วิทิตนันท์ โรจนพานิช

วิทิตนันท์ โรจนพานิช นักปีนเขาชื่อดัง…”ใจ” ดวงนี้พลีเพื่อ “พ่อ”

วิทิตนันท์ โรจนพานิช
วิทิตนันท์ โรจนพานิช

วิทิตนันท์ โรจนพานิช กับครั้งหนึ่งที่ยอมมอบชีวิตเพื่อ “พ่อ”

วิทิตนันท์ โรจนพานิช คือนักปีนเขาที่หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง ถอยกลับไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ผู้ชายธรรมดาๆ คนนี้ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งความจงรักภักดีด้วยการปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นภูเขาสูงที่สุดในโลกของทวีปเอเชีย เพื่อแสดงถึงความรักและศรัทธาที่เขามีต่อ “ในหลวง” พร้อมกับหลั่งน้ำตาแห่งความปีติที่สามารถทําภารกิจสุดโหดท้าทายความอึดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทําได้

วิทิตนันท์ โรจนพานิช ชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงเหนือศีรษะ หลังปีนยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ
ภาพนี้เมื่อครั้งปีนยอดเขาเอเวอเรสต์เมื่อ 9 ปีก่อน

เหมือนที่เขาบอกเราว่า “ชีวิตผมทําอะไรก็ได้ที่อยากทํา เผอิญสิ่งที่ผมทํามันยาก และต้องแลกมาด้วยชีวิต นั่นย่อมหมายความว่า ผมได้มอบชีวิตถวายแด่พระองค์ท่านแล้ว”

คุณหนึ่งจึงอยากสร้างประจักษ์พยานอีกสิ่งหนึ่งที่ทําให้คนเห็นว่า เขารักพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มากขนาดไหน และพระองค์ท่านทรงเป็นแรงบันดาลใจ สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนทํางานวงการบันเทิงที่ไม่เคยปีนภูเขาเลยให้สามารถปีนยอดเขาสูงที่สุดในโลกได้ เพราะฉะนั้นพระเจ้าอยู่หัวคือฮีโร่สําหรับเขา ที่สามารถทําให้เป็นอย่างนี้ได้โดยเริ่มจากการตัดสินใจก้าวข้ามความกลัวที่สร้างขึ้นมาเอง และเขาแสดงให้ทุกคนเห็นว่าได้ข้ามไปแล้ว และยังมีสิ่งอื่นๆ ที่ต้องก้าวข้ามไปเรื่อยๆ

วิทิตนันท์ โรจนพานิช ชูพระบรมฉายาลักษณ์ที่ยอดเขาคาร์สเทนซ์พีระมิด
ชูพระบรมฉายาลักษณ์ที่ยอดเขาคาร์สเทนซ์พีระมิด ยอดเขาสูงที่สุดของทวีปออสเตรเลีย

“ผมต้องการบอกให้ทุกคนรู้ว่า พระมหากรุณาธิคุณและความรักที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ ได้ปกแผ่ไพศาลไปทั่วทั้ง 7 ทวีป เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหน มักเจอคนไทยอยู่ทั่ว ทุกคนรักในหลวงเหมือนกัน”

ชูพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนยอดเขาวินสันแมสซิฟ
บนยอดเขาวินสันแมสซิฟ ที่ความสูง 4,000 กว่าเมตร

คุณหนึ่งยังเล่าถึงความรู้สึกของการปีนเขาแต่ละลูกได้เป็นผลสําเร็จว่า “การปีนเขาแต่ละแห่งยากมาก แต่ทุกครั้งที่ทําสําเร็จ ผมรู้สึกรักพระองค์ท่านมาก ที่ปีนเขาทุกลูกแล้วร้องไห้ เพราะเป็นความปีติ รู้สึกตื้นตัน เพราะสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทําเพื่อพสกนิกรยากกว่าสิ่งที่ผมทํามากมายนัก ถ้าผมปีนเขาพลาด ผมตายคนเดียว แต่ถ้าท่านพลาด หมายถึงพสกนิกรทั้งประเทศ เพราะฉะนั้นเดิมพันใหญ่มาก แต่ท่านไม่เคยทรงทําพลาดเลย ทั้งที่ไม่ต้องทรงทําขนาดนี้ก็ได้ ทําให้ผมรู้สึกว่าเราโชคดีแค่ไหนที่มีพระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรมและรักเรามากขนาดนี้

