นิ้ง-ชัญญา

ชีวิตมหัศจรรย์ของ นิ้ง-ชัญญา  ในวันที่ต้องรับมือกับความเป็นความตาย 

Alternative Textaccount_circle
นิ้ง-ชัญญา
นิ้ง-ชัญญา

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะได้ชมแล้วสำหรับภาพยนตร์ภาคต่ออย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ แสงกระสือ 2 ที่เล่าถึงความรักต่างสายพันธุ์ โดยครั้งนี้หนึ่งนนักแสดงนำ นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ ได้มาเปิดใจกับแพรวถึงการทำงานตลอดจนชีวิตส่วนตัวที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นชีวิตที่มหัศจรรย์แม้ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นความตายตลอดเวลา

ทำไมตัดสินใจมาแคสท์เรื่องนี้?

“Presentation ของหนัง เรื่องย่อ Background character ของตัวละคร และ Profile ของทีมค่ะ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนิ้งคือตัวละครกระสือในภาคนี้มันสดใหม่มาก ความเชื่อความคิดมันน่าสนใจไปหมด เรากระหายบทที่เข้มข้น ในภาคนี้มันยังมีส่วนขยายของตัวกระสือที่เป็นเรื่องของ physical เข้ามาด้วย ซึ่งเราไม่เคยเห็นใครทำแบบนี้มาก่อนตรงนี้มันท้าทายในด้านการแสดงมาก ตัวละครนี้มีความต้องการหลายอย่างที่เรายังไม่เคยได้ทำ เราอยากเป็นคนสร้างชีวิตให้มันมากจริงๆ”

นิ้ง-ชัญญา

บท “สาว” ที่นิ้งได้รับ คาแร็คเตอร์เป็นอย่างไรบ้าง?

“สาว อายุ 19 ปี นิสัย ร่าเริง ใสซื่อ อ่อนโยน ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว บางครั้งสาวก็รู้สึกถึงความโดดเดี่ยวที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไป พ่อ (รับบทโดยพี่น้อย วงพรู) ก็หมกหมุ่นอยู่กับการหาคำตอบ ความสุขของสาวมีแค่ ดนตรี หนังสือ และ บทกวี เพราะมันคือสิ่งที่จะพาสาวออกไปในที่ไกลกว่าบ้านในป่า และถึงแม้สาวจะเป็นเด็กบ้านนอกที่อยู่ในป่าเขา แต่ก็มีความรู้รอบตัวและก้าวหน้ากว่าชาวบ้านทั่วๆไปจากการที่พ่อซื้อหนังสือมาให้อ่าน พอเข้าสู่วัยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ได้เจอคล้าวอีกครั้ง (รับบทโดย เจเจ) สาวก็มีความรักและความหวังขึ้นมาใหม่ พอดีกับปัญหาใหม่ที่จ่อรอจะเข้ามา พาร์ทของกระสือ สาวคิดว่าสิ่งที่อยู่ข้างในตัวเธอกับเธอก็คือสิ่งเดียวกันที่ไม่อาจแยกจากกันได้ แต่ก็มีพ่อที่เชื่อว่ามันคือเชื้อร้ายต้องกำจัดออกไปคัดค้านอยู่ เวลากลายร่าง สาวจะเหลือสติแค่ประมาณหนึ่ง หรืออาจจะจำอะไรไม่ได้เลย ในกรณีของสาวเป็นเคสพิเศษ เนื่องจากสาวได้รับเชื้อผ่านพ่อมันจึงเกิดการกลายพันธุ์เป็นกระสือพันธุ์ใหม่ที่แตกต่างจากภาคที่แล้ว สาวคุ้นชินกับมันมาตั้งแต่เด็ก พยายามเรียนรู้การควบคุมมัน แต่บางครั้งมันก็ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะตัวแปรอีกอย่างที่อาจจะทำให้สาวกลายเป็นกระสือที่ดุร้าย คืออารมณ์ เช่น โมโห โกรธแค้นหรือเสียใจ”

