PiXXiE

กว่าจะเป็น PiXXiE เกิร์ลกรุ๊ปสุดป็อป เบื้องหลังความสดใสเกินต้านเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

Alternative Textaccount_circle
PiXXiE
PiXXiE

แม้จะเพิ่งเดบิวต์เมื่อปี 2564 แต่ถ้าจะบอกว่า PiXXiE คือเกิร์ลกรุ๊ปที่ป็อปสุดในยุคนี้ก็ไม่ผิด พวกเธอคือศิลปินเบอร์แรกของค่าย LIT Entertainment เจ้าของเพลง เกินต้าน ที่ครองหัวใจแฟนๆ กว่า 23 ล้านวิว แต่เบื้องหลังความสดใสของสามสาว “มาเบล – สุชาดา สอนพันธ์” , “พิมมา – พิมพ์มาดา ใจสักเสริญ” และ “อิงโกะ – อินท์ปาลี โชติหิรัญธนนนท์” ที่เคยไม่มั่นใจ เสียน้ำตา วันนี้พวกเธอฟันฝ่ามาได้ด้วยความรักในเสียงเพลงและมิตรภาพ

กว่าจะเป็น PiXXiE เกิร์ลกรุ๊ปสุดป็อป เบื้องหลังความสดใสเกินต้านเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

เรื่องนี้ท้าทายสุดๆ

มาเบล : “เรื่องท้าทายสำหรับหนูคือการย้ายจากจันทบุรีมาอยู่กรุงเทพฯค่ะ หลังจากเซ็นสัญญากับค่ายก็ต้องออกจากบ้านซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องห่างแม่ เพราะหนูติดแม่มาก แต่เพราะความฝันก็ยอม ตอนนั้นมาเช่าคอนโด แม่ซัพพอร์ตให้หมดทุกอย่าง ซึ่งที่จริงทางบ้านก็ไม่ได้มีเงินมาก เพราะเราทำสวนผลไม้ หนูต้องทำลิสต์ค่าใช้จ่ายว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง หรืออย่างเรื่องการเดินทางก็ลองหลากหลายมาก หนูกลัวแท็กซี่เพราะเจอข่าวไม่ดีเยอะ ก็ทั้งขึ้นวินมอเตอร์ไชค์ รถเมล์ และรถไฟฟ้าที่ชอบสุดเพราะรวดเร็ว ทุกวันนี้หนูคุ้นชินกับการอยู่ตัวคนเดียวแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ” (ยิ้ม)

พิมมา : “เรื่องยากที่สุดของพิมมาคือการปรับมายด์เชตค่ะ เมื่อก่อนเชื่อว่าตัวเองร้องเพลงไม่ได้ ไม่สามารถทำงานตรงนี้ได้แน่นอน การก้าวข้ามไปให้ได้จึงค่อนข้างท้าทาย ย้อนไปสมัยเด็กเคยเจอเหตุการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับการร้องเพลง บวกกับถูกตำหนิว่าร้องเพลงไม่ได้ ทำให้ไม่เชื่อมั่นและไม่กล้าร้องเพลงออกมา ทั้งๆ ที่ชอบมาก แล้วไปทางเต้นแทน

“แต่สิ่งที่ทำให้กล้ามาออดิชั่นเพราะได้รู้จักกับพี่บอลชอน (ธนวัฒน์ น้องชายโดม – จารุวัฒน์ ผู้บริหารค่าย LIT Entertainment)  ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่คณะ (คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) เขาคงเห็นแววจึงถามว่าอยากเป็นศิลปินไหม เลยตัดสินใจไปออดิชั่นค่ะ ไม่คาดหวังว่าต้องได้ แค่อยากใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์ ซึ่งวันออดิชั่นก็ไม่มั่นใจนะคะ แต่ก็ร้องออกไป ปรากฏว่าผ่าน

“ทุกวันนี้พิมมาปลดล็อกแล้ว เราเชื่อว่าตัวเองทำได้ เพราะเพื่อนๆ พี่ๆ ในค่ายก็เชื่อในตัวเรา แล้วทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสตัวเอง บวกกับโอกาสตรงนี้ก็ไม่ได้มาง่ายๆ มันคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เห็นความสามารถของตัวเองมากขึ้น และกล้าทำในสิ่งที่เคยตั้งกำแพงมาตลอด”

อิงโกะ : “ส่วนหนูเมื่อก่อนไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเองเลยค่ะ เคยไปออดิชั่นมาเยอะ แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะติดเรื่องรูปร่างที่ตัวเล็ก คือเราร้องเพลงได้ เต้นได้ แต่พอดูภาพรวมความตัวเล็กของเราอาจไม่เข้ากับคนอื่นๆ จึงเป็นจุดที่ทำให้หนูกังวลใจทุกครั้งไม่ว่าจะไปออดิชั่นที่ไหนก็ตาม ยิ่งเห็นใครมีรูปร่างสูงกว่า หุ่นดีกว่า ก็จะกังวลมาก จนกระทั่งมาออดิชั่นผ่านและได้เข้าวง PiXXiE หนูรู้สึกว่าเขาคงมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเราที่ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ แต่เป็นเคมีที่เราสามคนอยู่ด้วยกันได้ หนูคิดว่าได้เข้ามาเติมเต็มเรื่องความสดใสนะคะ เพราะพี่พิมคือสาวเท่ ส่วนพี่มาเบลเป็นแนวจัดจ้าน พอมีความสดใส ภาพรวมจึงกลมกลืนขึ้น

