แพรวพาไปทำความรู้จัก ทราย-ดมิสา วนาสวัสดิ์ ลูกสาวคนเดียวของ คุณกุลวุฒิ วนาสวัสดิ์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทผลิตยา Atlantic Pharmaceutical Co.,Ltd. และ คุณอัปสรศิริ จุณณานนท์ อดีตผู้อำนวยการกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ สาวน้อยผู้เติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจ แต่มีความหลงใหลการวาดภาพตั้งแต่วัยเยาว์ จนได้รับคำชมจาก คุณรอล์ฟ วอน บูเรน และกำลังจะมีผลงานที่แสดงร่วมกับ Lotus Arts de Vivre
ทราย-ดมิสา ศิลปินไทยรุ่นใหม่ ผู้หลงใหลการวาดภาพตั้งแต่วัยเยาว์
ทั้งนี้แพรวได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ทราย ดมิสา โดยเธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นถึงพรสวรรค์ในครั้งนี้ว่า “ทรายเริ่มวาดรูปตั้งแต่จำความได้ โดยคุณแม่มักหยิบยื่นกระดาษกับดินสอสีให้ตั้งแต่ยังเด็กๆ ทำให้ทรายชื่นชอบใช้เวลาว่างนั่งวาดรูป ระบายสี กลายเป็นงานอดิเรกจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ซึ่งในขณะที่กำลังศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติ KIS (ระบบ IB หรือ International Baccalaureate) ทรายเลือกเรียนเลือกวิชาสำหรับสองปีสุดท้ายเป็น Higher level: Business Management, Design Technology, English Language and Literature Standard level: Visual Art, Math (Standard), Chinese Language B”
หลังจากเรียนจบในระดับชั้นไฮสคูล ทรายได้ตัดสินใจที่จะเลือกเรียนศิลปะต่อ ซึ่งปัจจุบันเธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 RISD (Rhode Island School of Design) คณะ Painting ซึ่งทรายบอกว่า สถาบันแห่งนี้ไม่ได้เน้นเพ้นท์ติ้งส่วนใหญ่เน้น concept, material usage and effect, และ critique การสื่อสารของงานทุกเทอมต้องเรียน liberal arts ควบคู่ไปด้วยซึ่งเป็นสื่งที่ชอบมากโดยเฉพาะ วรรณกรรม และ ประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ ทราย-ดมิสา ยังได้กล่าวอีกว่า “ทรายเป็นนักเรียนไทยเพียงคนเดียว พอได้เข้าไปเรียนก็ได้เจอนักศึกษาจากหลากหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคนจีน อินเดีย เกาหลี จึงพบว่ามีคนที่ทำงานผลงานได้ดีมาก เก่งมากๆ ทรายจึงอยากที่จะพัฒนาตัวเองให้เขาเห็นว่าเราก็ทำได้ค่ะ
ทรายตั้งเป้าหมายไว้ว่าหลังจากเรียนจบปริญญาตรี ก็อยากเรียนต่อปริญญาโทต่อด้านทฤษฎี และด้านดีไซน์การสร้างเรื่องราวผ่านภาพวาด ผ่านการเขียน ผ่านรูปภาพ ซึ่งทรายได้ไปเจอว่าที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดมีการสอนโปรแกรมนี้ด้วยค่ะ”
