‘อีแย้ม’ จบ…แต่ ‘รัดเกล้า’ ไม่จบ…พร้อมเผยนี่แค่เริ่มต้น!

นาทีนี้บทบาทการแสดงที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอีแย้ม’ จากละครเรื่อง สุดแค้นแสนรัก’ ซึ่งรับบทโดย ต๊งเหน่งรัดเกล้า อามระดิษ’ ที่สามารถเนรมิตเสียงได้แทบทุกแบบ จนกลายเป็นเจ้าแม่แห่งเสียงสปอตโฆษณา เสียงภาคหนัง และเสียงประกาศบนรถไฟฟ้าบีทีเอส เธอโลดแล่นอยู่ทั้งในวงการเพลง และการแสดงมานานหลายสิบปี และเป็นคนทะลายค่านิยมของคำว่านักแสดงต้องหน้าตาดี เธอเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างคนบันเทิงที่ไม่จำเป็นต้องมีแฟนคลับ หรือคู่จิ้น เพราะถ้ามีคุณภาพจริง ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถมีชื่อเสียงได้เหมือนกัน… นี่สิของจริง!

_MG_3004 copy

ทราบมาว่าเคยโดนล้อว่าเป็นแก้วหน้าม้ามาตั้งแต่เด็กๆ

ใช่ค่ะ โดนเพื่อนๆ ล้อมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะตอนนั้นเรายังไม่ได้มีอาชีพในวงการบันเทิง ก็เฉยๆ ค่ะ หลายคนบอกว่าทำไมไม่ดัดฟัน บอกเลยว่าดัดแล้วค่ะ แต่ด้วยดีเอ็นเอที่ได้มาจากพ่อแม่เราเป็นแบบนี้ เราฟันยื่นกันทั้งบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นยีนส์เด่น จึงไม่รู้สึกว่าเป็นปมอะไร แค่ที่เราเกิดเป็นลูกคุณพ่อคุณแม่ และท่านได้มอบเสียงแบบนี้ให้เราสามารถใช้ประกอบอาชีพได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ทำไมจะต้องเรียกร้องอะไรจากท่านอีก

แล้วก่อนที่จะรับบท ‘อีแย้ม’ ตัดสินใจอยู่นานไหมคะ

ด้วยความที่เคารพนับถือ ‘แม่จิ๋ม-มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช’ กับ ‘พี่หนุ่ม-กฤษณ์ ศุกระมงคล’ อยู่แล้ว เลยอยากทำงานกับทั้ง 2 ท่าน บอกตามตรงว่าตอนได้บทมาก็ส่งให้ผู้จัดการอ่านก่อนเลย เพราะตอนนั้นยุ่งมาก อ่านแค่คร่าวๆ ว่าจะต้องเล่นร้ายตั้งแต่ช่วงอายุ 30 ปลายๆ ไปจนถึงอายุประมาณ 70 ปี แรกๆ ยอมรับว่าเครียดมาก กลัวเล่นไม่ถึง ก็ต้องทำการบ้าน เพื่อที่จะไม่ต้องไปเสียเวลาหน้างาน แต่พอไปถึงหน้าเซ็ทจริงๆ ก็ยังต้องแอบดูบทอยู่ เพราะสมองไม่ไวพอที่จะจำแค่คีย์เวิร์ดหรือจำแค่ประเด็นที่ต้องการพูด แล้วพูดด้วยคำของตัวเอง คิดไม่ออก สมองไม่ไวขนาดนั้น จึงขอท่องไปเลยดีกว่า บวกกับ พี่ยุ่น ยิ่งยศ อุตส่าห์เขียนบทมาให้ดีมากแล้ว เราก็อยากที่จะรักษาคำเหล่านี้ไว้ เพื่อที่เวลาเป็นแย้มจะได้ตรงตามที่เขาต้องการ

