ถือเป็นอีกคู่กระแสแรง สำหรับ แอลม่อน-ภูมิสุวรรณ สุวรรณสถิตย์ และ โปรเกรส-ภาสวิชญ์ ธรรมสังคีติ 2 นักแสดงจาก Lovesick 2024 ตำนานซีรีส์ขึ้นหิ้งของวงการวาย ที่กลับมาเรียกความฟินอีกครั้งในรอบ 10 ปี
เตรียมตัวอย่างไรบ้างคะกับผลงานซีรีส์เรื่องแรก
โปเกส : ตอนแรกผมทั้งไม่มั่นใจทั้งกังวลว่าจะทำได้หรือเปล่า แต่โชคดีที่ทางการมีเวิร์คช็อป พอเราได้มีประสบการณ์เบื้องต้น จึงเริ่มมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง นอกจากนี้คือพยายามทำการบ้านเกี่ยวกับบทให้เยอะๆ เพื่อไม่ให้ตายในซีน ผมกลัวมากว่าถ้าเราจำบท คนอื่นจะเสียเวลาเพราะผม
แอลม่อน : สำหรับผมการแสดงครั้งแรกไม่ง่าย ไม่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญสุดคือต้องมีวินัย เพราะการจะเป็นนักแสดงคือต้องตื่นเช้า จำบท เข้าใจตัวละคร เข้าใจซีน เข้าใจสถานะการณ์นั้นๆ เริ่มแรกเลยผมกลับไปดู LOVE SICK ปุณณ์โน่เวอร์ชั่นเก่า เพราะอยากรู้ว่าคาแรคเตอร์ของบทนี้เป็นอย่างไร จากนั้นผมก็ลองเอามีคิดวิเคราะห์ในแบบที่เป็นเราดู อย่างผู้กำกับและคนเขียนบทมีไกด์ว่าต้องเป็นแบบคุณชาย เราก็เป็นแบบนั้นแล้วใส่ความเป็นสไตล์แบบนิ่งๆ ของเราเข้าไปดูพี่ๆ ก็ค่อนข้างชอบ
มีความกดดันไหมเพราะเป็นซีรีส์ที่หลายคนคาดหวัง
โปเกส : สำหรับผมกดดันครับ ด้วยความที่เป็นซีรีส์รีเมค แล้วเวอร์ชันเก่าเขาทำไว้ดีมาก จึงมีความกังวลว่ามันจะยากสำหรับเราเกินไปไหม รู้สึกว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่า แต่พอได้เวิร์คช็อปมันก็เพิ่มความมั่นใจขึ้นมาได้
แอลม่อน : กดดันครับ กลัวว่าสิ่งที่แฟนๆ คาดหวังไว้เราจะทำไม้ได้ แต่ผมโชคดีมากที่พี่ๆ ในกองถ่าย ให้คำแนะนำและกำลังใจเสมอ ทุกคนบอกว่าให้เราทำให้เต็มที่ที่สุดจะได้ไม่เสียดายทีหลัง
แอลม่อน และ โปรเกส ชอบความเป็น “ปุณณ์-โน่” ในมุมไหน
โปเกส : ผมชอบ โน่ ผมว่าเขาเป็นคนที่ชัดเจน เวลาที่ชอบใคร เขาก็จะบอกไปตรงๆ เป็นคนที่ใช้การกระทำมากกว่าการการพูด
แอลม่อน : ชอบ ปุณณ์ ตรงที่เป็นคนที่ชอบชาเลนจ์ตัวเองเสมอ เขามักจะชอบทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ รวมถึงได้ลองเปิดใจที่จะรัก โน่ ด้วย
การทำงานในวงการบันเทิงเป็นความฝันของทั้งสองคนหรือเปล่า
