ไขความสำเร็จ 2 หญิงเก่ง แม่ลูกเจ้าของแบรนด์ S’UVIMOL

ด้วยการแตกไลน์กระเป๋าหนังสำหรับเด็กในนาม S’UVIMOL BABY กับการจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เราจะพาคุณไปสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของหัวเรือใหญ่อย่าง คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร คุณแม่ผู้บริหารมากประสบการณ์ และ คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม คุณลูกผู้รังสรรค์ผลงานชั้นยอด ผ่านบนสัมภาษณ์จาก 10 คำถามว่าทั้งสองคนมีแนวคิดอย่างไรในการใช้ชีวิต และการขับเคลื่อนแบรนด์ S’UVIMOL BABY

เราเริ่มสัมภาษณ์ คุณฝนด้วยคำถามที่เรียบง่ายว่า

แพรว : ความชื่นชอบ ความถนัดและความใฝ่ฝันในวัยเด็กส่งผลต่อการทำงานในปัจจุบันหรือไม่อย่างไร?

คุณฝน : ก่อนอื่นฝนขอบอกว่า ทุกวันนี้ฝนโชคดีที่ได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรัก จากผลของพรสวรรค์ทางด้านศิลปะที่่มีมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ งานประดิษฐ์ หรืองานประเภทดิจิตอลต่างๆ พรสวรรค์เหล่านี้ส่งผลให้อยากทำงานในด้านนี้โดยตรงค่ะ ซึ่งในการผลิตกระเป๋าแต่ละครั้ง ฝนใช้พรสวรรค์ที่มีผสมผสานกับทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญที่ได้จากการฝึกฝนเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการเป็นคนที่รักจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้เกิดผลงานที่ไม่ซ้ำซากจำเจ อีกอย่างคือพรสวรรค์ในวัยเด็กก็ส่งผลต่อการทำงานที่ฝนรักในปัจจุบันอย่างมากค่ะ

แพรว : ในงานอีเว้นท์เปิดตัวแบรนด์ครั้งนี้ คุณคิดว่าคู่แม่ลูกดาราคนดังคู่ใด เหมาะจะเป็นตัวแทนคู่แม่ลูกในแบบ S’UVIMOL BABY

คุณฝน : สำหรับฝนคิดว่ามีทั้งหมดสามคู่ด้วยกันค่ะ ทั้งคู่ของ คุณกบ สุวนันท์ กับน้องณดา ที่เหมาะจะเป็นตัวแทนของความหวาน สดใส ตามมาด้วยคู่ คุณพอลล่ากับน้องไลลา ที่เป็นตัวแทนความเปรี้ยว ความมั่นใจ และคู่สุดท้าย คู่ของคุณนานากับน้องบีน่า เหมาะสมที่สุดกับการเป็นตัวแทนของความแอ็กทีฟและความร่าเริง

 คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร
คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร

แพรว : หากจะหาคำจำกัดความให้กับ S’UVIMOL BABY จำนวน 3 คำควรจะเป็นคำใดบ้าง?

คุณแพร : คำเพียง 3 คำ ดิฉันคิดว่าคงจะไม่ชัดเจนเท่ากับประโยคเพียงหนึ่งประโยคที่ว่า “สุนทรียภาพสำหรับคุณหนู”

คุณฝน : สำหรับฝนแล้ว 3 คำที่ว่าควรจะเป็น “น่ารัก น่าใช้ ต้องมี”

แพรว : คุณแพรกับคุณฝนมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง?

คุณแพร : สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเรื่องของอายุ ซึ่งความแตกต่างทางอายุนั้นมีความสำคัญมากนะคะ เพราะจะทำให้เกิดความแตกต่างกันในเรื่องของประสบการณ์ชีวิต รวมถึงการมองโลกและความเข้าใจในชีวิตค่ะ แต่ก็มีสิ่งที่ดิฉันสู้ลูกไม่ได้ด้วย นั่นคือความสามารถทางศิลปะ ฝนเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะสูงมาก ซึ่งจริงๆแล้วดิฉันก็พอมีอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับลูกสาวแล้ว สู้ลูกไม่ได้แน่นอนค่ะ

แพรว : สิ่งของชิ้นใด ที่คุณแพรกับคุณฝนไม่สามารถขาดมันได้ เมื่อต้องก้าวออกจากบ้าน

คุณฝน : สำหรับฝนกับคุณแม่สิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอนที่สุดเลยคือกระเป๋า S’UVIMOL ค่ะ

แพรว : ในสงครามกระเป๋าที่นับวันยิ่งมีผู้ประกอบการมากขึ้นเรื่อยๆ อะไรเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ S’UVIMOL ได้รับชัยชนะอย่างสวยงาม