_MG_3003 copy

เห็นว่าต้องทำการบ้านหนักพอสมควรเลยใช่ไหมคะ

ทำการบ้านหนักมาก คือตัวแย้มเป็นคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือมาก เวลาพูดก็จะไม่ค่อยระมัดระวัง เน้นปล่อยตามธรรมชาติ ส่วนคำด่าก็ปล่อยตามอารมณ์ของตัวละคร แล้วเราก็คิดต่อว่าคนที่เขาไถนา เลี้ยงควาย เวลาเหนื่อยอยากจะนั่งพักต้องนั่งท่าแบบไหน เวลานั่งกินข้าวกับพื้นต้องนั่งอย่างไร ด้วยลักษณะนิสัยของแย้มที่ใจนักเลง เป็นคนโผงผาง และเป็นคนเปิดเผย แย้มคงจะไม่นั่งพับเพียบตลอดเวลาแน่ๆ ก็พยายามคิดและหาท่านั่งของตัวเอง หรืออย่างเสียงของแย้มเองก็ไม่ได้ใช้เสียงพูดของรัดเกล้า หรือเสียงที่อัดสปอต คิดว่าเวลาคนด่า ลักษณะเสียงที่พูดน่าจะต้องไม่ใส่ใจกับการใช้เสียงมาก เป็นสาเหตุให้เสียงที่ออกมาจะเป็นอีกเสียงหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เสียงธรรมชาติของเรา บางทีตะโกนด่ามากๆ จนเจ็บคอจึงรู้สึกว่าใช้เสียงเปลืองมาก

ในแต่ละวันที่ถ่ายคือคิวค่อนข้างแน่น

แน่นค่ะ เพราะน้องธุรกิจกองถ่ายก็จะพยายามจัดคิวให้คุ้ม ไปหนึ่งวันก็อยากให้ถ่ายได้เยอะๆ บางวันสมมติถ่ายทั้งหมด 22 ฉากก็จะบทอีแย้มปาเข้าไป 18 ฉากแล้วบทยาว 2 หน้า เล่นกันจนสมองบวมเลย เพราะแย้มก็เป็นคนพูดเยอะอยู่แล้ว บางทีเล่นเยอะจนสติแตก โดยเฉพาะฉากที่ต้องร้องไห้ มีวันหนึ่งเป็นเวลาที่ใกล้จะเลิกกองแล้ว ประมาณ 4 ทุ่ม ทีมงานทุกฝ่ายเริ่มทยอยเก็บของกัน คนที่ไม่ทราบจะคิดว่าเวลาถ่ายทุกอย่างต้องนิ่งสงบ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย หลังกล้องนี่สับสนวุ่นวายมาก ทั้งยกตู้ ย้ายโต๊ะ เสียงดังสุดๆ แล้วเราก็ต้องการสมาธิ เลยต้องขอตัวไปเข้าห้องน้ำอยู่เงียบๆ พยายามเรียกสมาธิกลับมาให้ได้เร็วที่สุด เพราะทีมงานทุกคนก็คงอยากกลับบ้านกันแล้ว ซึ่งจะเป็นเฉพาะวันนั้นวันเดียว เพราะหนักมาตั้งแต่เช้าแล้ว ปกติทีมงานจะรู้อยู่แล้ว ก็จะพยายามนิ่งเงียบให้เรา จะมีก็แต่นักแสดงกันเองนี่แหละที่ทำให้สมาธิแตก พอสั่งคัทปุ๊ปก็เล่นเลย เพื่อผ่อนคลายตัวเอง

