มัจฉา โมซิมันน์

มัจฉา โมซิมันน์ … Just Enjoy with it แค่ได้ทำสิ่งที่รัก ก็ประสบความสำเร็จแล้ว

account_circle
มัจฉา โมซิมันน์
มัจฉา โมซิมันน์

มัจฉา โมซิมันน์ นักร้องสาวมากความในวัย 23 ปี เจ้าของเพลงดัง Complicated, Just one night และซิงเกิ้ลล่าสุด ‘Closer’ ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ฟัง นอกจากจะเป็นศิลปินในสังกัดค่าย White Fox ในเครือ GMM Grammy แล้ว อีกด้านของเธอยังเป็นนักธุรกิจที่งานแน่นรัดตัวสุดๆ

มัจฉา โมซิมันน์ … Just Enjoy with it แค่ได้ทำสิ่งที่รัก ก็ประสบความสำเร็จแล้ว

มัจฉา โมซิมันน์

ถ้าใครได้ฟังเพลงมัจฉา จะรู้สึกว่าเป็นเพลงของผู้หญิงแกร่ง สไตล์Whatever’ คำถามคือ จริงๆ แล้วมัจฉาเป็นคนแบบไหน

“ที่จริงฉาเป็นคนเซนซิทีฟมากนะ อาจจะเพราะเกิดราศีกรกฏด้วย (วันที่ 16 กรกฎาคม 2542) ไม่ใช่สาว bitchy เหมือนในเพลงเลยค่ะ  ถ้ารักใครก็จะแคร์ความรู้สึกของคนนั้นมาก ทั้งครอบครัว เพื่อน ทำทุกอย่างให้เขาได้เลย”

ย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ ที่บ้านเลี้ยงดูมาอย่างไรคะ

“คุณแม่เป็นทั้งนักกีฬาและ Personal Trainer ท่านเป็นคนแอคทีฟจึงชอบให้ลูกๆ แอคทีฟไปด้วย วัยเด็กเลยได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งร้องเพลง เล่นเปียโน เทนนิส ว่ายน้ำ แต่สุดท้ายพอโตขึ้น ฉาก็จะเลือกเองว่าอยากจะทำอะไร ซึ่งคุณแม่คอยซัพพอร์ตหมด อย่างตอนอายุ 13 ก็ทำงานนางแบบเพราะเราอยากทำงานสายนี้ คุณแม่ก็สนับสนุน แต่ก็จะบอกเสมอว่า ‘ยูจะต้องตั้งใจเรียนนะ ถ้าไม่ตั้งใจเรียนจะไม่ให้ทำงานตรงนี้เลย’ แต่ฉาก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเรียนเพราะเราชอบเรียนหนังสืออยู่แล้ว”

การทำงานตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เสียประสบการณ์วัยเด็กไปบ้างไหม

“มีบ้างเหมือนกันที่เราพลาดบางโอกาสเช่น เวลาที่โรงเรียนจัดกิจกรรม หรือบางวันเราก็อยากไปเที่ยวกับเพื่อนนะ พอติดงาน ก็ไม่ได้ไปเศร้านะ ร้องไห้ก็มี แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ เพราะฉาชอบงานสายบันเทิงจริงๆ  ไม่เคยรู้สึกเหนื่อย ที่ผ่านมาอาชีพนี้ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ตลอด ได้ลองทำอะไรหลายอย่างเช่น เดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ได้ถ่ายละคร เล่นซีรีส์ จนตอนนี้ได้เป็นนักร้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉาชอบมากที่สุดและเป็นความฝันตั้งแต่เด็กแล้ว  การได้มาเป็นศิลปินคือประสบการณ์ที่สนุกมาก”

ในฐานะศิลปิน อยากทำแนวเพลงอื่นให้ต่างจากที่เคยทำไว้บ้างมั้ย

 “ที่จริงฉาชอบแนวเพลงที่ตัวเองทำอยู่แล้วนะ ทั้ง R&B, Pop, Hiphop แต่ที่อยากลองคือ ทำเพลงภาษาอังกฤษเต็มๆ แพลนไว้แล้วว่าจะทำแน่นอน”

