“ที่บ้านเลี้ยงลูกค่อนข้างเข้มงวดมาก ทำอะไรต้องเป็นระบบกฏเกณฑ์ ไม่ได้บังคับว่าห้ามไปโน่นไปนี่ หรือต้องกลับบ้านตอนกี่โมงนะครับ แต่เขาจะสอนให้เราคิดเองว่าอะไรที่เหมาะสมมากกว่า แล้วทางบ้านก็ไม่ได้คาดหวังให้เราต้องมาสืบทอดกิจการ เขาเปิดโอกาสให้เราทำในสิ่งที่อยากทำ แต่มีบอกๆ ละว่าถ้ามีโอกาสก็อยากให้เรียนต่อ ตอนนี้ผมเลยมาช่วยธุรกิจที่บ้านเป็นหลัก คอยดูเรื่องตลาดว่าช่วงไหนเหมาะกับการเก็บสต็อก หรือช่วงไหนเหมาะกับการปล่อยสินค้า รวมทั้งคอยวิเคราะห์ตลาดทั้งหมดด้วย นอกจากนี้ก็มีไปเดินแบบ ถ่ายแฟชั่นลงแม็กกาซีนนิดหน่อยครับ
“ที่ผ่านมาก็พบว่าตัวเองชื่นชอบด้านแฟชั่นอยู่เหมือนกันครับ เพราะพี่สาวทำด้านมาร์เก็ตติ้งอิมพอร์ตแบรนด์ต่างๆ เข้ามาเมืองไทย เขาก็ช่วยผมแต่งตัว หรือให้คำแนะนำมาตลอด ซึ่งโดยส่วนตัวผมชอบแต่งตัวแนวสตรีท ใส่เสื้อหลวมๆ ไม่พอดีตัว กับกางเกงขายาวเรียบๆ แบรนด์ที่ชอบมากคือ Calvin Klein เพราะสามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นงานทางการ หรือวันสบายๆ แล้วผมก็ชอบซื้อรองเท้าผ้าใบมากๆ มีหลายสิบคู่ เอาไว้ใส่วิ่งออกกำลังกาย
“เมื่อก่อนผมตัวใหญ่มาก เป็นเด็กอ้วนเลยละ เคยหนักมากสุดร่วม 100 กิโลกรัม เพราะกินเต็มที่และไม่เคยออกกำลังกายเลย เพิ่งมาออกกำลังช่วงเข้ามหาวิทยาลัยนี่เอง ส่วนเรื่องลดน้ำหนักก็เพิ่งจริงจังตอนช่วงก่อนที่จะรับปริญญาครับ เรียกว่าเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตไปเลย ต้องออกกำลังกายให้ได้อย่างต่ำอาทิตย์ละ 4 วัน วันละ 2 ชั่วโมง โดยเล่นคาดิโอเบิร์นไขมันสลับกับเล่นเวทให้ตัวกระชับ พยายามบาลานซ์กัน ใช้เวลาไม่ถึงปีก็สามารถนลดน้ำหนักลงมาได้เกือบ 30 กิโลกรัม ส่วนกล้ามเพิ่งจะมาเล่นหลังจากที่ลดน้ำหนักลงมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เพราะช่วยให้ผิวเฟิร์มไม่เหลว
“ตอนนี้ผมเลยติดออกกำลังกายไปแล้ว เรียกว่าขาดไม่ได้เลยครับ”
เรื่อง : apinya