“ถามว่าตอนนี้มั่นใจในรูปร่างตัวเองแล้วหรือยัง ก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะคะ เพราะออกกำลังกายเยอะขึ้น มีไอดอลเป็นพี่เบเบ้ เนื่องจากเรารูปร่างคล้ายกัน ก็พยายามทำจุดด้อยให้เป็นจุดเด่น มีกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เป็นเล็กพริกขี้หนูค่ะ” (ยิ้ม)

PiXXiE

เพื่อนแท้ซี้ปึ้ก

พิมมา : “พวกเราเจอกันครั้งแรกที่โชว์เคส ซึ่งเป็นการประเมินรายสัปดาห์ของศิลปินฝึกหัดของค่าย พิมมากับมาเบลฝึกด้วยกันอยู่ก่อนแล้ว วันนั้นได้เจออิงโกะเป็นครั้งแรก พี่ๆในค่ายพาน้องมาทำความรู้จักกับศิลปินฝึกหัดทุกคน ยอมรับว่าพิมมากับมาเบลก็เกร็งนะ เราสองคนคุยกันก่อนหน้านั้นว่าต้องคุยกับน้องเยอะๆ ไม่อยากให้น้องรู้สึกว่ามาทีหลังแล้วไม่เข้ากับคนอื่น

“ช่วงที่เราสนิทกันสุดๆ ก็คือต้องอยู่หอค่ะ โดยเฉพาะช่วงเทรนก่อนเดบิวต์ เราซ้อมหนักมาก จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ห้องเดียวกัน 3 คน ประมาณครึ่งปี ตัวติดกัน 24 ชั่วโมง ทั้งซ้อม กินข้าว นอน ทำทุกอย่างด้วยกันจึงสนิทกันเร็วมาก และเราไม่เคยทะเลาะกันเลย อาจเพราะทำงานด้วยกันตลอด เจอสถานการณ์เหมือนกัน เราแคร์และใส่ใจกันก่อนที่จะแคร์อย่างอื่นค่ะ ไม่ว่ามีปัญหาหรือเรื่องอะไรก็ตาม เราต้องถามความสบายใจจากเพื่อนก่อน

“ถ้าพูดถึงเรื่องประทับใจ สำหรับอิงโกะ  พิมมาประทับใจการรับฟังของเขาค่ะ น้องเป็นผู้ฟังที่ดีมาก แม้กระทั่งตอนที่เราอยากเตือนเขา  เขาก็ฟังและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น สำหรับมาเบล พิมมาประทับใจเรื่องความพยายามและแพสชั่นการเป็นศิลปิน เพราะพิมมาไม่ได้อยากเป็นศิลปินเท่ามาเบลหรืออิงโกะ แต่มาเบลบอกว่าเมื่อได้มาอยู่ตรงนี้ควรทำให้เต็มที่ และเราก็ได้เห็นแพสชั่นเวลาที่ทั้งคู่ตั้งใจทำงาน ซึ่งช่วยส่งต่อแพสชั่นนั้นให้กับเราด้วย”

PiXXiE

อิงโกะ : ”พี่พิมมาเป็นที่ปรึกษาที่ดีมากๆ โดยเฉพาะเวลาที่หนูไม่สบายใจ คำแนะนำของเขาช่วยไกด์ชีวิตได้ ส่วนพี่มาเบลมีความคิดสร้างสรรค์เยอะ คอยหาคอนเทนต์ให้วงของเรามีอะไรใหม่ๆ ตลอดเลยค่ะ”

มาเบล : “ปกติหนูจะเงียบ เวลามีอะไรจะเก็บไว้ข้างใน พอเก็บมากๆ ไม่ได้ปล่อยออกมาก็จะนั่งนิ่งๆ อยู่คนเดียว สองคนนี้จะคอยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า โอเคไหม พอโดนสะกิดก็จะพรั่งพรูออกมา ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีมาก อย่างพิมมาแข็งแกร่ง ตรงไปตรงมา เป็นที่ปรึกษาที่ดี พูดได้ว่าเป็นบุคคลที่ควรมีในชีวิตเลยค่ะ ส่วนอิงโกะจะคอยสร้างรอยยิ้มและสร้างสีสันให้กับทุกคนเสมอ”

PiXXiE

เรื่องนี้เกินต้าน

มาเบล : “ครั้งแรกที่เพลง เด็ด ของพวกเราปล่อยออกมาคือความสุขที่จะจำไปตลอด เพลงของเราได้เปิดทุกๆ สตรีมมิ่ง มีเพื่อนมาแชร์ มากดไลก์ ความรู้สึกนี้คือดีมาก”

อิงโกะ : “การได้มาเป็นศิลปินคือเรื่องที่เกินต้านจริงๆ เป็นความฝันตั้งแต่เด็ก พอได้มาทำงานตรงนี้ เราเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์ และเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่ายด้วย พอมาถึงจุดที่มีแฟนๆ รู้จักก็ดีใจมาก เพราะทำให้คนรู้จักค่ายของเราไปด้วย”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 996

ภาพ : @pixxie_official

Praew Recommend

keyboard_arrow_up