เปิดบ้านสุดหรู! สะท้อนไลฟ์สไตล์ของ “คุณช้อนทอง - ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง”

เปิดบ้านสุดหรู! สะท้อนไลฟ์สไตล์ของ “คุณช้อนทอง – ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง”

Alternative Textaccount_circle

บ้านหลังใหม่ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ของ “คุณช้อนทอง – ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง” นักธุรกิจระดับพันล้านในวัย 35 ปี กับ 20 ธุรกิจหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ็มเอส เมดิคอล กรุ๊ป จำกัด เจ้าของคลินิกความงาม Mersi Clinic 20 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริษัทเครื่องมือแพทย์สำหรับคลินิกความงาม ธุรกิจเครื่องบินเจ็ตเช่าเหมาลำ จนถึงเจ้าของโรงงานผลิตปุ๋ยออร์แกนิก และล่าสุดกำลังจะเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันบางจาก ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ จังหวัดอุดรธานี ด้วยทุกช่วงเวลาของชีวิตคือการทำงาน ทำให้คุณช้อนทองตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เพื่อใช้รับรองแขกและต้อนรับเพื่อนฝูงคนสนิท

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

เปิดบ้านสุดหรู! สะท้อนไลฟ์สไตล์ของ “คุณช้อนทอง – ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง”

พื้นที่ส่วนตัว

“ความจริงผมมีบ้านอยู่ในชอยสุขุมวิท 39 ถือเป็นบ้านหลังแรก เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ แต่ดีไซน์ไม่ทันสมัยละ เพราะอยู่มาเป็นสิบปี ส่วนหลังนี้ถือเป็นบ้านตากอากาศแล้วกัน (หัวเราะ) ด้วยพื้นที่ 1 ไร่ ถือว่าใหญ่สุดในโครงการ และเป็นหลังเดียวที่มีสระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการนี้สามารถทะลุถนนใหญ่ได้สองเส้นทางคือถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่กับถนนร่มเกล้า ถือเป็นโลเคชั่นที่ดีที่สุดในย่านนี้ แถมยังใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิด้วย เวลาหุ้นส่วนธุรกิจหรือลูกค้าเดินทางมา ผมจะเปิดบ้านหลังนี้ต้อนรับ ประกอบกับผมอยากช่วยอุดหนุนธุรกิจของเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของโครงการด้วย (ยิ้ม)

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“เดิมบ้านหลังนี้มี 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ ไม่รวมห้องแม่บ้าน 2 ห้อง ผมต้องการให้พื้นที่แต่ละห้องใหญ่ขึ้น จึงปรับให้เหลือ 3 ห้องนอน ห้องนอนหลักของผมเน้นโหนสีครีมกับสีทอง เพราะชื่อช้อนทอง สังเกตว่าทุกอย่างในบ้านจะแซมด้วยสีทองแมตต์ เน้นความเป็น Timeless ผมให้โจทย์อินทีเรียร์ว่าอยากได้ห้องนอนที่เหมือนอยู่ในนิยาย ผนังตรงหัวเตียงทำเป็นเหมือนกรอบหนังสือ

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“ห้องน้ำทุกห้องมีอ่างอาบน้ำ สำหรับห้องผมเลือกอ่างจากุซซี่ไซส์ใหญ่ เพราะการได้นอนแช่น้ำเหมือนเป็นการผ่อนคลายร่างกาย ถัดมาเป็นวอล์กอินคลอเสต สารภาพว่าตอนนี้บ้านสุขุมวิทที่เก็บเสื้อผ้าไม่พอ จนต้องขยายด้วยการรื้อห้องนอนหนึ่งห้อง แล้วยังล้นมาที่บ้านนี้ด้วย ยอมรับว่าเป็นมนุษย์ที่ชอบช้อบปิ้งเสื้อผ้ามาก

“ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กสำหรับเพื่อนสนิทที่มาปาร์ตี้ ห้องหนึ่งทำสีชมพูสำหรับผู้หญิง อีกห้องตกแต่งโทนสีเข้มสำหรับเพื่อนผู้ชาย

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“นอกจากนี้ยังปรับพื้นที่ที่เดิมทำเป็นห้องสปา แต่เนื่องจากผมบ้างาน แทบจะไม่มีเวลาได้ใช้ จึงเปลี่ยนเป็นห้องพระสำหรับนั่งสมาธิ วันหนึ่งประมาณ 10-15 นาที ก็ยังดี เพื่อต้องการฝึกจิตให้นิ่ง ช้อนเป็นชาวพุทธที่ทำบุญมาตั้งแต่เด็ก เพราะเชื่อว่าความสามารถ 70 เปอร์เซ็นต์ กุศลหนุนนำอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ชีวิตได้พบเจอสิ่งดีๆ พระประธานในห้องนี้ผมประมูลมาจากงานการกุศล ราคากว่าสองล้านบาท ทำจากบรอนซ์ ปั้นตามแบบพระพุทธรูปองค์แรกของโลก”

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

Must-Have Items

“สถาปนิกที่ออกแบบบ้านเป็นทีมเดียวกันกับที่ออกแบบพื้นที่ธุรกิจของผม เขาจึงรู้ใจว่าผมชอบหรือไม่ชอบอะไร เวลาผมไปเที่ยวต่างประเทศก็จะคอยดูรายละเอียดที่ชอบแล้วนำมาตกแต่งเพิ่ม อย่างบ้านหลังนี้อยากให้มีบันไดวน แชนเดอเลียร์ และเปียโน ซึ่งแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่นี้ผมสั่งนำเข้ามาจากฝรั่งเศส ส่วนบันไดวนบ้านส่วนใหญ่ทำจากอัลลอยด์ แต่ผมไม่ชอบ เพราะไม่เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น จึงเปลี่ยนให้เป็นกระจกดัดโค้ง ทำให้ดูโล่ง โปร่ง แล้วมีความ Timeless ยิ่งขึ้น