“ถามว่าทําไมผมถึงรักและศรัทธาในสิ่งที่พระองค์ทรงทํา เพราะผมไปเห็นด้วยตามาแล้ว ตั้งแต่เด็กผมถูกสอนมาว่าให้รักในหลวงเหมือนทุกคนนั่นแหละ บ้านผมอยู่ริมถนนลาดพร้าว เวลามีตํารวจมายืนเป็นจุดๆ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมาก นั่งกับคุณทวด คุณย่า ยืนรอดูขบวนเสด็จ 3 ชั่วโมง ไม่กล้าเข้าไปดื่มน้ำที่บ้าน กลัวกลับมาไม่ทัน แค่ได้เห็นพระองค์ท่านเสี้ยววินาที รู้สึกดีจังเลย พอโตเป็นนักศึกษา ผมถามตัวเองว่า สิ่งที่พระองค์ทรงทําคือการสร้างภาพหรือเปล่า ที่ทรงทํานั้นจริงไหม

ชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนยอดเขาอากอนกากวา
ภาพนี้ที่ยอดเขาอากอนกากวา สูงที่สุดในทวีปอเมริกาใต้

“กระทั่งมีโอกาสเข้าไปในวังสวนจิตรลดากับพี่ชาย ในใจนึกเทียบกับพระราชวังต่างๆ ในยุโรปที่เราเคยเห็น ใหญ่โตโอฬาร เต็มไปด้วยทอง พอมาวังสวนจิตรลดา ทําไมมีแต่ทุ่งนา ตึกเก่าๆ มีเครื่องยนต์กลไกเต็มไปหมด ถามพี่ชายว่าทําไมเป็นแบบนี้ ไม่มีทองเลย วัดต่างจังหวัดยังสวยกว่าอีก ทําให้ผมเริ่มคิดตรวจสอบ ไตร่ตรองตามหลักโยนิโสมนสิการ

“จากนั้นผมตามไปดูโครงการชัยพัฒนา โครงการในพระราชดําริต่างๆ คุยกับชาวบ้านตามต่างจังหวัด เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พวกชาวเขาเผ่าอีก้อและแม้วที่เลิกทําฝิ่น หันมาปลูกผักเมืองหนาว ตอนนั้นเขามีรายได้เดือนละหมื่นนะครับ ทุกวันนี้รายได้เป็นแสน ทํางานมีความสุขอยู่บนภูเขา สิ่งเดียวที่เขาบอกคือ เพราะในหลวงบอกให้ทําอย่างนี้ เขาเชื่อในหลวง และคําว่า ‘เศรษฐกิจพอเพียง’ มีมานานแล้ว พระองค์ท่านทรงสอนคนให้รู้จักเพียงพอก่อน คนเราถ้ารู้จักพอแล้ว จิตจะนิ่ง ไม่รุ่มร้อน ทําทุกอย่างด้วยความมีคุณธรรมและด้วยใจบริสุทธิ์ ปลอดโปร่ง เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะมาเอง

ชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนยอดเขาคิลิมันจาโร
ส่วนภาพนี้ที่ยอดเขาคิลิมันจาโร ยอดเขาสูงที่สุดของทวีปแอฟริกา
ชูพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 บนยอดเขาเอลบรุส
ต่อให้เหนื่อยยากสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน แต่เมื่อสามารถปีนถึงยอดเขาเอลบรุส ยอดเขาสูงที่สุดของทวีปยุโรป ที่ความสูงกว่า 5,000 เมตรได้สําเร็จ รอยยิ้มทั้งน้ำตากับการชูพระบรมฉายาลักษณ์ “ในหลวง” จึงเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถแสดงออกถึงพลังศรัทธาและความจงรักภักดีที่เขามี

“การไปเห็นด้วยตานี่แหละ ที่ทําให้ผมรักและศรัทธาต่อแนวทางที่พระองค์ท่านทรงทํา และทรงสอนคนไทยมาตลอด 60 กว่าปี โดยไม่เคยทรงละทิ้งพวกเราเลย ความรักของพระองค์ท่านยิ่งใหญ่มาก”

เรื่อง : แพรวดอทคอม

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up