_MG_3010 copy

แล้วบรรยากาศในกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้างคะ

สนุกมากค่ะ เพราะฝ่ายนักแสดงหญิงทุกท่านล้วนเป็นนางเอกมากฝีมือทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น พี่แหม่ม จินตรา, เบ๊นซ์ พรชิตา,โดนัท มนัสนันท์,น้ำฝน กุณณัฏฐ์ แล้วก็ญาญ่า หญิง ซึ่งในเรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว ทุกคนน่ารักมาก แล้วตั้งใจทำงานกันมาก เป็นนักแสดงอาชีพมานาน ทุกคนรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง ทำให้ทำงานได้ลื่นไหลอย่างรวดเร็ว อารมณ์ค้างกับบทนี่ไม่ค่อยมี หรือผิดคิวที่เป็นคิวบู๊หรือแอ๊คชั่นนี่ก็ไม่มี แต่จะมีขำเวลามีคนพูด หรือว่าทำอะไรผิดอย่าง บอย พิษณุ เล่นเป็นลูกชื่อประยูร แล้วก็มีลูกชื่อ ปวริศ ในฉากก็นั่งกินข้าวกัน แล้วเราก็ดันเรียกชื่อผิดเป็น ปวรุต… ทีนี้ผู้กำกับไม่สั่งคัท เราก็ต้องเล่นต่อไป แต่ในใจรู้แล้วว่าพูดผิด แล้วทุกคนก็ต้องกลั้นขำกัน พอผู้กำกับสั่งคัทเท่านั้นแหละ ฮากันกระจาย ตัวบอยเองก็เป็นคนตลกอยู่แล้ว ชอบพูดผิดอยู่เสมอ เลยช่วยทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงมาก

บท “อีแย้ม” ดังตู้มต้ามขนาดนี้ มีความกดดันในการรับบทต่อๆ ไปไหมคะ

จริงๆ ในฐานะนักแสดง เมื่อเราสวมบทตัวละครแต่ละตัว เราเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง เเละจบเมื่อละครจบ ส่วนตัวมีความเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนไม่มีใครเหมือนกัน 100% แฝดก็ยังไม่เหมือนกันเป๊ะ เพราะฉะนั้นตัวละครก็ไม่มีตัวไหนที่เหมือนกัน เป็นไปได้ยากมาก ดังนั้นโจทย์ของเราจึงน่าค้นคว้าอยู่เสมอ ในฐานะนักแสดงอาชีพ ถ้าเราได้ค้นคว้าในสิ่งที่อยู่ในโซนที่แตกต่างกันออกไป มันก็น่าสนใจ น่าสนุกกว่า เรียกว่ามีความสุขที่ได้ทำงานที่รัก ในขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงคนดูว่าเขาจะได้รับความสุข หรือรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เราทำหรือเปล่า อยากให้เขารับสารที่เราต้องการจะบอก ซึ่งคุณผู้ชมคงไม่อยากจะกินเผ็ดซ้ำๆ บางทีเปลี่ยนไปกินเปรี้ยวบ้าง หวานบ้างน่าจะดีกว่า ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ณ ตอนนี้ยังไม่อยากจะรับบทร้ายที่มีลักษณะใกล้เคียงแบบนี้อีก แต่ถ้าร้ายแบบอื่นก็ค่อยว่ากันค่ะ
_MG_3016 copy

บทอีแย้มเปลี่ยนชีวิตไปเยอะไหมคะ

ที่เห็นชัดเจนเลยก็คือ มีคนจำได้เยอะขึ้น จากเมื่อก่อนเป็นนักร้องคนก็คุ้นชินกับเราตอนแต่งหน้าแต่งตัว ซึ่งชีวิตปกติจะไม่แต่งหน้าแต่งตัวเลย ทำให้ไม่มีคนจำได้ ชีวิตก็สงบสุข ไปไหนมาไหนสบายๆ แต่ว่าเนื่องจากบทแย้มก็แต่งหน้าน้อยมาก ซึ่งใกล้เคียงกับชีวิตจริง ดังนั้นไม่ว่าเราจะโทรมแค่ไหนก็มีคนจำได้ ปกติถ้าสระผมเสร็จก็จะออกจากบ้านมาทั้งหัวเปียกๆ แบบนั้นเลย ใส่แว่นตา หน้ามัน แต่คุณผู้ชมน่ารักมาก ยังอุตส่าห์จำได้ ก็แอบรู้สึกเหมือนกันนะว่าขนาดโทรมน่าเกลียดขนาดนี้ยังอยากถ่ายรูปกับเรา ดีใจ ชื่นใจ และขอบคุณมากๆ อย่างวันนี้ใส่เสื้อยืดสีขาวตัวเก่ง ก่อนออกจากบ้านคุณแม่ทักเลยว่าไม่สงสารคนที่มาขอถ่ายรูปด้วยเหรอ(หัวเราะ)

