เปิดใจ 4 นักแสดง ซีรีส์ “The Sign ลางสังหรณ์” พร้อมแฟชั่นเซ็ตพิเศษ

account_circle

ร้อนแรงตั้งแต่เปิดตัว สำหรับซีรีส์วายแนวบู๊แอคชั่นแฟนตาซี The Sign ลางสังหรณ์ ที่นำแสดงโดย “บิลลี่ – ภัทรชนน อ่อนสอาด, เบ้บ – ธนทัต พรรณวิริยะกุล, แทค – พงศกร สุเกียง, ภูม – ณัฐภาสน์ ตันติเสถียรชัย”

            กับเรื่องราวความรักความผูกพันและพันธนาการความรัก ความเชื่อทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับพญาครุฑและพญานาค รวมถึงเรื่องราวของคดีปริศนาที่ต้องถูกแก้ไขด้วยหน่วยสืบสวนพิเศษ

            และก่อนจะไปลุ้นกับบทสุปสุดท้ายของซีรีส์เรื่องนี้ แพรว ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “บิลลี่, เบ้บ, แทค และภูม” ถึงการทำงาน ความท้าทาย และอีกก้าวของการเติบโตในฐานะนักแสดง

Billy & Babe

“เรื่องนี้เรา 2 คน เตรียมตัวหนักมากๆ ตั้งแต่การถ่ายทำ ทั้งเวิร์คช้อป ฝึกซ้อมคิวบู้ และพอผลงานออนแอร์แล้วได้เห็นกระแสตอบรับจากผู้ชม รู้สึกดีใจมากๆ ครับ” เบ้บ

“เช่นกันครับ พอได้เห็นกระแสตอบรับจากผู้ชม บอกเลยว่าเกินคาดมากครับ เพราะพวกเราทุกคนตั้งใจและทุ่มเทกับซีรีส์เรื่องนี้มากๆ” บิลลี่

ยังจำวันแรกที่รู้จักกันได้ไหม

บิลลี่     “ย้อนกลับไปวันแรกที่เจอกัน ช่วงแรกยังนิ่งทั้งคู่ แบบว่ายังดูๆ กันอยู่ แต่ตัดภาพมาตอนนี้เหมือนคนสรวล 2 คน (หัวเราะ) ผมชอบเวลาทำงานด้วยกันคือ เบ้บเป็นคนที่สู้มาก ไม่มีงอแงเลย แม้ว่าซีนจะโหดขนาดไหน เบ้บก็สู้เต็มที่ จึงทำให้เรามีพลัง จับมือสู้ไปด้วยกัน ดีใจครับที่ได้พาร์ทเนอร์ที่พร้อมสู้ไปด้วยกันแบบเบ้บ”

เบ้บ     “ลางสังหรณ์ เป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกของผม ต้องขอบคุณพี่บิลลี่ที่คอยช่วยหลายๆ เรื่อง ซึ่งอย่างที่พี่บิลลี่บอกว่า ช่วงรู้จักกันแรกๆ อาจจะยังไม่ได้คุยกันมากนัก แต่พอทำงานด้วยกัน เหมือนเราได้โตไปพร้อมกับตัวละคร ทำให้สนิทกันมากขึ้น ผมมองว่าตอนนี้เป็นช่วงที่มีความสุขมากๆ อย่างเวลาที่เรามีปัญหา ต้องการคำปรึกษา ผมดีใจที่มีเขาอยู่ข้างๆ นะ”

บิลลี่     “ค่อยๆ เติบโตไปด้วยกัน ดูใจ เรียนรู้ และพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ ครับ” (ยิ้ม)

ตั้งแต่รู้จักกันมาจนถึงตอนนี้ คิดว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

          เบ้บ     “จังหวะและไดนามิกการพูดครับ เมื่อก่อนเขาจะพูดน้ำเสียงโมโนโทน เหมือนแบบเอาอารมณ์ทั้งหมดไปใช้การกับแสดง แต่ชีวิตจริง บิลลี่โมโนโทน ครับ (หัวเราะ) แต่เวลาผมเล่าเรื่อง จะมีการเกริ่น มีขึ้นเสียง ลงเสียง เพื่อให้เรื่องสนุก ซึ่งผมว่าเขาติดสิ่งนี้จากผมไปนะ เริ่มมีลูกเล่น มีคำสร้อย” (หัวเราะ) 

            บิลลี่    “กลับกันครับ ผมว่าเบ้บสุขุมมากขึ้นจากตอนแรก เพราะช่วงแรกเบ้บพลังงานเยอะมากเหมือนเด็ก ซึ่งผมว่าน้องก็ค่อยๆ ซึมซับความนิ่งจากผมไป”  

