หากพูดถึงซีรีส์วายภาพจำเดิมๆ อาจเป็นเพียงซีรีส์รักโรแมนติก แต่สำหรับซีรีส์บอยเลิฟในยุคนี้ มีให้ผู้ชมเลือกเสพอย่างหลากหลายทั้งแนว แอ็คชั่น สืบสวนสอบสวน ไปจนถึงแนวพีเรียด ซึ่งนหนึ่งในผลงานที่กำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้คือซีรีส์ หอมกลิ่นความรัก (I Feel You Linger In The Air) นำแสดงโดย นนกุล-ชานน สันตินธรกุล และ ไบร์ท-รพีพงศ์ ทับสุวรรณ สองนักแสดงหนุ่มมากความสามารถที่โคจรมาเจอกันเป็นครั้งแรก
ผลงานเรื่อง หอมกลิ่นความรัก เป็นซีรีส์ที่ได้รับการชื่นชมด้านโปรดักชั่นและงานสร้าง ที่มีความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด รวมไปถึงการนำเสนอเรื่องราวความรักชายชายในสมัยรัชกาลที่ 7 ได้อย่างสวยงามและโรแมนติก
สำหรับ ไบร์ท-รพีพงศ์ ทับสุวรรณ ถือได้ว่าแจ้งเกิดในเรื่องนี้ได้อย่างสวยงาม มีแฟนคลับทั้งในและนอกประเทศเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ถึงใครอาจไม่คุ้นตาเขานักแต่จริงๆ แล้วนักแสดงหนุ่มคนนี้เริ่มต้นสั่งสมประสบการณ์ทางการแสดงมาตั้งแต่ปี 2018 โดยผลงานที่ผ่านมาอาทิ ข้ามสีทันดร,เมียจำเป็น,เกมปรารถนา,บุพเพร้อยร้าย,ที่สุดของหัวใจ,เกมรักทรยศ,ปิ่นอนงค์
การแสดงที่ใช้สายตาเยอะเป็นพิเศษ
“ก่อนหน้านั้นไบร์ทได้การอ่านนิยาย เลยรู้ว่าคาแร็คเตอร์ของคุณใหญ่ค่อนข้างเป็นคนที่ชัดเจน ทำให้ภาพในหัวเราค่อนข้างชัดว่าจะแสดงออกมาประมาณไหน ด้วยความที่เป็นละครพีเรียดการแสดงอารมณ์ผ่านท่าทางเลยไม่สามารถทำได้เยอะจึงต้องใช้สายตาในการสื่อสารว่าเรารู้สึกอย่างไร แต่ก็ต้องไม่มากเกินไปเพราะตัวคุณใหญ่เป็นคนค่อนข้างเก็บอารมณ์ ก็พยายามที่จะทำการบ้านมาเยอะ อีกหนึ่งส่วนที่เรียกว่าเป็นความยากคือเรื่องของบทพูด ซึ่งส่วนใหม่ไม่ใช่ภาษาของคนในยุคนี้ เลยต้องทำการบ้านเยอะเพื่อให้ชิน”
การร่วมงานกับ “นนกุล”
“นนกุลเป็นคนที่ทำงานค่อนข้างดีอยู่แล้ว ทำการบ้านในการแสดงมา และรับส่งอารมณ์ค่อนข้างดี จริงๆ ไม่ใช่ดีแค่นนกุลอย่างเดียวแต่ตัวละครอื่นในเรื่องก็ดีมากๆ รวมถึงพี่ตี๋-บัณฑิต สินธนภารดีผู้กำกับ เราได้คุยกันตลอดในเรื่องเกี่ยวกับไอเดีย มันเลยยิ่งทำให้งานออกมาดี “
“ถามว่าการต้องเข้าบทกับนนกุลเขินไหมผมว่าซีรีส์วายก็เป็นอีกแขนงหนึ่ง เป็นแค่บทบาทหนึ่งที่ ไม่ได้คิดว่าเล่นกับผู้ชายแล้วเราต้องรู้สึกอะไร ไบร์ทรู้สึกว่าเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งมากกว่า อีกอย่างเราเวิร์คช้อปกันมาเต็มร้อยมากๆ เวลาทำงานด้วยกันมันรู้เองว่าเลเวลขนาดไหน อะไรยังไง และก็จะมีเต็มที่ ในความรู้สึกจึงรู้สึกสบายใจที่ได้ร่วมงานกัน”
สิ่งที่ละครอยากสะท้อนออกมาให้คนดูได้เห็น
คิดว่าคงเป็นเรื่องความต้องการการเปลี่ยนแปลง ความเท่าเทียม ทางชนชั้นวรรณะและความเท่าเทียมทางเพศ ในสมัยก่อนผู้หญิงไม่ได้รับการศึกษาเป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างเดียว หรือเราก็ไม่เคยเห็นผู้ชายที่ร้อนมาลัย ให้ข้อคิดที่ว่าอย่าเอาสิ่งต่างๆ มาจำกัด เพศไหนต้องทำแบบไหน”
ความสัมพันธ์ที่สนับสนุนกันและกันทำให้มทีแฟชชั่นในการทำงานต่อไป
“ไบร์ทคิดว่าเป็นขั้นเป็นตอนของมัน แรงกๆ เราก็มาเรียนรู้งานสั่งสมประสบการณ์ต่างๆ พอวันหนึ่งเราพร้อมเราก็รับบทเป็นตัวนำ อาจจะช้าหน่อยแต่ก็สมเหตุสมผลกับสิ่งที่ได้รับมา ถามว่าเคยท้อบ้างไหมก็มีบ้างครับนิดๆ หน่อยๆ แต่เราก็มีการเติมไฟให้กับตัวเองเรื่อยๆ อีกส่วนหนึ่งเลยไบร์ทมองว่าเป็นเพราะแฟนคลับด้วย เวลาเข้าไปเจอในทวิตเตอร์หรือไปออกงานมีคนให้กำลังใจเราเยอะ อันนี้เป็นสิ่งที่ดีมากช่วยให้เรายังรู้ว่ามีคนติดตามเราอยู่ เหมือนเป็นความสัมพันธ์ที่สนับสนุนกันและกันมันก็เลยทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานต่อ หายเหนื่อยไปเยอะมากๆเลยครับ”
คิดว่าคงเป็นเรื่องความต้องการการเปลี่ยนแปลง ความเท่าเทียม ทางชนชั้นวรรณะและความเท่าเทียมทางเพศ ในสมัยก่อนผู้หญิงไม่ได้รับการศึกษาเป็นแม่บ้านแม่เรือนอย่างเดียว หรือเราก็ไม่เคยเห็นผู้ชายที่ร้อนมาลัย ให้ข้อคิดที่ว่าอย่าเอาสิ่งต่างๆ มาจำกัด เพศไหนต้องทำแบบไหน”
Makeup:
ณภัทร อยู่วิจิตร
Naphat Yoovichit
@naphatnaphats_
Hair:
กิจกอบ ศิริอริสรา
Kitchakorb Siriaritsara
@misterkij
Location:
@Slōlē Cafe & Garden
@slolegarden