เราเป็นนักร้องมา 2 ปีแล้ว อะไรคือเรื่องท้าทายที่สุด

“คือการเต้นไปด้วยแล้วก็ร้องไปด้วย เวลาเต้นก็เหนื่อยแล้วใช่มั้ยคะ แต่การที่จะเต้น และร้องเพลงให้เพอร์เฟคไปด้วย ยากเข้าไปอีก ไม่คิดว่าจะยากขนาดนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้บียอนเซ่ทำได้ยังไง เพราะเสียงไม่สั่นเลย เขาเก่งและร่างกายแข็งแรงมาก ฉาฝึกตัวเองด้วยการออกกำลังกาย เรียนเต้นและร้องอาทิตย์ละ 6 วัน ใช้วิธีวิ่งแล้วก็ร้องเพลงไปด้วย ทำให้เรามีพลัง ก็ช่วยได้นะ

“เมื่อก่อนเรื่องเต้นเป็นเรื่องยาก เพราะแขนขาวเรายาว เก้งก้างไม่เคยฝึกเต้นแต่เด็ก เต้นยังไงก็ไม่บาลานซ์ ตอนนี้ดีขึ้นมากส่วนเรื่องร้องเพลงฉาฝึกตลอด ไม่เคยหยุดเลย อยากพัฒนาทั้งการร้องและการเต้นให้ดียิ่งขึ้น เพราะเพลงใหม่ๆ ที่ร้องเสียงก็สูงมาก ยากที่สุดแล้วตั้งแต่เข้าห้องอัดมา”

แล้วเรื่องยากของศิลปินผู้หญิงในยุคนี้คืออะไร

“ฉารู้สึกว่า เพลงของเรามันนิชมากในตลาดไทย และไม่ได้เป็นเพลงภาษาไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ฟังยากว่า บางช่วงฉาร้องว่าอะไร บางคนอาจจะไม่เก็ท แต่ฉาก็รู้สึกว่า นี่คือสไตล์และตัวตนของเรา ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เพราะเป็นสิ่งที่ฉาเชื่อ ก็อยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ”

เวลาที่เหนื่อยจากการทำงาน อะไรที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น

  “คุณแม่บอกตลอดว่า อย่า give up แค่ยูได้ทำตรงนี้ก็มีโอกาสที่ดีมาก จะสำเร็จหรือไม่ ไม่สำคัญ เพราะ แค่ได้ทำสิ่งที่รัก ก็ประสบความสำเร็จแล้ว หากเหนื่อยแปบเดียวก็หาย มีแรงก็ทำต่อไป แค่ just enjoy with it มองในแง่บวกเข้าไว้ เลยรู้สึกว่า การได้มีโอกาสทำงานตรงนี้ก็ดีมากแล้ว เป็นสิ่งที่อยากทำมาตั้งแต่เด็ก มันไม่น่าเชื่อเลยว่าฉา ได้ทำทั้งเพลง ทั้งเอ็มวี มันคือสิ่งที่เรารักและชอบ ได้แสดงออกในสิ่งที่เราเป็นจริงๆ

 “สิ่งเหล่านี้เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ฉาอยากทำผลงานต่อไปเรื่อยๆ เวลาเราเห็นไอดอลที่ชอบ ได้แสดงผลงานของเขาออกมา เราก็อยากผลักดันตัวเองไปจนถึงจุดนั้น ทำให้ตัวเองมีพลังในการทำงานทุกวัน”

ไอดอลของมัจฉาคือใคร

          “ริฮานน่า กับ บียอนเซ่ ทั้งคู่คือสาวแกร่ง ฉาชอบอินเนอร์ของเขาด้วย อย่างบียอนเซ่คือตัวแม่ ทั้งท่าเต้น เสียงร้องและอินเนอร์ ทุกอย่างเพอร์เฟคมาก ฉาอยากแสดงได้ powerful แบบนั้น เพลงเขาอินสไปร์ให้ฉาอยากเป็นศิลปิน โดยเฉพาะ Crazy in love เปิดเพลงนี้ทีไรต้องเต้นทุกที เป็นเพลงที่ปลุกไฟในหัวใจของเรา ริฮานน่าก็เหมือนกัน”