ถ้ามองปี 2023 ที่ผ่านมา อะไรคือ เรื่องที่ตื่นเต้นที่สุดคะ

            บิลลี่     “น่าจะเป็นการได้แสดงซีรีส์ ลางสังหรณ์ ครับ เพราะว่าได้ลองทำอะไรเยอะมากในฐานะนักแสดง และได้ทำทุกอย่างที่ผมอยากลองเล่น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงบู้ โหยสลิง เพราะผมเรียนเทควันโด เวลาดูหนังแอคชั่น ก็อยากลองแสดงแบบนั้นบ้าง รวมถึงการได้รับบทเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ก็เป็นหนึ่งบทบาทที่อยากแสดง ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำทั้งหมดที่อยากทำเลยครับ”

          เบ้บ     “ตื่นเต้นที่สุดคือ การได้เห็นผลงานของตัวครับ (ยิ้ม) การแสดงเรื่องนี้ ทำให้ผมก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเองเยอะมาก เพราะมีหลายอย่างมากๆ ที่ถ้าไม่ได้แสดงเรื่องนี้ ในชีวิตนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้ทำแน่ๆ รวมถึงการทำงานแบบเต็มตัว ที่ทำให้เบ้บ มีวินัย มีความรับผิดชอบ และโตขึ้นเยอะมากในปีที่ผ่านมา”

มีเรื่องที่ยากหรือท้าทายที่สุดไหม

          บิลลี่     “ผมคิดว่าสิ่งที่ยากที่สุดของผมคือ การเติบโตไปอีกขึ้นของการเป็นนักแสดง ด้วยบทบาท คาแรคเตอร์ การตีความ การเข้าใจโลกของ ลางสังหรณ์ เพื่อตีความและถ่ายทอดออกมาให้เข้าถึงบทบาทมากที่สุด”

            เบ้บ     “สำหรับเบ้บน่าจะเป็นเรื่องการจัดการตัวเอง ทั้งเรื่องเวลา วินัย และความรับผิดชอบ เพราะเป็นปีที่มีหลายเรื่องเกิดขึ้น และทุกอย่างเกิดก็ขึ้นเร็วมาก อย่างเรื่องการออกกำลังกาย ก่อนหน้านี้เบ้บ ไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ด้วยบทบาทในเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องดูแลตัวเอง ฟิตร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งทำให้เราต้องมีวินัยในตัวเองเพิ่มขึ้นเยอะมาก”

ในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์ทำงานด้วยกันมา อยากบอกอะไรกันและกัน

          เบ้บ     “เราไม่เคยบอกอะไรกันแบบนี้เลย (ยิ้มเขิน) เบ้บและบิลลี่ คือต่างกันมาก ทั้งนิสัย การใช้ชีวิต ยอมรับว่าช่วงนี้ก็ตกใจเหมือนกันนะ คือด้วยความเป็นบิลลี่ เขาจะมีความสุขุม นิ่ง มีความเป็นผู้ใหญ่ ทำอะไรตามแพลนของตัวเอง เหมือนคนที่ผ่านชีวิตมาเยอะ ทำให้ความยืนหยุ่นในชีวิตเขาน้อย แล้วช่วงแรกผมโทรหาเขาตอนดึก คุยกับเขา 2-3 ชั่วโมง ซึ่งผมก็ลืมคิดไปว่าคนปกติเขาคงไม่คุยกันนานขนาดนี้ และบางทีเวลาผมเจออะไร ก็จะโทรเล่าให้เพื่อนฟังทันที ขนาดเดินอยู่แล้วเจอน้องหมาน่ารัก ก็ต้องโทรเล่าให้เพื่อนฟัง” (หัวเราะ)

          บิลลี่     “บอกเลยว่าตอนนั้นช็อคจริงครับ” (หัวเราะ)

            เบ้บ     “แค่ช่วงแรกครับ หลังจากนั้นเราก็ปรับตัวเข้าหากัน ก็เลยเปลี่ยนเป็น..ถ้าเจอเรื่องอะไรแล้วอยากเล่า ก็แก้ปัญหาด้วยการพูดเป็น voice message ส่งไป แบบว่าขอเล่าก่อนนะ เดี๋ยวลืม ส่วนเขาจะมาเปิดฟังตอนไหนก็แล้วแต่เขา (หัวเราะ)

