เชอรี่ - เข็มอัปสร

ไม่มีงาน ไม่เป็นทุกข์! เชอรี่ – เข็มอัปสร กับโหมดใช้ชีวิตแบบ no วาบหวาม no เลิฟซีน

เชอรี่ - เข็มอัปสร
เชอรี่ - เข็มอัปสร

เชอรี่ – เข็มอัปสร หายหน้าไปจากจอทีวีอีกแล้ว?

หลังจากละครเลือดมังกร ตอนกระทิง จบลง เราก็แทบจะไม่ได้เห็นผลงานการแสดงของ เชอรี่ – เข็มอัปสร ดูเหมือนเธอตั้งใจทิ้งช่วงหายไปจากวงการเป็นปีๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกครั้ง สาเหตุเป็นเพราะอะไร ไปค้นหาความจริงกัน 

ช่วงนี้เชอรี่เริ่มหายหน้าหายตาไปอีกแล้ว

(หัวเราะ) จริงๆ ก็มีงานติดต่อเข้ามาเหมือนกัน แต่เพราะเชอรี่มีข้อจำกัดในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องบทวาบหวามหรือฉากเลิฟซีน ทำให้เสียโอกาสไปเยอะ เพราะบางบทดีมากเลย แต่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่แฮ็ปปี้ จึงขอเลือกที่จะปฏิเสธ เอาความสบายใจของตัวเองเป็นหลัก ของแบบนี้แล้วแต่คนนะคะ ถ้าทำใจได้ว่าสิ่งนั้นคือการแสดงก็โอเค แต่เชอรี่ไม่สามารถที่จะแยกได้ขนาดนั้นจริงๆ

ณ ตอนนี้เลยบอกไม่ได้เหมือนกันว่าจะมีผลงานอีกเมื่อไหร่ “กระทิง” อาจเป็นละครเรื่องสุดท้ายหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวว่าจะต้องเป็นแบบไหน เชอรี่ไม่ได้บอกว่าจะออกจากวงการหรือจะอยู่ต่อไป แต่ถ้ามีเรื่องที่เราอยากเล่นอีกก็อาจจะรับ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้อยู่ในช่วงใช้ชีวิตค่ะ (ยิ่ม)

เชอรี่ - เข็มอัปสร

เชอรี่บาลานซ์การใช้ชีวิตอย่างไรบ้างคะ
เชอรี่เชื่อว่าสมดุลในชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน การบาลานซ์ชีวิตของเราช่วงนี้น่าจะเป็นการให้เวลาเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อทำให้ทุกวันสมดุลกัน ระหว่างการดูแลตัวเอง คนที่เรารัก แล้วก็การทำงาน มันไม่ใช่วงกลมเล็กๆ หลายๆ วงที่เราวงให้เท่าๆ กัน เพราะวงกลมบางวงของเชอรี่ก็มีเล็กมีใหญ่สลับกันไป

ยอมรับว่าสิ่งที่เชอรี่ให้ความสำคัญ ณ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องงานแล้ว ในขณะที่บางคนที่มีวัยเท่าเชอรี่อาจจะมีงานเป็นหลัก เพราะเขาอาจจะเริ่มทำงานตอนอายุ 25 ปี แต่เชอรี่ทำงานมาตั้งแต่อายุ 15 ปีน่ะ รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตผิดที่ทุ่มเททำงานมาขนาดนั้น บ่อยๆ ที่มีคำถามเหมือนกันว่าเราทำไปขนาดนั้นเพื่ออะไร อยากได้เงิน อยากมีชื่อเสียงเหรอ ซึ่งคำตอบของเชอรี่มันไม่ใช่สิ่งเหล่านั้นเลย ทำให้คิดได้ว่าเราต้องหันมาจัดลำดับความสำคัญในชีวิตจริงๆ สักที เริ่มจากครอบครัว เพื่อน คนรัก ตัวเอง และสุดท้ายคืองาน เชอรี่เรียกทั้งหมดนี้ว่าเป็นการค้นหาสัจธรรมในชีวิต อยู่ในช่วงกอบโกยโมเมนต์จากหลายๆ สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่กับครอบครัว หรือไปเป็นวิทยากรรับเชิญตามที่ต่างๆ บ้าง ทุกอย่างที่เลือกในชีวิตตอนนี้ส่วนมากจะมีความหมายในตัวมันเอง ไม่ใช่สักแต่ว่าไปทำ หรือต้องฝืนใจทำให้เสร็จๆ ไป

เชอรี่ - เข็มอัปสร

เห็นรูปครอบครัวในไอจีเชอรี่แล้วดูเป็นบ้านที่ตัวติดกันมากๆ
ใช่ค่ะ เพราะเชอรี่สูญเสียคุณแม่ไปเมื่อตอนอายุ 21 ปี เรียกว่าเป็นเรื่องที่กระทบชีวิตแรงมากๆ ตอนนั้นทำงานแล้วก็เรียนอยู่ปี 4 ค่อนข้างหนัก ด้วยความที่ปฏิเสธคนไม่เป็นด้วย ขี้เกรงใจ ใครให้ทำอะไรได้หมด เราเลยต้องมาสลับชีวิตเอาเอง ทำให้ไม่มีเวลากับสิ่งอื่นๆ รวมถึงคุณแม่ เชอรี่ได้มาดูแลท่านก็ตอนที่ท่านอยู่โรงพยาบาลแล้ว เลยรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วละ ในเมื่อตอนนี้เราเหลือพ่ออยู่คนเดียวแล้ว เลยอยากแบ่งเวลาให้ท่านบ้าง