“ทรายรู้สึกว่าการคิดและสร้างศิลปะมันเป็นธรรมชาติของตัวทรายไปแล้ว ทรายจริงจังกับผลงาน ทุกรูปต้องออกมาเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ เป็นเพอร์เฟคชั่นนิส ทรายจะนึกถึงที่แม่เคยบอกว่าเวลาทำอะไรให้ทำ 120% ทรายไม่ค่อยวาดเล่น ไม่ค่อยสเก็ตช์ ไม่ค่อยวาดสิ่งต่างๆ ตามที่เห็นอยู่ข้างหน้า ภาพทุกอย่างจะอยู่ ในหัวแล้วค่อยลงมือทำโดยจะทำไปแก้ไขไป”
“เมื่อก่อนชอบวาดรูปคนสนใจในการสร้างตัวละครและการเล่นกับองค์ประกอบของหน้าโดยใช้สีต่างๆ ลายเส้น รูปทรงเลขาคณิต เหมือนกับว่านำอารมณ์หรือลัษณะข้างในของตัวละครออกมาข้างนอกอยู่ ในกล้ามเนื้อ ผิวหนัง อากาศรอบๆ ส่วนตัวคิดว่ารูปที่ได้ทำมาเกือบทั้งหมดไม่ได้สะท้อนหรือสื่อบุคคลิกตัวเอง ไม่ได้เป็น Self-expression ไม่ใช้อารมณ์ ทรายสร้างภาพที่อยากให้คนอื่นได้เห็นและคิดว่าน่าจะน่าสนใจและเขาน่าจะเอ็นจอยออกมา”
“ศิลปะทำให้ทรายเข้าใจมุมมอง และการมองสิ่งต่างๆ ที่ซาบซึ้งขึ้น และลึกซึ้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ธรรมดาเวลาเราไปเที่ยว ทรายก็จะมองว่าเป็นงานศิลปะ มองเห็นพลังงาน หรือ ศิลปะเกี่ยวกับคนก็ทำให้เราได้เห็นถึงคาแรคเตอร์ต่างๆ และสามารถพัฒนาออกมาเป็นผลงานศิลปะได้ค่ะ”
สำหรับผลงานของทรายที่จะเกิดขึ้นเร็วนี้คือการทำโปรเจกต์พิเศษ LADV X DAMISA การนำผลงานภาพวาดของทรายจำนวน 30 ภาพ มาจัดแสดงและจัดจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีการเพ้นท์ศิลปะลงบนเปลือกไข่นกกระจอกเทศ จำนวน 2 ใบ อีกด้วย
“ทรายตั้งใจเพ้นท์เป็นตัวมังกรค่ะ เพราะว่าปีหน้าจะเป็นปีมังกรด้วย โดยตัวมังกรพันรอบไข่เหมือนปกป้องไข่ไว้เหมือนภาพแลนด์สเคปที่มีท้องฟ้าผสมผสานกับตัวมังกรที่สื่อถึงพลัง
ต้องบอกเลยว่าการเพ้นท์ลงบนไข่ค่อนข้างยากค่ะ เพราะเนื้อมันลื่นมาก ทรายเลยต้องค่อยๆ เพ้นท์ และพยายามใช้ความหนา ความบางของสีให้ถูกต้อง เพื่อสีจะได้ติด และซ้อนกันได้ ซึ่งทรายจะเริ่มวาดตั้งแต่หัวมังกร ค่อยๆ วาดให้มันเลื้อยพันรอบไข่ค่ะ จากนั้นจึงค่อยๆ เติมรายละเอียดลงในก้อนเมฆ สร้างแสงและเงาให้อยู่รอบๆ ตัวมังกร”
ทั้งนี้ ทราย ดมิสาได้กล้าวปิดท้ายกับแพรวถึงเส้นทางการเป็นนักศิลปะของเธอว่า “ทรายตั้งเป้าอนาคตไว้ว่า อยากวาดภาพไปจนแก่เลยค่ะ (ยิ้ม) แต่ไม่ใช่แค่วาดภาพอย่างเดียว ทรายอยากสร้างสรรค์ผลงานให้มีเรื่องราวที่ต่อกัน อยากแสดงให้ทุกคนเห็นถึงผลงานของเรา อยากร่วมมือกับดีไซเนอร์ด้านแฟชั่นรังสรรค์ผลงานศิลปะผ่านเสื้อผ้า อยากให้ผลงานของเราไปปรากฏในวงการหลายๆ ด้านค่ะ”