“อ่ะ…กลับมาที่คำถามก่อน (หัวเราะ) สิ่งที่อยากบอกบิลลี่คือ อยากขอบคุณที่เดินทางและสู้มาด้วยกัน ขอบคุณที่เราเปิดใจเข้าหากัน ทำให้การทำงานออกมาดีและมีความสุข” (ยิ้ม)

            บิลลี่    “อย่างที่บอกว่าด้วยความที่เราเติบโตมาไม่เหมือนกัน นิสัย ความชอบ ไม่เหมือนกัน ก็อยากขอบคุณที่เราเปิดใจเข้าหากัน ขอบคุณที่เราเปิดรับตัวตนของอีกฝ่ายและค่อยๆ ปรับเข้าหากัน แม้จะเจอเรื่องอะไร ก็พยายามจับมือเดินไปด้วยกัน แฮปปี้มากครับ และขอบคุณที่มีเบ้บเป็นคู่ เป็นไฟท์เตอร์ที่สู้ไปด้วยกันครับ

“และแม้ว่าผมจะพูดไม่เก่ง แต่ก็อยากให้รู้ว่า ผมอยู่ข้างๆ เขาเสมอครับ (ยิ้ม) ซึ่งเขาก็มีวิธีให้กำลังใจผมในแบบของเขาเหมือนกัน ดีใจครับที่เราคอยดูแลกันและกัน”

ถ้าต้องนิยามความแตกต่างของ “บิลลี่ – เบ้บ” เปรียบได้กับอะไรคะ

            บิลลี่     “เส้นตรง กับเส้นหยักที่มีความสวิงขึ้นลงๆ” (หัวเราะ)

            เบ้บ     “ถ้าในมุมเบ้บนะ บิลลี่เป็น หิน ส่วนเบ้บเป็น น้ำ แต่ช่วงหลังเบ้บเริ่มเป็นน้ำร้อน ทำให้หินเริ่มละลาย” (หัวเราะ)

Tack & Poom

นิยามปี 2023 ในมุมของแทคและภูม

แทค “แทคคิดว่าตัวเองมีความรับผิดชอบมากขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทของการทำงาน หรือพาร์ทการเรียน เพราะมีหลายอย่างที่เราไม่เคยทำ แต่ก็ได้ทำในปีที่ผ่านมา จึงต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

ภูม       “สำหรับภูม ปี 2023 เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเติบโตครับ เป็นปีที่โตขึ้นเยอะมาก มีเรื่องราวใหม่ๆ มีอุปสรรค มีปัญหา ที่ท้าทายตัวเองเข้ามาเยอะมาก และได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้ก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน ทำให้ผมต้องพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งมุมมองความคิด ทักษะ ความสามารถ เพราะต้องโฟกัสทั้งเรื่องาน เรื่องเรียน ก็ถือเป็นอีกปีที่เติบโตและมีความรับผิดชอบขึ้นเยอะเลยครับ”

เรื่องที่ท้าทายที่สุดในปีที่ผ่านมา

แทค     “สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือ การที่ได้ทำงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่ครับ ตื่นเต้นมากครับ เพราะก่อนหน้านี้เราเคยเห็นพี่ๆ แต่ในทีวี พอได้เจอตัวจริง ต้องทำงานกันด้วย ก็รู้สึกกดดันตัวเองมากอยู่ครับ กลัวจะทำพี่เสียเวลา แต่อีกมุมก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ ซึ่งพอได้เห็นผลงานของตัวเองก็ภูมิใจนะครับ”

ภูม       “น่าจะเป็นการที่ได้รับโอกาส ได้แสดงซีรีส์เรื่องแรกนี่แหละครับ การทำงานครั้งแรกทำให้เราต้องเตรียมตัวหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงที่เราไม่มีประสบการณ์มาก่อนเลย หรือว่าด้านร่างกายที่ต้องฟิตขึ้นมากๆ เนื่องจากเรารับบทเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่างกายต้องแข็งแรง เราก็ต้องดันตัวเองให้ไปถึงตรงนั้นให้ได้ แม้ว่าเวลาจะค่อนข้างจำกัด แต่ก็สู้เต็มที่ครับ”

เรื่องที่ภูมิใจที่สุด

แทค     “สิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดคือ การได้เล่นซีรี่ย์ลางสังหรณ์ครับ แม้ว่าจะค่อนข้างกดดัน แต่สิ่งที่ทำให้ผมใจฟูคือ ผลตอบรับจากผู้ชม ดีใจที่หลายๆ คนได้รับความสุขจากเสียงหัวเราะของหมวดเข็ม ดีใจและใจฟูมากๆ ครับรู้สึกว่าหายเหนื่อยเลยครับ”