แหม…บางทีเราก็อยากสบายตัวบ้างนะ แล้วก็มีผู้ชายแท้ๆ ตั้งแต่วัยทำงานแล้วไปจนถึงวันชราชอบเข้ามาขอถ่ายรูป บางคนอินมาก มีป้าคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่าอย่าเพิ่งไปไหน แล้วก็ไปดึงตัวสามีมาแล้วบอกว่า เนี่ยติดกว่าป้านะ…ไม่ดูไม่ได้เลย หงุดหงิด!ด้านคุณลุงก็วิจารณ์แหลก อินมากๆ ส่วนเด็กๆ ก็มีเยอะ โดยส่วนตัวรู้จักธัญญาเรศอยู่แล้ว สนิทกันเพราะเราปีนผ้าด้วยกัน วันหนึ่งลูกสาวธัญญาก็วิ่งมากอดขา แล้ววิ่งกลับไปหาคุณแม่ พูดว่า แม่ๆ…หนูจะถ่ายรูปกับอีแย้ม น่ารักมากกก (ลากเสียงสูง) ธัญญ่าเล่าให้ฟังทีหลังว่าปกติลูกไม่เดินมาหาใครก่อนนะ ก็ตลกดีค่ะ

Screen Shot 2558-05-29 at 1.38.58 PM

แล้วตอนนี้มีละครเรื่องใหม่ติดต่อมาหรือยังคะ

“มีเรื่อง “เรือนประดับดาว” ของโดนัท (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) ซึ่งเป็นทั้งผู้จัด และผู้กำกับด้วย คือเราร่วมงานกันในละครเรื่องสุดแค้นแสนรัก แล้วก็นั่งรถกลับมาด้วยกัน ก็คุยกันว่าโดกำกับหนังสั้นมาแล้ว ถ้าพี่มีโอกาสขอให้พี่ได้เล่นภายใต้การกำกับของโดบ้างนะ เพราะเราก็ทราบมาว่าเขาเป็นผู้กำกับที่เก่ง โดบอกโอเคๆ แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกับทีมงานว่าบทนี้ให้พี่ต๊งเหน่งเล่นนะ เราก็โอเคตกลง จบ แต่เล่นอะไรไม่รู้ รู้คร่าวๆ แค่ว่าเป็นแม่พระเอก ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ตอนนี้ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ (หัวเราะ) ทราบแต่เขาเปิดกล้องถ่ายพระเอกนางเอกไปแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ถ่ายเรา

ทุกวันนี้ก็พยายามจะรับละครเรื่องต่อเรื่องนะ ยกเว้นมีไฟล์ทบังคับ แบบงานบุญคุณต้องมาก็จำเป็นต้องทำ ช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะส่วนงานใช้เสียงก็มีเรื่อยๆ วันนี้ 12-30 มิถุนายน จะมีละครเพลงเรื่อง ‘แผ่นดินของเรา เดอะมิวสิคัล’ แล้วก็วันที่ 19 มิถุนายนกับงานคอนเสิร์ต ‘บีเดย์ แดนซ์ ปาร์ตี้’

Screen Shot 2558-05-29 at 12.32.52 AMมาพูดถึงเรื่องการออกกำลังบ้างดีกว่า เห็นว่าช่วงนี้กำลังบ้าปีนผ้ามาก