คุณแพร : สิ่งสำคัญประการแรกในเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นกระเป๋า ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ สิ่งนั้นก็คือ หนังจระเข้คุณภาพสูงที่เราสามารถผลิตได้เอง ทำให้เรามีความมั่นใจในการผลิตสินค้าว่ามีวัตถุดิบที่เพียงพอและไม่ขาดแคลน รวมถึงประสบการณ์ในกระบวนการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบจนไปถึงช่างที่มีฝีมือสำหรับการผลิตกระเป๋าคุณภาพดีออกมาให้ลูกค้า

คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม
คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม

คุณฝน : ฝนคิดว่ากุญแจที่สำคัญมี 3 ข้อด้วยกันคือ การที่เรามี Originality เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ทั้งด้านรูปลักษณ์โดยรวมของกระเป๋า การใช้โทนสี และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นการออกแบบขึ้นมาเองทั้งหมดโดยไม่ได้ลอกเลียนแบบใครทั้งสิ้น

เรามีความซื่อสัตย์กับ Standard ในกระบวนการผลิตสินค้าของเรา สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเลยคือ “คุณภาพ” เมื่อความต้องการทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ต้องเพิ่มกำลังในการผลิตมากขึ้นตาม
แต่เราก็ไม่เคยละทิ้งการคงไว้ซึ่งระดับคุณภาพของสินค้าเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งต้องพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก รวมทั้งมีความจริงใจต่อลูกค้า เรานำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีให้ลูกค้าอยู่เสมอ มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอย่างถูกต้อง และมีความรับผิดชอบต่อสินค้าที่เราผลิตขึ้นมา เช่น การเอาใจใส่ดูแลลูกค้ากับบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการดูแลกระเป๋าลูกค้า หากมีการชำรุดเป็นต้น

แพรว : อีก 10 ปีข้างหน้าคุณคิดว่า S’UVIMOL จะเป็นอย่างไร

คุณฝน : ในการทำแบรนด์กระเป๋า S’UVIMOL ไม่ได้ต้องการให้สินค้าของเรารองรับลูกค้าภายในประเทศเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่เราตั้งใจสร้างผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพสำหรับคนทั่วโลก และมุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในสินค้าประเภท Luxury ซึ่งหากชาวต่างชาติจะนึกถึงแบรนด์กระเป๋าชั้นสูงของไทยก็ยังไม่มี ต่างจากประเทศชั้นนำของโลกอย่างเช่น ประเทศฝรั่งเศสเรามักจะนึกถึง กระเป๋าแบรนด์ HERMES หรือ LOUIS VUITTON ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็จะนึกถึงแบรนด์ ISSEY MIYAKE เป็นต้น เราจึงอยากทำตรงนี้ให้ประสบความสำเร็จค่ะ ในอีก 10 ปีข้างหน้าจึงคิดว่า S’UVIMOL จะมีวางจำหน่ายหลายสาขาในทุกๆ ทวีป เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกค่ะ

แพรว : หากคุณฝนสามารถส่งข้อความถึงตนเองในตอนอายุ 10 ขวบได้ คุณฝนจะส่งข้อความนั้นว่าอย่างไร?

คุณฝน : ฝนจะส่งข้อความบอกกับตัวเองว่า “ให้เดินไปเลือกกระเป๋าหนังจระเข้ในตู้เสื้อผ้าของคุณแม่ แล้วเอาออกมาใช้ได้เลย เพราะคุณแม่มีกระเป๋าหนังจระเข้เยอะมาก”

แพรว : ICON คนใดที่คุณฝนชื่นชอบและนำเรื่องราวของคนๆ นั้นมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต

คุณฝน : คุณตาของฝนค่ะ คุณอุทัย ยังประภากร ผู้ก่อตั้งฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ สิ่งที่ฝนได้เรียนรู้จากคุณตา โดยนำมาเป็นข้อคิดในการทำงาน และใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตคือ คนเราต้องเข้มแข็ง ต้องเอาชนะใจตัวเองต่อการปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ชอบ ควรทำปัญหาใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ทำปัญหาเล็กให้หมดไป สุจริต สัจจะ อดทน อดกลั้น หากปฏิบัติได้ดังสามข้อนี้ ยังไงก็ต้องประสบความสำเร็จ และมีความสุขในการดำเนินชีวิต

แพรว : จาก S’UVIMOL สู่ S’UVIMOL BABY อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จนทำให้เกิดความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้

คุณแพร : ดิฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เสียงตอบรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้า ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆขึ้นมา ในการทำ S’UVIMOL BABY ออกมาเพื่อเด็กๆ นั้น ทำให้เราเกิดความสบายใจ และสุขใจ เหมือนเราได้สัมผัสกับความน่ารัก ความสวยงามของเด็กไปด้วย เพราะเด็กๆ มีความน่ารัก สดใส และเป็นความสวยงามของโลก

Praew Recommend

keyboard_arrow_up