นอกจากการเป็นนักร้อง มัจฉายังทำธุรกิจด้วย

          “ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉามีแบรนด์เสื้อผ้าสองแบรนด์ คือ Cha Collective เป็นเสื้อผ้าสไตล์เราเลย กับอีกแบรนด์คือ Sauce Court เป็นเสื้อผ้าสปอร์ตแวร์ นอกจากนี้ก็ทำเพจการกินและการออกกำลังกาย Diet society Thailand รวมถึงไอศกรีม Lavanille ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวด้วย ก็สนุกนะคะแต่เหนื่อยเหมือนกัน อย่างเสื้อผ้า ฉาต้องทำเองทุกอย่างตั้งแต่เรื่องของดีไซน์ ออกแบบ คุยกับช่างเย็บผ้า ช่างแพทเทิร์น ตอบลูกค้า ทุกอย่างเลยจริงๆ

“เพราะฉะนั้นเรื่องของการแบ่งเวลาคือสำคัญมาก แต่ละวันจะมี Checklist เขียนว่า ต้องทำอะไรบ้าง เพราะถ้าไม่เขียนไม่รู้จะทำอะไร ขนาดวันเขียนแล้วก็ทำไม่ครบ เพราะมีอะไรให้ทำเยอะมาก ถ้าว่างจากงานศิลปิน ฉาจะต้องดูโทรศัพท์ตลอด เพราะเราทำงานผ่านมือถือเป็นหลัก จนบางทีก็ปวดหัวเพราะอยู่กับมือถือตลอดเวลา แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ อย่างทุกวันตอน 6 โมงเย็น ฉาต้องคอยโพสต์งานตลอดทั้งสามช่องทางคือ ธุรกิจเราและทางไอจีของตัวเองด้วย เราก็จะยุ่งกับการหาคอนเทนต์ พอกลับถึงบ้านก็ต้องทำงานต่อกว่าจะได้นอนคือเที่ยงคืนค่ะ” 

ทำงานหนักขนาดนี้มีวิธีผ่อนคลายยังไงบ้าง

“คุณแม่สอนให้ทำสมาธิ เพราะบางครั้งมีหลายอย่างเข้ามาในหัวจนเราหยุดคิดไม่ได้ ฉาจะหาที่เงียบๆ นั่งสมาธิประมาณ 5 นาที ใช้เวลาไปกับความเงียบและหายใจ ส่วนวันอาทิตย์จะเป็นวันพักผ่อนที่ฉาไม่ทำอะไรเลย นอกจากอยู่บ้าน ดูทีวี สั่งของมากิน หรืออ่านหนังสือค่ะ อารมณ์แบบ Get Away from reality แล้ววันจันทร์ค่อยกลับมาทำงานใหม่ แต่ก็มีเหมือนกันนะ ที่บางวันจันทร์ก็ไม่อยากทำงานเลย ต้องเรียกพลังกลับมา”

ตอนนี้มัจฉาอายุ 23 ถ้าอีก 10 ปีข้างหน้ามองภาพไว้ยังไงบ้าง

“ตอนนี้ฉาขยันทำธุรกิจงานมากๆ เพราะคิดไว้ว่า อีก 10 ปีข้างหน้า อยากให้ธุรกิจเติบโต เราจะได้เป็นบอส ไม่ต้องทำอะไร มีทีมคอยทำให้เรา (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นถ้าอนาคตอยากเป็นบอส ตอนนี้ก็ต้องเหนื่อยหน่อย ส่วนงานเพลง แน่นอนว่า อยากทำไปเรื่อยๆ เหมือนบียอนเซ่ ริอานน่า ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเขาก็ยังร้องเพลงอยู่ค่ะ”


เรื่อง Fai ภาพ @warry_d_warry

Praew Recommend

keyboard_arrow_up