นิ้ง-ชัญญา 04

การทำงานครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“การมีทีมที่ดีจะทำให้เรื่องที่ยาก มันก็ยังคงยากแต่สนุก เขาไม่ต้องรับฟังความคิดเห็นหรือขอความคิดเห็นจากเราก็ได้แต่ทุกคนรับฟังกันและกันหมด คิวแรกที่ถ่ายทำนิ้งเจอ สัตว์ เด็ก เอฟเฟ็กต์ สลิง ครบ เรื่องนี้เราถ่ายฉากท้าย ๆ เรื่องกันก่อนอารมณ์เข้มข้นและก็เป็นพาร์ทมอนสเตอร์ซะเยอะ ขึ้นสลิง ขึ้น flying rig ใส่คอนแทคเลนส์ ฟันปลอม ชุดบอดี้สูท แปะจุดมาร์คเพื่อทำชีจี ผมใสวิก นิ้งไม่เหลืออะไรเลย มีแค่หน้าเท่นั้น (หัวเราะ) ตอนที่ถ่ายทำเป็นช่วงหน้าหนาวด้วย ชุดที่ใส่ก็บางมากหนาวสุดๆ โลเคชั่นที่นครนายก เป็นบ้านที่สร้างกันขึ้นมาใหม่อยู่ในป่า ต้องนั่งรถโฟวีลเข้าไป ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ อีกที่คือเชียงใหม่ เชียงใหม่เริ่มสบายขึ้นหน่อยค่ะ เป็นพาร์ทเที่ยวกับหนุ่มสดใส”

นิ้ง-ชัญญา 03

เรื่องนี้เหมือนพิสูจน์ความอดทนของนักแสดงเหมือนกันนะ?

“หนูคิดว่าหนูมีความอดทนค่อนข้างสูงนะ (หัวเราะ) พวก วิก ฟันปลอม คอนแทค ก็ต้องยอมเพราะมันช่วยในเรื่องการแสดงด้วย ส่วนการขึ้น flying rig หรือสลิง สนุกดี ตื่นเต้น เราชอบความท้าทายในส่วนของการแสดง นิ้งดีไซน์มูฟเมนท์การเป็นกระสีอด้วย เราดีไซน์อย่างไร และเอาไอเดียมากจากไหนในภาคนี้การกลายร่งของกระสือถูกออกแบบให้แตกต่างจากภาคที่แล้วในเชิง physical เราจะได้เห็นถึงกระบวนการถอดหัวและกลับเข้าร่างที่อ้างอิงมาจากสัตว์ต่างๆ รวมทั้งการเคลื่อนไหวอย่างเช่นแมงกระพรุน หรือปลาหมึก ภาคนี้คนเขียนบทตีความว่ามันเป็น Creature ที่ใช้ร่างมนุษย์เป็นรังแพร่เชื้อโดยน้ำลาย ก่อนแสดงเรามีการทำเวิร์คช้อปมอนสเตอร์ คลาส และเราก็ศึกษาการเคลื่อนไหวของสัตว์ต่างๆจากในสารคดี เอามาผสมๆกันเข้ากับสัญชาตญาณของเรา เรื่องนี้ใช้จินตนาการเยอะมากๆ”

นิ้ง-ชัญญา 05

ฉากที่ยากที่สุดคือฉากอะไร?

“เลือกยากเพราะยากหลายฉาก (หัวเราะ) ให้เลือกจริงๆคงเป็นฉาก หน้าห้องตอนกำลังจะกลายร่าง พาร์ทมอนสเตอร์เป็นพาร์ทที่ต้องใช้พลังเยอะ มีมูฟเมนท์ตลอดเวลา แล้วด้วยข้อจำกัดของเวลา เราถ่ายกันหลายซีนในหนึ่งวัน ซีนนี้ถ่ายเป็นซีนสุดท้ายในวันนั้นแล้วซึ่งเป็นซีนใหญ่ ถ่ายกันอยู่ 3 ชั่วโมงได้ แรงเราก็เริ่มหมด อารมณ์ก็ตึงเครียด ร่างกายก็ไม่ไหว กล้ามเนื้อขาเริ่มเกร็ง ตะคริวจะขึ้น ก็เลยต้องหยุดก่อนนิ้งเคยเล่นกับซีจีมาก่อนจากเรื่องอื่นมาแล้ว”

พอเรื่องนี้ได้เล่นกับซีจีอีกเป็นอย่างไรบ้าง?

