account_circle“ทำความดีไม่จำเป็นต้องบอกใคร เราทำเพื่อความสุขภายในใจเราก่อน เดี๋ยวสิ่งดีๆ จะไหลมาที่เบื้องหน้าเอง ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ‘ปิดทองหลังพระ’”
คำพูดแมนๆ ของ ซิโก้ โค้ชฟุตบอลขวัญใจชาวไทย ที่ปวารณาตัวว่าจะอยู่กับฟุตบอล อยู่กับการทำประโยชน์เพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประเทศชาติจนกว่าจะหมดลมหายใจ
“ตั้งแต่เด็กผมเห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนักมาตลอด ทรงใช้กำลังความสามารถ และสติปัญญา จนไม่มีพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกทำเพื่อพสกนิกรได้มากมายเทียบเท่ากับพระมหากษัตริย์ของเราชาวไทยอีกแล้ว ผมจึงพยายามเล่นฟุตบอลเพื่อให้ติดทีมชาติ เพราะเหมือนกับได้ตอบแทนพระองค์ บางครั้งเราทำงานหาเงินเพื่อปรนเปรอตัวเอง จนลืมคิดว่าชีวิตไม่ได้ยืนยาว ทำไมเราไม่ทำอะไรเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ผมจึงคิดตลอดเวลาว่า ปัญหา อุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ หากเทียบกับที่พระองค์ทรงทำให้พสกนิกร ฉะนั้นเราต้องทำให้หนัก ให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้
“ผมตั้ง ‘มูลนิธิซิโก้’ ด้วยความตั้งใจว่า อยากสอนเด็กทั่วประเทศเตะฟุตบอล แต่พอเป็นโค้ชทีมชาติไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจได้เต็มที่ จนเมื่อ 2 ปีที่แล้วสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ชวนไปทำโครงการคลินิกฟุตบอลในถิ่นทุรกันดาร เป็นพื้นที่ในความดูแลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบ้าง โรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดนบ้าง หรือเดินตามรอยสมเด็จย่าฯ ช่วงไหนที่ผมไม่ติดภารกิจทีมชาติก็ร่วมเดินทางไปด้วย โดยนำสิ่งของไปร่วมบริจาคในนามมูลนิธิซิโก้ ภาพเด็กๆ ตื่นเต้นที่ได้เจอเรากับสต๊าฟโค๊ชทีมชาติ มาขอลายเซ็นและถ่ายรูป สะท้อนภาพตัวเองตอนเด็กที่อยากติดทีมชาติ จำได้ว่าอยากเจอคนดัง แต่เพราะเป็นเด็กต่างจังหวัดจึงหมดโอกาส ฉะนั้นวันนี้เมื่อเรามีโอกาสยืนอยู่ในจุดที่เคยฝันไว้ จึงอยากให้โอกาสนั้นกับเด็กต่างจังหวัดบ้าง ไม่ว่าเส้นทางลำบากแค่ไหนผมก็จะพยายามไป
“ทุกวันนี้ผมบอกน้องนักฟุตบอลว่า นอกจากพวกเราเล่นเพื่อแฟนบอลชาวไทยแล้ว ยังเล่นเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะไม่มีพระโอสถขนานใดที่จะทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ มีพระวรกายแข็งแรงได้เท่ากับทรงทอดพระเนตรชาวไทยสามัคคีร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขอให้ภูมิใจว่าเราคือ ส่วนหนึ่งที่จะทำให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ”
“ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ”
เรื่อง : Orasa