โปเกส : เดิมทีมันไม่ใช่ความฝันของผม เพราะเมื่อก่อนผมเป็นคนเขินกล้องมาก แต่ตอนนี้ผมไม่เขินแล้วนะ อาจะเพราะเริ่มชิน ต้องถ่ายซีรีส์ ต้องสัมภาษณ์ จากที่ไม่เคยเป็นความฝัน แต่พอเราได้ลงมือทำอะไรหลายอย่างมันก็เริ่มมีแพชชั่นในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเอาจริงๆ ตอนแรกผมเองก็ไม่ได้ชอบขนาดนั้น แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นอิน และรักกันนี้มากๆ ผมไม่เคยรักอะไรขนาดนี้มาก่อน ผมรู้สึกว่าการแสดงมันคือสุดยอด ถึงมันจะเหนื่อยแต่ก็สนุก ส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยทุ่มเทอะไรขนาดนี้มาก่อน ผมทุ่มเทจนผมแทบตายเลย ผมทุ่มเทมากๆ ตอนแรกผมอาจจะไม่ได้ทุ่มเทขนาดนั้น แต่พอได้คุยกับคนอื่น ถ้ามาขนาดนี้แล้วยังไงเราก็ต้องทุ่มให้หมด แล้วพอฟีดแบก ออกมารู้สึกภูมิใจที่เราได้ทุ่มเทไปขนาดนั้น
แอลม่อน : เหมือนกันครับ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ เพราะผมมีความฝันคือเป็นนักแข่งรถ ซึ่งเป็นอาชีพที่ท้าทายและน่าจะสนุกดี แต่พอได้ลองมาทำงานแสดงดูก็รู้สึกว่าก็เป็นอาชีพที่ท้าทายเหมือนกัน เป็นอีกอาชีพที่มีเสน่ห์ทำให้รู้สึกสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
การกลายมาเป็นคนดังชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง
แอลม่อน :ก่อนเข้ามาในวงการผมมองว่าการเป็นดารา มันดูง่าย มันดูสบาย แต่พอได้เข้ามายืนในจุดนี้บอกเลยว่ามันไม่ได้สบายขนาดนั้น ตัวผมลืมไปแล้วว่าความรู้สึกที่ออกจากบ้านโดยไม่ต้องระแวงมันนานขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องคำพูด ไม่ใช่แค่คำหยาบ บางคำคนทั่วไปพูดก็ปกติ แต่เป็นนักแสดงก็จะถูกนำไปจุดประเด็น รู้สึกว่าการใช้ชีวิตในฐานะคนดังมนไม่ง่ายเลย
โปเกส : ผมว่าการเป็นดาราอาจจะชีวิตยากขึ้นระดับหนึ่ง ทำอะไรก็ต้องระมัดระวังมาก โดยเฉพาะผมเป็นคนพูดไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ ตอนนี้ก็พยายามจะควบคุมตัวเอง ไม่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ก็เป็นธรรมชาติในแบบของผม
เป้าหมายในอนาคต
โปเกส : ผมยังไม่รู้อนาคตเลยถ้าอีก 7 ปีข้างหน้าผมอายุ 22 ปี อาจจะเรียนจบแล้ว แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ความต้องการของตัวเองว่าจะเรียนด้านไหน กำลังอยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง แต่คุณพ่อบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ลองทำทุกอย่างถ้ามีโอกาส
แอลม่อน : ถ้ายังอยู่ในวงการก็ยังทำงานเป็นนักแสดงอยู่ ถ้าเกิดไม่ได้อยู่แล้ว มอาจจะเปิดร้านอาหารเพราะผมแป็นคนชอบกิน คิดว่าถ้าเปิดอาจจะร้านพิซซ่า เพราะมันอร่อย เปปเปอโรนี เป็นหน้าพิซซ่าที่ผมชอบมาก