“จินตนาการสำคัญที่สุดสำหรับการแสดงกับ C8 แต่นิ้งชื่นชมทีมโปรดักชั่นนี้มากนะ เขามีการทำ Mock up อะไรหลายอย่างขึ้นมาเพื่อเป็นไกด์ให้นักแสดงเห็นและรู้สึกจริงๆอย่างเช่นเส้นรยางค์ เขาพยายามทำให้ทีมงานทุกคนเห็นภาพตรงกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างก่อนที่เราจะถ่ายฉากต่อสู้ เขาขึ้น p reviz ทั้งซีนมาให้เรได้เห็นเลยว่าซีนนี้จะออกมาเป็นอย่างไรเจ๋งมาก พอเรได้เห็นภาพรวมทั้งหมดของซีน เราก็จะรู้ว่าแต่ละคัทเราจะต้องทำอะไร ส่วนตอนเป็นฉากกระสือเราแสดงเองหมดเรื่องนี้จะใช้นักแสดงจริงๆมาทำ SF X make up แสดงเอา เช่น ถ้าเป็นฉากที่เราเป็นกระสื่อ พี่น้อย เจเจ พี่เอม เขาจะได้เห็นเราร่างกระสือแสดงเป็นกระสืออยู่ตรงหน้าพวกเขาจริงๆ”

ร่วมงานกับเจเจ เป็นอย่างไรบ้าง?

“เรารู้จักน้องมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยทำงานร่วมกัน ก่อนถ่ายจริงเรามีการทำเวิร์คช็อปด้วยกันหลายครั้ง บางครั้งก็ลองซ้อมทำชีนในหนังเลยเพื่อให้ผู้กำกับเห็นภาพรวม และดูว่า Direction การแสดงนี้มันตรงกับสิ่งที่เขาต้องการไหม พอเราได้เวิร์คช็อปกันเยอะมันก็ช่วยทำให้เราคอนเนคกันมากขึ้น โชคดีที่น้องเจเป็นคนสบายๆ รับฟัง ตั้งใจ บางทีเราก็เสนอว่าเดี๋ยวเราจะทำแบบนี้นะ น้องก็รับสิ่งที่เราส่งไปและส่งบางอย่างกลับมา การมีพาร์ทเนอร์ที่ดีมันทำให้เราสนุกกับการทำงานมากๆ”

นิ้ง-ชัญญา 02

ร่วมงานกับพี่น้อย พรู เป็นอย่างไรบ้าง?

“พี่น้อยเป็นคนที่เราอยากร่วมงานด้วยมานานแล้ว เขาเป็นนักแสดงที่น่าสนใจ พอได้ทำงานกับเขาเราค้นพบว่าเขามีความเป็นศิลปินสูงมาก และเขาก็มีวิธีการทำงานที่ต่างไปจากเรา แรกๆไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่ก็พยายามทำความเข้าใจ ถ้าเขาเปลี่ยนไม่ได้ เราก็จะปรับให้เข้ากับเขา ก็ท้าทายดีค่ะภาคแรกค่อนข้างประสบความสำเร็จ”

พอมาเล่นภาค 2 เรากดดันไหม กลัวเรื่องการเปรียบเทียบหรือเปล่า?

“นิ้งว่ามันเป็นเรื่องของรสนิยม ซึ่งยังไงมันก็จะต้องมีความเห็นที่แตกต่างหลากหลายออกมามากมายอยู่แล้ว มันก็เป็นเรื่องของคนดูที่จะตัดสินใจ ในมุมเราหนังยังคงมีรสชาติที่คนดูเคยหลงรัก ทั้งความโรแมนติค และความเป็นมอนสเตอร์ แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยรสชาติใหม่ ให้เซอไพรส์ในทิศทางที่คาดไม่ถึง

การร่วมงานกับผู้กำกับ พี่ดี้ เป็นอย่างไรบ้าง?