จริงๆ เป็นคนอยู่ไม่นิ่งมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วชอบวิ่งเล่น ชอบขอคุณแม่ไปทำกิจกรรมวันเสาร์-อาทิตย์  ทั้งเรียนดนตรี เต้นรำ ว่ายน้ำ เทนนิส เป็นคนชอบใช้พลังงานมาตั้งแต่เด็ก จึงค่อนข้างชอบอะไรที่ผาดโผด บวกกับมีโอกาสไปเรียนยิมนาสติกนิดหน่อยแล้วก็เห็นครูเล้งปีนผ้าในรายการหนึ่ง รู้สึกว่าน่าสนใจมากเลย จนได้มีโอกาสเจอตัวจริง แกก็ชวนให้ไปเล่น แต่ด้วยความที่เราทำงานก็ไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่ เดือนหนึ่งได้ไปครั้งเดียว หรือบางทีก็สองอาทิตย์ครั้ง จริงๆ อยากปีนทุกวันเลย แต่ทำไม่ได้ เพราะต้องทำงานด้วย

ยอมรับว่าดูแลรูปร่างบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดต้องเป๊ะ เพราะเราไม่ใช่คนมีวินัยขนาดต้องกินคลีนฟู้ดตลอดเวลา จริงๆ ก็อยากเป็นแบบนั้นนะ แต่ทำไม่ได้ เพราะถ้าเจอของกินก็มีกิเลสมาเสมอ กินก่อนเลย บังคับใจตัวเองไม่ได้ ด้วยความที่เป็นคนชอบกินมากๆ กินเยอะ กินของไม่มีประโยชน์ด้วย อย่าง ขาหมูคากิ เค้ก บุฟเฟ่ห์นี่ยิ่งชอบมาก กินคุ้มสุดๆ ก็พยายามจะลิมิตตัวเองให้ได้ในระดับหนึ่งที่ไม่ต้องเดือดร้อนฝ่ายเสื้อผ้า เพราะเขาต้องมานั่งแก้ให้เราตลอด สงสารน้อง เมื่อไหร่ที่ใส่เสื้อไม่ได้แล้วก็ต้องบังคับตัวเอง เพราะงานต้องมาก่อน

Screen Shot 2558-05-29 at 1.42.46 PM

ภายนอกต้งเหน่งดูเรียบร้อย อ่อนน้อมและแบ๊วมาก แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนค่อนข้างจริงจังกับทุกสิ่งจริงหรือเปล่าคะ 

ตัวจริงถ้าใครได้รู้จักจะรู้ว่าคิขุอาโนเนะมากค่ะ (หัวเราะ) แต่ในทางกลับกันก็จะซีเรียสเวลาทำงาน จริงๆ อีแย้มกับตัวเองมีอะไรที่คล้ายๆ กันนะคือ มีความจริงจังเหมือนกัน เราจะจริงจังกับทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะเรียนก็ต้องให้ดีที่สุด ทำงานก็ต้องให้สุดเช่นเดียวกัน หรืออย่างงานอดิเรกบางอย่างก็ไปจริงกับมัน แทนที่จะทำแล้วรู้สึกผ่อนคลายก็กลายเป็นว่าไม่ใช่แล้ว แย้มก็เหมือนกันค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าใครมารับบทนี้ก็ต้องถูกพูดถึง เพราะบทค่อนข้างแรง แล้วบังเอิญเป็นเราที่ได้เล่น ทั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างทีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วเดี๋ยวก็ดับไป ช่วงนี้ละครยังฉายอยู่ ก็คงจะมีคนพูดถึงเป็นธรรมดา

แต่อาทิตย์นี้จะเป็นตอนอวสานแล้ว อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ

เรื่อง : apinya

สถานที่ : Siam Kempinski Hotel Bangkok โทร. 0 2162 9000

เสื้อผ้า : Dior มีจำหน่ายที่เกษร ชั้น G โทร 0 2656 1075, ดิเอ็มโพเรียม ชั้น G โทร 0 2664 8363

 

บทความนี้ถือเป็นทรัพย์สินของเว็บไซต์แพรว ห้ามผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ อนุญาตให้แชร์บทความนี้ได้จากลิ้งค์นี้เท่านั้น

Praew Recommend

keyboard_arrow_up