ความห่วงใยที่มีต่อกัน
โปเกส : สุขภาพ เพราะผมรู้สึกว่าแอลม่อนเป็นคนไม่ค่อยรักษาสุขภาพสักเท่าไหร่ เช่นเรื่องการนอน การกิน การออกกำลังกาย เพราะเขาเป็นคนนอนดึกมาก แล้วก็ไม่ออกกำลังกายเลย
โปเกส : ไม่ค่อยห่วงครับเพราะน้องดูแลตัวเองได้ดี ผมคิดว่าตอนนี้น้องดูแลตัวเองดีกว่าผมอีก
ระหว่างทะเลกับภูเขาชอบที่ไหนมากกว่ากัน
โปเกส : ผมชอบภูเขาเพราะว่าผมเป็นคนชอบเดินป่า ผมได้อยู่กับธรรมชาติแล้วผมรู้สึกว่าได้ใช้สมาธิ ได้คุยกับตัวเองมากขึ้นเลยชอบการเดินป่า
แอลม่อน : ชอบไปทะเลครับ รู้สึกว่าขึ้นภูเขาสูงเกินหายใจไม่ออก แรงกดอากาศต่ำ ก็ไปทะเลดีกว่า เพราะทะเลเดินทางใกล้ด้วย
โปรเกรสหนุ่มคลั่งการออกกำลังกาย
โปเกส : ผมเป็นคนชอบออกกำลังกายเฉยๆครับ เป็นคนชอบออกแรง คือถ้าออกกำลังกายมากไปหุ่นมันลีนเกินเกินไปใส่เสื้อผ้าไม่โอเค แต่ผมแค่ชอบออกกำลังกาย เพราะผมเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว ชอบว่ายน้ำ ปีนเขา เข้ายิม เตะบอลก็เล่นได้แต่ไม่ได้เล่นนานแล้วขาก็จะแข็งๆหน่อย
การเก็บเงินของหนุ่มน้อยวัย 15 ปี
โปเกส : ผมมีวิธีการเก็บเงินอยู่อย่างหนึ่ง คือสมมติว่าผมอยากจะซื้อของผมจะเก็บเงินไว้สักก้อนหนึ่ง เช่นของในราคา 10,000 แต่ถ้าผมยังไม่สามารถเก็บตังค์ได้พอที่จะสามารถซื้อของชิ้นนั้นได้ 10 อัน ผมก็ยังจะไม่ซื้อ ผมจะคิดก่อนว่าตังค์มันจะพอหรือเปล่า แต่ถ้าสมมุติว่าเงินมีพอสามารถซื้อได้ 10 อย่างแล้ว สมมุติว่าของนั้นราคา 10,000 แล้วผมมีตัง 100,000 ผมก็จะซื้อ แต่ถ้าผมมีตัง 90,000 ผมยังไม่ซื้อ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ผมเป็นคนใช้เงินเยอะมาก ปีนึงผมใช้เงินเยอะมากหลานแสนเลยครับ ซึ่งเป็นเงินของคุณพ่อคุณแม่ แต่พอเรามาเป็นนักแสดงอย่างน้อยก็ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ มันก็โอเคกว่า“
ความรู้สึกของการที่เราหาเงินเองเป็นอย่างไร
โปเกส : ตอนใช้เงินพ่อแม่อยากได้อะไรก็ซื้อ แต่พอเป็นตังค์ตัวเองก็จะคิดก่อน เพราะว่ากว่าที่เราจะหาเงินมาได้ผมรู้สึกว่ามันยากจริงๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มันต้องแลกอะไรกับที่เหนื่อยมากๆ อย่างเช่นการแสดง มันก็เหนื่อยจริงๆนะ”
สิ่งที่อยากบอกแฟนๆ
แอลม่อน : อยากขอบคุณพี่ๆ แฟๆ ที่คอยติดตามให้กำลังใสจและคอยสนับสนุนพวกผมมาโดยตลอด
โปเกส : ผมก็รักทุกคนเหมือนกันนะครับ ทุกคนสามารถไปให้กำลังพวกผมได้ในอีเว้นต์ต่างๆ นะครับ