“สบายใจ พี่ตี๋เก่ง เป็นคนมีวิสัยทัศน์ และเค้าคุยกับเราแบบพี่น้องรับฟังกัน การทำงานเป็นแบบ พี่ดี้กำกับครึ่งนึง และปล่อยให้เราแสดงอย่างอิสระอีกครึ่งหนึ่ง เขาจะเล่า sequence ในชีนนั้นให้เราฟัง และปล่อยให้เราแสดงไป ถ้าเขามีความต้องการอื่นเพิ่มขึ้นมาเขาก็จะบอกเอง บางอันที่เราเล่นขายๆไปแล้วเขาชอบเขาก็จะบอกว่าเขาชอบ เวลาเราแสดง เราจะมีเซนส์ประมาณหนึ่งนะว่าชีนนี้โทนมันน่าจะออกมาประมาณหน แต่ความประทับใจคือ มีวันหนึ่ง พี่ดี้ก็ส่งเพลงหนึ่งมาให้ เป็นทำนองเพลงญี่ปุ่นไม่มีเนื้อร้อง พี่ดื้บอกว่าอารมณ์ความรู้สึกสาวกับคล้าวมันโทนประมาณนี้ เราเก็ททันทีเลย ไม่ต้องพูดอะไรกันมากสำหรับเราดนตรีมันเป็นภาษาสากลมาก ทุกเพลงมักจะทำให้เรารู้สึกอะไรบางอย่าง มันเป็นเรื่องของพลังงาน เพลงนี้มันก็ทำงานอย่างนั้น”

คิดว่าเรื่องนี้โดดเด่นอย่างไรบ้าง?

“เป็นภาพยนตร์บันเทิงที่มีรสชาติหลากหลาย ไม่ประนีประนอม ในขณะเดียวกันก็มีความโดดเด่นด้านสุนทรียภาพเป็นอย่างมาก เป็นหนัง monster fantasy ที่มีความเป็นนุษย์อยู่สูง อีกอย่างใน แสงกระสือ 2 นี้จะทำให้คนดูมีภาพจำเกี่ยวกับกระสือและกระหังในรูปแบบใหม่ที่แตกต่างออกไปจากที่เคยมีมา อยากให้ทุกคนไปสัมผัสมันในโรงภาพยนตร์ เชื่อว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ”

ชีวิตมหัศจรรย์ในวันที่ต้องรับมือกับความเป็นความตาย

นิ้ง-ชัญญา 04

อัพเดทหลังผ่าเนื้องอกในสมอง ดูแลตัวเองยังไงบ้าง?

 “จริง ๆ ตอนหนูผ่าเสร็จตาหนูยังไม่เป็นปกติ เหมือนโฟกัสเลนส์กล้อง หมอบอกว่ามันจะหายภายใน 3 เดือน ถ้าไม่หายก็คือไม่หายเลย ก็โชคดีที่หาย หนูต้องผ่าอีก 2 รอบ มันไม่มีวันหาย ต้องผ่าไปตลอดชีวิต มันโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเราไม่สามารถเอามันออกได้ 100% เพราะเราโดนก้านสมองไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าขูดโดนก้านสมองแตกหนูก็ตายเลย อย่างทุกวันนี้ถ้ามันโตขึ้นมาไปโดนก้านสมองหนูก็ตายเลยเหมือนกัน ณ ปัจจุบันนี้ขนาด 2.1*0.8 ซม.”

นิ้งดูรับมือกับความเป็นความตายได้อย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน?

 “คิดว่าน่าจะเป็นเพราะทำอะไรไม่ได้ เราควบคุมไม่ได้ และการพยายามควบคุมในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้มันก็เสียเวลา ทุกวันนี้ 6 เดือนจะ MRI 1 ครั้ง แต่ปีที่แล้วไม่ได้ไป เพราะอยากไปเที่ยวก่อน เนื้องอกรอได้ ไปกระโดดเครื่องบิน 14,000 ฟุต ไม่ถามหมอด้วยว่ากระโดดได้ไหม เราทำอะไรไม่ได้จริง ๆ ถ้าเราส่องกระจกแล้วเห็นว่ามันโต เราคงกลัวค่ะ”

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตนิ้ง เราได้อะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง?

