เจาะประสิทธิภาพของ Fernblock® เทคโนโลยีป้องกันแสงแดดที่กำลังมาแรง จากปากของแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของเมืองไทย นพ.วิชัย หงส์จารุ ผู้เคยร่วมงานกับผู้คิดค้นเทคโนโลยี Fernblock® Dr.Thomas Fitzpatrick บิดาแห่งวงการแพทย์ผิวหนังสมัยใหม่
หากจะพูดถึงตัวการร้ายที่ทำลายผิวของสาวๆ ชั่วโมงนี้คงต้องยกให้กับ “แสงแดด” ที่แผดเผาผิวจนหมองคล้ำ แถมยังส่งผลให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอย ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ อีกทั้งปัจจุบันที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยุคดิจิทัล “แสงสีฟ้า” จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการร้ายที่มาเสริมทัพทำลายผิวแบบไม่พัก
เพราะแบบนี้ แพรวดอทคอม จึงอยากพาสาวๆ ไปพูดคุยกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของเมืองไทย นพ.วิชัย หงส์จารุ หัวหน้าศูนย์ผิวหนัง โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ เพื่อทำความรู้จักกับ Fernblock® เทคโนโลยีป้องกันแสงแดดที่ได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ผิวหนังในปัจจุบัน
คุณหมอวิชัยรู้จักกับ Fernblock® ได้อย่างไร
“ผมเคยไปศึกษาและทำงานวิจัยที่ต่างประเทศ แรกเริ่มเดิมทีคือที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นก็ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นทุนของ Harvard Scholarship Program ที่ได้เข้าไปฝึกและทำงาน โดยเรียนรู้จากแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด 3-4 โรงพยาบาลในบอสตัน และในเวลาเดียวกัน ผมก็ได้รับทุนจากกระทรวงพลังงาน ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ศึกษาเรื่อง Photomedicine ซึ่งเป็นวิชาเกี่ยวกับแสงในทางการแพทย์ โดยหลักๆ จะเป็นเรื่องเลเซอร์ และแสงที่ทำลายผิวหนังทั้งหลาย
“ช่วงนั้นผมได้ทำงานกับอาจารย์แพทย์มากมาย โดยท่านที่มีความสำคัญมากคือ Dr.Thomas Fitzpatrick ซึ่งเป็น Founder of Modern Dermatology หรือบิดาของวิทยาการแพทย์ผิวหนังสมัยใหม่จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยท่านเขียนตำราเรียนให้แก่แพทย์ผิวหนังในปัจจุบัน เรียกว่าแพทย์ไทยทุกคนและทั่วโลกจะต้องเรียนตำราเล่มนี้ ขณะเดียวกันท่านยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Photomedicine ถือเป็นบิดาแห่งการฉายแสง การรักษาโรคสะเก็ดเงิน อีกทั้งท่านยังมีความสนใจเรื่อง Photoimmunoprotection ซึ่งเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเราให้มีปฏิกิริยาป้องกันแสงแดด จึงได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Fernblock®”
Fernblock® คืออะไร
“เทคโนโลยี Fernblock® มีต้นกำเนิดมาจากเฟิร์นชนิดหนึ่งที่อยู่ในอเมริกากลาง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Polypodium Leucotomos ซึ่งเดิมทีชาวบ้านในท้องถิ่นใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรค เช่น สะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ ภูมิแพ้
“กระทั่ง Dr.Thomas Fitzpatrick เข้ามาศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Fernblock® อย่างจริงจัง จึงพบว่าสารสกัดจากเฟิร์นชนิดนี้มีประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะคุณสมบัติเด่นอย่างกลไกการป้องกันแสงแดดด้วยตัวเอง ซึ่งงานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Fernblock® เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์กว่า 60 ฉบับ และถูกพูดถึงในงานประชุมวิชาการของแพทย์ผิวหนังระดับโลกทุกปี ไม่ว่าจะเป็น งาน AAD (The American Academy of Dermatology) งาน EADV (European Academy of Dermatology and Venereology) หรืองานประชุมแพทย์ผิวหนังของไทย”
Fernblock® ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างไร
“เทคโนโลยี Fernblock® มีประโยชน์ในการช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ไม่ว่าจะเป็น รังสียูวีเอ รังสียูวีบี พูดง่ายๆ คือช่วยให้ผิวของเราทนแสงแดดได้มากขึ้น และขณะเดียวกันก็มีผลวิจัยในระดับเซลลูลาร์ระบุว่า สารสกัดจาก Fernblock® สามารถซ่อมแซม DNA ของเราได้ เพราะมี DNA Repair และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นขั้นที่สูงมากกว่าที่เรากินๆ กันอยู่ด้วยซ้ำไป จึงกลายเป็นที่มาของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Fernblock® ในการป้องกันผลที่เกิดจากการทำลายของแสงแดด โดยนอกจากรังสียูวีเอ รังสียูวีบี รังสีอินฟราเรด แสงขาว ก็ยังรวมถึงแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ที่เรียกว่า แสงสีฟ้า ซึ่งเป็นแสงในกลุ่มพลังงานสูง หรือ HEV (High Energy Visible)