เชอรี่มาถึงจุดที่ว่าเราไม่จำเป็นต้องทำทุกงานที่เข้ามา บางทีตอนเด็กๆ เราเรียนรู้ที่จะพูดตรงๆ คนฟังก็อาจไม่ชอบ หรือตัวเราเองที่พูดออกไปก็อาจจะรู้สึกไม่ดี แต่พอยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งมีการปรับตัว รู้วิธีว่าควรจะพูดอย่างไรให้เขาไม่เสียใจและเข้าใจเรามากขึ้น เลือกทำแต่สิ่งที่ตัวเองสบายใจ อันไหนไม่โอเคก็ต้องรีบบอกเลย ไม่อยากเจอสภาวะว่าต้องทำงานที่ไม่ชอบแล้วมานั่งเสียใจทีหลังอีกแล้ว

เชอรี่ - เข็มอัปสร

แล้วชีวิตตอนนี้ทำอะไรบ้างคะ
เชอรี่จะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอาทิตย์ละประมาณ 5 วันเลย แล้วทุกเช้าต้องตื่นมานั่งสมาธิ หรือถ้าต้องออกไปทำงานเช้า ก็จะเปลี่ยนไปนั่งสมาธิช่วงกลางคืนก่อนนอนแทน ที่สำคัญ ต้องแบ่งเวลาให้การปฏิบัติธรรมด้วย เชอรี่ว่าเป็นเหมือนการเดินทางไปในจิตใจที่มหัศจรรย์มาก ทำให้เราได้รู้ได้เห็นการทำงานของใจจริงๆ

ระหว่างโลกธรรมะกับวงการบันเทิง แยกกันอย่างไรคะ
ช่วงแรกๆ เชอรี่แยกลำบากมาก ตอนกลับมาจากปฏิบัติธรรมก็จะรู้สึกว่าไม่อยากอยู่ในวงการนี้เลย ต้องพยายามเรียนรู้ที่จะยืนสองขาให้บาลานซ์กันให้ได้ อย่างหนึ่งเลยคือ เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับทุกอย่าง สมมติว่าอยู่ทางโลกแล้วไปเจอสิ่งที่ไม่ชอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะมู้ดดี้ อารมณ์เสีย แต่พอเรามีวิธีจัดการกับมัน ด้วยการยอมรับตามความเป็นจริง เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ก็มาเปลี่ยนที่ตัวเอง แค่นี้ก็ทำให้ทุกข์น้อยลงแล้ว

Absolute Sanctuary

มีเรื่องราวดีๆ จากการปฏิบัติธรรมมาเล่าสู่กันฟังไหมคะ
เชอรี่เจอแรงบันดาลใจจากรอบๆ ตัวเสมอค่ะ อย่างเวลาไปปฏิบัติธรรม เชอรี่จะไปที่เดิม เจอกับคนกลุ่มเดิมๆ เราก็จะรู้ว่าแต่ละคนทำอะไรบ้าง จนได้ไปรู้จักกับเจ้าของสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เดิมเป็นรีสอร์ต คุณแม่เขาเป็นคริสต์ ส่วนเจ้าของจากที่เคยซ่ามาก แต่พอได้ลองไปปฏิบัติธรรมก็ชอบมาก จนตอนหลังแม่เขาปิดกิจการ ไม่ทำรีสอร์ต แล้วยกที่ตรงนี้ให้ลูกไว้ทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเลย ชื่อว่าบ้านทิพวรรณ อยู่หัวหิน เขาให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมเป็นอันดับหนึ่งในชีวิต ทั้งในการจัดคอร์สหรือการสอนคนอื่น ทำให้เรารู้สึกว่าคนภายนอกที่มองเชอรี่อาจจะคิดว่าเราไปทำบุญบ่อยเนอะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราเทียบกับอะไร ถ้าเทียบกับคนที่ไม่ทำเลย เราก็อาจจะทำบ่อยกว่า แต่ถ้าเทียบกับคนที่เขาทำจริงจัง เรากลายเป็นเบบี๋ไปเลย เชอรี่เชื่ออย่างหนึ่งว่า ในเมื่อเรามาเจอสิ่งที่มีคุณค่าขนาดนี้ในวันที่ยังมีกำลัง ก็ควรทำสั่งสมเอาไว้
เพราะยังไงซะบั้นปลายก็คงหนีไม่พ้นธรรมะหรอกค่ะ

เรื่อง : apinya

ภาพ : Absolute Sanctuary

Praew Recommend

keyboard_arrow_up