 “ทำให้เราอยู่กับปัจจุบันมากยิ่งขึ้นและทำวันนี้ให้ดีที่สุด อยากทำอะไรก็ทำ ตั้งแต่ก่อนผ่า เราอยากขอบคุณหรือบอกรักใคร นิ้งว่านิ้งบอกรักง่ายขึ้น ไม่ค่อยมานั่งท่าทีเยอะ อะไรเยอะ รู้สึกว่าชีวิตง่ายและสงบขึ้น แต่ยังเป็นเด็กช่างฝันช่างจินตาการอยู่ดี แต่ถ้าไม่ถึงก็ไม่เป็นไรเพราะวันนี้ทำเต็มที่แล้ว เพราะสุดท้ายแล้วเราไม่มีทางชนะในทุกวันได้”

รู้สึกเสียดายบ้างไหมว่าทำไมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ?

  “ไม่มีเศร้านะ อาจเศร้าในขณะที่มีเรื่องแย่ ๆเกิดขึ้นบ้าง แต่ประโยคคลาสสิคสุด ๆ คือ อะไรที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ นิ้งคิดว่าการคิดดีของเราต้องนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดีซิ”

รีวิวชีวิตตัวเองหลังจากที่เจอเนื้องอกและผ่านการผ่าตัดมาได้ให้ฟังหน่อย?

“ชีวิตหนูยังคงมหัศจรรย์เหมือนเดิม สิ่งที่หนูเคยขอไว้ก่อนรมยาสลบคือ ถ้าถึงเวลาของหนูแล้วก็ขอให้หนูไปภพภูมิที่ดีมีความสุข ร่ำรวย โลภด้วย แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาของหนูก็ขอให้มีชีวิตที่มหัศจรรย์กว่าเดิมและของให้มีแรงต่อสู้กับโลกใบนี้ต่อ ซึ่งหนูก็รู้สึกว่าชีวิตหนูก็ยังมหัศจรรย์เหมือนเดิม”

ช่วงที่ผ่านมานอกจากนิ้งต้องรับมือกับความเจ็บป่วยที่เข้ามา ชีวิตยังเจอมรสุมดราม่าต่าง ๆ อีก เราผ่านตรงนั้นมาได้ไง?

 “หนูว่าเวลามันช่วยนะ ตอนแรก ๆ ที่เจอปัญหาซึมเศร้าเลย ตื่นมาก็ร้องไห้คนเดียว จริง ๆ นิ้งก็มีพี่ชาย มีคุณพ่ออยู่เคียงข้างนะคะ แต่เราไม่อยากเอาพลังงานไม่ดีไปใส่คนอื่น แล้วนิ้งก็ไม่ได้เล่าทุกอย่างในชีวิตให้คนรอบตัวฟัง เรารู้สึกว่าชีวิตทุกคนต่างมีปัญหาอยู่แล้ว เราเป็นมนุษย์ที่พยายามจัดการกับตัวเองก่อน”

นิ้ง-ชัญญา 07

แต่คนที่เก็บทุกอย่างไว้ที่ตัวเองมันจะหนักนะ?

