์ดังๆ อย่าง Lanvin ใช้ ซึ่งชุดที่ออกมามีทรงเสื้อที่ดูเป็นธรรมชาติ สวยงามแบบเบาๆ ลูกค้าก็ชอบกันเยอะครับ”

Made Your Own Wedding Gown

เกาะธีม DIY ด้วยคอร์สสอนตัดชุดแต่งงานแบบช็อร์ตคัตที่ไม่ต้องเสียเวลาเรียนพื้นฐานเยอะแยะเหมือนคนที่จะเรียนตัดเสื้ออาชีพ ประมาณว่าฉันไม่ได้อยากตัดเสื้อเป็นแค่อยากตัดชุดแต่งงานใส่เอง…โอเคป่ะ

BNK Studio Fashion and Design School คอนเฟิร์มว่า คนที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถเนรมิตชุดแต่งงานใส่เองได้ภายในคอร์ส 8 ครั้ง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะหนุ่มโย่ง – อนุสรณ์ มณีเทศ ก็เคยตัดให้สาวก้อย – วลัยลักษณ์ มุสิกโปฎก สำเร็จอย่างสวยงามมาแล้ว ขอแค่มีเวลา (ก่อนวันแต่งประมาณ 3 เดือน) + ความพยายาม + กำลังทรัพย์ (ไม่แพงอย่างที่คิด) ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย!

• เตรียมชุดแบบที่ชอบมา บางคนอาจชอบทรงกระโปรงของชุดนั้น แต่ชอบคอเสื้อของชุดนี้ แล้วชอบที่คาดเอวของอีกชุด…ขนมาให้หมด! อาจารย์จะช่วยดู ปรับประยุกต์สิ่งที่ชอบทั้งหมดมารวมกัน พร้อมลดทอนบางอย่างที่ไม่เหมาะกับเราออก

• วาดแบบ

• ไปซื้อวัสดุที่ต้องใช้ โดยทางโรงเรียนจะแนะนำร้านที่ขายของดีราคาสมเหตุสมผลให้

• ลงมือทำ โดยเริ่มจากทำแพตเทิร์นกระดาษ จากนั้นลงมือตัดกับผ้าดิบก่อน(เพราะผ้าตัดชุดแต่งงานของจริงแพงมากจ้า) ลองกับหุ่น แล้วแก้แพตเทิร์นอีกครั้ง ก่อนลงมือตัดจริง จบท้ายด้วยการตกแต่ง เช่น ติดลูกไม้ ปักคริสตัล ฯลฯ

นอกจากนี้ ทางอาจารย์ผู้สอนยังแนะนำมือใหม่หัดตัดว่า แบบเกาะอกกระโปรงสุ่มสไตล์เจ้าหญิงตัดเย็บง่ายสุด แม้จะยากที่แพตเทิร์น แต่ก็มีครูช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดเนื้อผ้าที่ตัดง่ายและออกมาสวยคือ ผ้าเครปและไหมอิตาลีซึ่งมีหลายเนื้อ หลายราคาส่วนผ้าลูกไม้หรือผ้าเนื้อโปร่ง แนะนำให้ใช้ตกแต่งมากกว่าจะใช้ตัดทั้งตัว เพราะต้องมีฝีมือการตัดเย็บขั้นเทพ งานถึงจะออกมาสวยเนี้ยบ

ขอบคุณ

  • ข้อมูลและชุดแต่งงานจาก Klärlov สุขุมวิท 54 โทร.08-6195-6669
  • ข้อมูลบางส่วนจาก www.dcwed.com และ www.sheknows.com
  • ผ้าที่ใช้ประกอบคอลัมน์ทั้งหมดจากร้านคันธี พาหุรัด โทร.0-2225-5997 www.gandhi.co.th
  • อาจารย์ศรันย์ จันทร์แก้ว และธันยพร มัจฉาธิคุณ BNK Studio Fashion and Design School โทร.08-1934-9283

Praew Recommend

keyboard_arrow_up