ภูม       “ภูมิใจกับตัวเองครับ ที่แม้จะเจอปัญหา เจออุปสรรค หรือการเปลี่ยนแปลง เรียกว่าเป็นปีที่ครบรสมากๆ แต่เราก็ผ่านทุกอย่างมากได้ และทำได้ดีที่สุดในมุมของตัวเองแล้ว ภูมิใจที่สามารถจัดการตัวเองได้ครับ”

จากวันแรกที่เข้าวงการมาจนวันนี้ คิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

แทค     “สติครับ … คือก่อนหน้านี้เวลาเจอปัญหา ผมค่อนข้างอารมณ์ร้อนครับ แต่พอเริ่มทำงาน ทำให้รู้ว่า สติเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ถ้าเราไม่มีสติ ทุกอย่างอาจจะจบได้ครับ”

ภูม       “อย่างแรกที่เห็นได้ขัดเจนคือ ตารางชีวิตในแต่ละวันเปลี่ยนไป มุมมอง ความคิด ที่มีการคิดทบทวน ไตร่ตรองมากขึ้น มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วย ซึ่งผมได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานเยอะมาก ทั้งจากผู้ใหญ่ที่เราทำงานด้วย ก็พยายามเรียนรู้และนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองครับ”

ในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์ทำงานด้วยกันมา อยากบอกอะไรกันและกัน

แทค     “อยากบอกภูมว่า ขอบคุณมากๆ ที่เป็นพลังบวกให้ผมตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน เรื่องเรียน แล้วก็หลายๆ เรื่องในชีวิต ผมรู้สึกว่าผมกับภูมมีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่างมาก อาจจะเพราะอยู่ช่วงวัยเดียวกัน

“และภูมิเป็นคนขยันมาก ทำให้ผมขยันตามไปด้วย เขาเป็นแรงผลักดันในการทำอะไรหลายอย่าง ถ้าภูมสู้เราก็ต้องสู้! ห้ามถอย ต้องสู้ไปด้วยกันครับ และด้วยความที่เราสองคนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ไม่เคยผ่านการแสดงซีรีส์มาก่อน ก็รู้สึกดีใจครับที่ได้เขาเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงาน ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีเขาอยู่ข้างๆ ตลอด ทำให้ทุกอย่างมันลงตัวและดีไปหมด ก็อยากขอบคุณเขาครับ”

ภูม       “สิ่งที่ประทับใจในตัวแทคคือ ความจริงใจครับ เขาเป็นคนที่จริงใจมากๆ เราสัมผัสได้เลยว่าสิ่งที่เขาทำ เขาไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไร เขาทำด้วยใจจริงๆ ชื่นชมเขาครับ

“ในสายตาภูม แทคมีพัฒนาเพื่อขึ้นตลอด จากวันแรกถึงวันนี้เห็นเลยว่า เขามีความเป็นมืออาชีพเพิ่มขึ้นเยอะมาก ทั้งมุมมอง ความคิด ก็โตขึ้นมาก เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจในตัวเขามากๆ ครับ และอยากจะบอกตรงนี้ว่า ภูมภูมิใจในตัวแทคมาก เหมือนเราเติบโตมาพร้อมๆ กัน วัยเท่ากัน เริ่มต้นทำงานพร้อมกัน ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง เทคนิคการทำงาน รวมถึงเราจะแชร์ประสบการณ์ที่แต่ละคนเจอ เพื่อนำไปพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

“และนอกเหนือเวลางาน เราก็ชวนกันไปออกกำลังกาย คุยกันได้ทุกเรื่อง แทคเป็นเพื่อนสนิทมากๆ คนหนึ่งของภูม ก็อยากขอบคุณที่แทคเป็นส่วนนึงในชีวิตภูมิ…เติบโตไปด้วยกันนะ” (ยิ้ม)

ติดตามชมบทสรุปสุดท้ายพร้อมกัน “ลางสังหรณ์ FINAL EPISODE” ในโรงภาพยนตร์ 11 กุมภาพันธ์ นี้ ณ สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์เธียเตอร์ สยามพารากอน เปิดจำหน่ายบัตรวันเสาร์ที่ 13 มกราคม นี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น เป็นต้นไป ทาง Thaiticketmajor.com   
#TheSignลางสังหรณ์ #idolfactoryTH 

  • ดูแลเสื้อผ้า : กฤษณะ สัจจาเจริญชัย

Praew Recommend

keyboard_arrow_up