 “หนูเป็นคนเก็บสุด ๆ เลย ซึ่งกว่าจะผ่านมาได้ก็หนักอยู่ เหมือนเราเคยเป็นซึมเศร้ามาแล้ว มันแย่มากถึงขั้นจะกระโดดตึกแล้ว แต่เราก็ผ่านตรงนั้นมาได้ พอเราผ่านมันมาได้เหมือนเราเรียนรู้ตัวเองมากยิ่งขึ้น ข้อดีของการอยู่คนเดียวคือเราได้รู้จักตัวเองและคุยกับตัวเองมากยิ่งขึ้น รู้ Process ในการจัดการกับตัวเองว่าเป็นยังไง เช่น ถ้าเราเคยเป็นแบบนี้ ถ้ายังปล่อยไว้เดี๋ยวต้องเป็นซึมเศร้าแน่เลย ทรงมันมาแล้ว หนูก็จะพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้นด้วยการดูหนัง Feel Good ที่บางทีดูแล้วอาจไม่กู้ดเลย  เพลงที่เคยฟังแล้วแฮปปี้ก็ไม่แฮปปี้อีกต่อไป หรือแม้แต่การออกจากบ้านไปเจอคนจะยากมาก ๆ แต่เราก็พยายามอยู่ เพราะออกไปไปเผื่อมีอะไรดีขึ้น เช่น ไปวิปัสสนา ไปเต้นหรือทำกิจกรรมอะไรใหม่ ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองจมอยู่กับเรื่องไม่สบายใจค่ะ”

เป็นคนที่ค่อนข้างรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดี?

 “จริง ๆ ไม่อยากรับมือเลยค่ะ อยากมีชีวิตสวยหรูอยู่สบาย แฮปปี้ไปวัน ๆ ไม่อยากเจอเรื่องทุกข์ เรื่องเศร้า แต่ชีวิตหนูไม่เป็นแบบนั้นเลย ห่างไกลจากคำว่าสบายและสวยหรูสุด ๆ ตั้งแต่เด็กไม่มีเส้นทางไหนโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกอย่างต้องฝ่าฟัน หนูเป็นคนอยากมีชีวิตสงบมาก ๆ แต่ชีวิตสู้กลับตลอด ยิ่งต้องการความสงบเท่าไหร่ ยิ่งไม่สงบ เคยไปรับรางวัลที่ฟิลิปปินส์ จู่ ๆ ภูเขาไฟที่เคยสงบมา 43 ปีระเบิดอ่ะ สนามบินปิด เดินออกจากร้านอาหารฝุ่นขี้เถ้าฟุ้งเลย กะว่ารับรางวัลเสร็จจะไปเล่นเซิร์ฟต่อ ปรากฏว่าพอภูเขาไฟระเบิดก็เสี่ยงเจอสึนามิอีก แม่โทรมากลัวเรื่องสึนามิ เราก็ตอบแม่ว่าจะระวังตัวนะ แต่นิ้งตอบตัวเองว่าถ้าต้องตายตอนสึนามิ หนูก็คงเกิดมาเพื่อตายในสึนามินั่นแหละ ชีวิตมันลิขิตไว้แล้ว เรารับฟัง แต่ไม่ประมาทนะ เราเปิดหาข้อมูลเลยว่าถ้าเกิดสึนามิมาต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น จะเกิดปรากฏการณ์อะไรเตือนบ้าง ต้องปีนขึ้นที่สูง ไม่ใช่ว่าเราดื้อรั้น เอาแต่ใจ หาทางแก้ไขและรับมือ แต่ก็ยังคงทำทุกอย่างตามเป้าค่ะ เคยเจอเรื่องซวยมาก ๆ จนกลายเป็นเรื่องหัวเราะไหมคะ หนูขำจนตบเข่าเลยค่ะ”

คิดว่าสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตเราคืออะไร?