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“สำหรับห้องรับประทานอาหารผมเลือกใช้เซตช้อนส้อมและจานชามแบรนด์ Hermes เพราะส่วนตัวชอบจานโมเสกแล้วมีสีทองแทรกอยู่ ส่วนแก้วน้ำ แจกันเป็นของแบรนด์ Baccarat เครื่องแก้วเจียระไนชั้นสูงของฝรั่งเศสที่มีอายุยาวนานกว่า 250 ปี ราคาจึงสูงมาก อย่างแก้วน้ำหนึ่งใบราคาประมาณ 2 หมื่นบาท แต่ก็สวยงามเข้ากันได้ดีกับเครื่องถ้วยชามของ Hermes

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“ถัดไปเป็นห้องครัว ตั้งใจใช้โทนสีเข้มกว่าทุกห้องเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษา และเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดสั่งทำบิลท์อินเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายเวลาจะทานข้าวผมนั่งในห้องครัวนี้มากกว่า” (หัวเราะ)

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

Double Living Room

“ห้องรับแขกเรียกได้ว่าเป็น Double Living Room ส่วนแรกเป็นห้องรับแขกเดิมที่เฟอร์นิแจอร์ทั้งหมดเป็นของ MINOTTI ส่วนหมอนอิงใช้ของแบรนด์ Cartier ทั้งหมด ตั้งใจให้อิงกับลูกรักพันธุ์ปอมเมอเรเนียนชื่อว่าคาร์เทียร์กับโชพาร์ด

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“ห้องด้านหลังของห้องรับแขกหลัก เดิมตั้งใจให้เป็นห้องทำงาน แต่ความที่มีเพื่อนเยอะ ชอบสังสรรค์ จึงปรับเป็นอีกห้องรับแขกสำหรับจัดปาร์ตี้ แล้วจัดห้องทำงานไว้ที่ชั้น 2 แทน เวลาเพื่อนหรือลูกค้ามารับประทานอาหารแล้วสามารถเดินมานั่งสังสรรค์กันต่อที่ห้องรับแขก ซึ่งผมทุบกำแพงเพื่อให้ชื่อมต่อไปยังห้องปาร์ตี้ แล้วยังสามารถเปิดกว้างไปยังพื้นที่ด้านนอกที่เป็นสระว่ายน้ำแบบน้ำล้น จุดนี้ผมสร้างเป็นพาวิลเลียนแบบกลาสเฮ้าส์สำหรับนั่งชิลรับลมด้วย ตั้งแต่สร้างเสร็จเคยใช้สระว่ายน้ำแค่ครั้งเดียว แล้วไม่ใช่ผมด้วยนะ เพื่อนใช้” (หัวเราะ)

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

เติมสีสันให้บ้าน

“จะเห็นว่ามีดอกไม้ ต้นไม้ประดับอยู่ทุกมุมของบ้าน เพราะผมชอบปลูกต้นไม้ บ้านที่อุดรธานีทำสวนมะนาวกับมะละกอแบบออร์แกนิก ซึ่งถ้าคิดเรื่องค่าปุย ค่าคนดูแล ซื้อกินน่าจะดีกว่า แต่ถือเป็นความสุขที่ได้เห็นผลผลิต เวลามีคนมาที่บ้านก็จะแบ่งให้ ถ้ามีเยอะๆ ก็นำไปถวายวัด ให้แม่ครัวที่วัดทำภัตตาหารถวายพระและเณร

“ส่วนดอกไม้ที่ผมชอบมากคือกล้วยไม้ ซึ่งสามารถอยู่ในร่มโดยไม่โรยเกือบสองสัปดาห์ ถ้าเป็นดอกไม้สดอื่นๆ ต้องเปลี่ยนทุกสัปดาห์ และถ้าใครมาบ้านแล้วถ่ายภาพไป เขาจะรู้เลยว่าที่นี่คือเมืองไทย เพราะเป็นดอกไม้ประจำชาติเรา

ดร.ธรรมรัตน์ ธุระทอง

“บนโต๊ะอาหารผมชอบจัดแจกันด้วยดอกไฮเดรนเยียสีฟ้า เพราะชอบในสีสันและรูปทรง วันก่อนได้ฟังอาจารย์คฑา ชินบัญชร บอกทางทีวีว่าสีของดอกไม้นี้ถ้าจัดวางบนโต๊ะกินข้าวแล้วจะมีทรัพย์มั่งคั่งร่ำรวย ซึ่งผมจัดอย่างนี้นานแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ (ยิ้ม)

“หลายคนเห็นการใช้ชีวิตของผมแล้วดูเต็มที่ในทุกอย่าง เพระความคิดของผมคือคนเราอาจมีชีวิตถึงประมาณ 60 ปี หลังจากนั้นคือกำไร จึงควรใช้ให้เต็มที่ ผมมีความสุขกับการซื้อเสื้อผ้า เครื่องเพชร แบบใช้จริง ไม่ใช่ให้ตู้เซฟใช้ อย่าไปคิดว่าจะเก็บไว้ให้ลูกหลาน ชีวิตใครชีวิตคนนั้น เกิดมาคนเดียว ไปก็คนเดียว ผมจึงตั้งใจใช้ชีวิตให้มีความสุข…Enjoy Life ครับ”


Praew Recommend

keyboard_arrow_up