“สำหรับแสงสีฟ้านั้น ถือเป็น Digital Pollution ที่เราได้รับกันโดยไม่รู้ตัว จากการเล่นโซเชียลมีเดียผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ทำให้เป็นอีกต้นเหตุสำคัญของการเกิดฝ้าในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมามากมายว่า เทคโนโลยี Fernblock® สามารถป้องกันผลข้างเคียงที่เกิดจากแสงสีฟ้าได้ด้วย”
นอกจากช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว Fernblock® มีประโยชน์ต่อผิวอย่างไรอีกบ้าง
“เทคโนโลยี Fernblock® นับว่าเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันมากๆ เพราะนอกจากจะมีฤทธิ์ปกป้องผิวจากแสงแดดโดย Photoimmunoprotection และมี DNA Repair ที่ช่วยซ่อมแซม DNA ของเราได้แล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมี Anti-Pollution และ Anti-PM2.5 ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย ถือว่าเหมาะมาก โดยเฉพาะคนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำ
“นอกจากนี้ยังมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Fernblock® ในรูปแบบการกิน โดยระบุว่าสามารถรักษาฝ้าได้ ซึ่งมีการตีพิมพ์ผลการวิจัยโดยสถาบันโรคผิวหนังของประเทศสิงคโปร์ และอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก เรียกว่ามีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนมากเหมือนกัน”
หลังจากได้รู้จักกับเทคโนโลยี Fernblock® แบบละเอียดยิบกันไปแล้ว สาวๆ หลายคนคงสงสัยว่าแล้วจะหาเทคโนโลยีนี้มาใช้ได้จากที่ไหน แพรวดอทคอม จึงไม่พลาดนำครีมกันแดดที่มีเทคโนโลยี Fernblock® มาแนะนำกันตรงนี้ด้วย
นั่นก็คือ Heliocare 360 Fluid Cream (SPF50+ PA++++) ครีมกันแดดที่เริ่ดกว่าครีมกันแดดทั่วไป ด้วยคุณสมบัติหลักอย่างเทคโนโลยี Fernblock® ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ได้จดลิขสิทธิ์เป็นของแบรนด์ Heliocare
โดยความเริ่ดของ Heliocare 360 Fluid Cream ที่มีเทคโนโลยี Fernblock® คือสามารถป้องกันแสงแดดได้แบบ Full Spectrum ครอบคลุมทุกรังสี ไม่ว่าจะเป็น รังสียูวีเอ รังสียูวีบี รังสีอินฟราเรดจากไมโครเวฟ หรือแสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟน รวมถึงมีคุณสมบัติ Photoimmunoprotection ที่ทำให้ผิวแข็งแรง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวป้องกันแสงแดดด้วยตัวเอง
อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกแสงแดดทำร้าย เช่น ลดรอยแดง ลดจุดด่างดำ รักษาฝ้า รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง จึงช่วยชะลอปัญหาผิวแก่จากการถูกแสงแดดทำร้ายได้ แถมตอบโจทย์สาวๆ ยุคนี้แบบสุดๆ เพราะสามารถปกป้องผิวจากมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย
ความเริ่ดอีกอย่างของครีมกันแดด Heliocare 360 Fluid Cream คือสามารถใช้เป็นประจำได้ทุกวัน เหมาะสำหรับสาวๆ ผิวธรรมดาและผิวแห้ง เพราะเป็นครีมเนื้อนุ่มที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ไม่อุดตัน ใช้แล้วรู้สึกสบายผิว แถมยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระจ่างใส
และขอแอบบอกด้วยว่าแบรนด์ Heliocare ยังมีไอเท็มที่น่าสนใจตัวอื่นๆ ให้สาวๆ เลือกใช้อีกด้วย เช่น Heliocare 360 Water Gel ที่เป็นสูตรที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นด้วยสารสกัด Fernblock plus+ ที่ช่วยป้องกันแสงแดดได้เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8 เท่า นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ ไม่ระคายเคืองตา ป้องกันPM 2.5 และมีสารที่ช่วยบำรุงผิวให้ผิวชุ่มชื้น ตั้งแต่ 30นาทีแรกหลังทาและออกฤทธิ์ได้ยาวนานมากกว่า 24 ชม.
ส่วนคนหน้ามัน เป็นสิวง่ายต้องตัวนี้เลย Heliocare 360 Gel Oil Free นอกจากประสิทธิภาพกันแดดที่มีครบตามแบบฉบับ Heliocare 360 แล้ว ยังมี Silica Microspheres Matte effect ควบคุมความมันบนใบหน้า และมีสารช่วยลดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ดังนั้นคนหน้ามันหรือมีสิว เป็นสิวง่ายไม่ควรพลาด
ส่วนคนที่ต้องมีกิจกรรมออกแดดบ่อยขอแนะนำ Heliocare Ultra Gel SPF90 (SPF50+) กันแดดเนื้อเจลที่เหมาะสำหรับหนุ่มสาว ผิวผสมและผิวมัน รวมถึงผิวแพ้ง่าย ผิวหลังทำเลเซอร์ Heliocare Advanced Spray (SPF50) กันแดดแบบสเปรย์สำหรับผิวกาย และ Heliocare COLOR Cushion Compact (SPF50+ PA++++) คุชชั่นเนื้อบางเบาที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ทุกรังสี แถมกันน้ำกันเหงื่อได้ดี
สำหรับสาวๆ ที่ไม่ไหวจะโดนแสงแดดทำร้ายผิวกันแล้ว ก็สามารถตามไปหาซื้อ Heliocare 360 Fluid Cream ครีมกันแดดที่มีเทคโนโลยีป้องกันแสงแดดสุดเริ่ดอย่าง Fernblock® และไอเท็มอื่นๆ ของ Heliocare รวมถึงสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Heliocare ได้ที่โรงพยาบาลและคลินิกความงามชั้นนำทั่วประเทศ
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊กเพจ : Heliocare TH
อินสตาแกรม : heliocareendocareth
เวปไซต์ www.cantabrialabsthai.com
ไลน์ : @heliocare-endocare