 “หนูเจอผู้ใหญ่ที่ดีเสมอ ผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส เมตตาหนู คนรอบข้างที่ดี ซึ่งคนเหล่านี้สอนอะไรหนูมากมาย หนูเป็นคนที่ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ชอบขอความช่วยเหลือคนอื่น จนพี่ที่รู้จักคนหนึ่งทักหนูว่าต้องรู้จักพิงคนอื่นบ้าง พ่อสอนเอาไว้ด้วย แล้วเราดูแลตัวเองมาตลอด ด้วยความที่หนูออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก หนูก็ต้องเรียนรู้ว่าพ่อมีชีวิตของพ่อ แม่ก็มีชีวิตของแม่ เราต้องยอมรับสิ่งนี้ใช่ไหม เราก็ต้องดูแลชีวิตตัวเอง ถึงเราจะห่างกัน แต่เราก็รักกันนะ ด้วยนิสัยบางอย่างที่ทำให้เรารู้ว่าพ่อและแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้ ถ้าหนูเอาแต่ความต้องการตัวเองให้เขาอยู่ด้วยกัน แล้วไม่มีความสุข หนูว่าการแยกกันอยู่มันดีกว่า จะได้ไม่ต้องทำร้ายจิตใจกันทั้งคู่ค่ะ เจ็บปวดกันเปล่า ๆ ค่ะ เวลามาเจอกันที ใจฟูจะคิดถึงกัน ตอนเด็กนิ้งเคยอยากอบอุ่นเหมือนคนอื่น ๆ นะ แต่พอโตมาเราเข้าใจว่าความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ยาก และยิ่งโตมาเราอยากให้ทุกคนมีความสุขของตัวเอง สุดท้ายแล้วอย่าไปยึดติดอะไรมากค่ะ”

นิ้ง-ชัญญา 06

ชีวิตรักตอนนี้ล่ะ?

 “โสดมาก”

หลายคนมองว่านิ้งก็หน้าตาดี ทำไมถึงโสด?

 “ไม่รู้อ่ะ แต่ก็ไม่ได้มีคนเข้าหาเยอะ ซึ่งก็ไม่มีนะ”

หรือบางคนอาจจะจีบ แต่ไปวางตัวเป็นเพื่อนหรือเปล่า?

“ไม่แน่ เพราะหนูเป็นคนที่ถ้าหนูไม่รู้สึกอะไรด้วย ก็คือจะวางตัวเป็นเพื่อนเลย แล้วเรามีเพื่อนผู้ชายเยอะตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ คิดว่าเขาคงดูท่าทีนิ้งแล้ว นิ้งคงไม่มีทางเป็นมากกว่านี้แน่นอน นิ้งรู้สึกว่าถ้าเพื่อนมาบอกชอบเรา เราคงอึดอัดแล้วเริ่มคิดมาก คงเกร็งใส่เขาค่ะ”

ผู้ชายที่มีเสน่ห์สำหรับเรา?

  “ใจดี ตลก นิ้งว่ามันเป็นเคมี จับต้องไม่ได้ สำหรับนิ้งก็คงแค่รู้สึกชอบคนนี้ แล้วก็ชอบคนที่รับผิดชอบ ทำงานเก่ง เพราะนิ้งดูแลชีวิตตัวเองมากอย่างดีมากกว่าจะโตมาขนาดนี้ หนูอยากได้คนดูแลนะ ไม่อยากดูแลคนอื่น แต่ก็ชอบดูแลคนอื่นนะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ หรือพี่น้อง งงไหมคะ จริง ๆ ก็อยากให้มีคนมาดูแลทางจิตใจ เวลาเราอยากได้ที่ซบค่ะ”

ฝากหนัง “แสงกระสือ 2” หน่อย ทำไมคนต้องไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้?

“เสน่ห์ของเรื่องนี้คือคนจะได้รู้จักกระสือมากยิ่งขึ้น ได้รู้จักตัวละคร “สาว” ที่นิ้งแสดงมากยิ่งขึ้น และเรื่องนี้ยังเต็มไปด้วยคาแร็คเตอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่มีปมทางใจ มีวิธีการจัดการของแต่ละคนในแบบของตัวเอง ซึ่งตรงนี้นิ้งว่าน่าสนใจว่าคนแบบนี้จัดการกับปัญหาของตัวเองอย่างไร มันเป็นมนุษย์มาก ๆ และในพาร์ทโปรดักชั่น ทุกอย่างเป็นงานคราฟท์จริง ๆ การเซ็ทฉากที่ตรงยุค การเลือกรายละเอียดต่าง ๆ ทุกอย่างถูกคิดมาแล้ว และไลน์อัพนักแสดงก็น่าสนใจ ไม่ควรพลาดที่จะชมในโรงภาพยนตร์วันที่ 30 มี.ค.นี้นะคะ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up