หลังจากเข้าพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่มนักธุรกิจที่รวยระดับเศรษฐีไปเมื่อปีที่แล้ว ในที่สุด ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก ได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานที่ ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร โดยเมื่อไม่นานมานี้เธอและสามีได้ซื้อคฤหาสน์หลังงามมาปรับปรุงเพื่อเป็นเรือนหอสำหรับทั้งคู่ และแม้ว่าจะตัดสินใจอย่างนั้นแต่เธอยืนยันว่าจะเดินทางมาประเทศไทยบ่อยๆ เช่นเคย
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา นักแสดงสาวได้ให้สัมภาษณ์ ถึงชีวิตที่หลังสมรสในงานเปิดตัว A SECRET COLLAGEN
ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอย่างไรบ้าง?
“ตอนนี้เริ่มทำบ้านที่แอลเอแล้ว แต่ก็ยังบินไปบินมาที่ประเทศไทย ส่วนคุณสามีก็ทำงานหนักมาก ไปดูไบและอินเดียบ่อย เหมือนต่างคนต่างบินแต่ก็ชินแล้วเพราะตั้งแต่คบกันก็เป็นแบบนี้ เป็นคู่ที่อินกับงาน แต่ก็จะมาเจอกัน 2-3 สัปดาห์ บินไปเจอกันสักที่ พวกวันเกิด วาเลนไทน์ คริสต์มาส ตรุษจีน ต้องเจอกัน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนของโลกก็ต้องบินไปเจอกัน เราก็จะให้ความสำคัญตรงนั้น เป็นข้อตกลงทั้งคู่เลย วันเกิดปูเขาก็ต้องมา วันเกิดเขาปูก็ไป ตรุษจีนปูก็ไปอยู่กับครอบครัวเขา วาเลนไทน์เขาก็บินไปแอลเอ”
อยู่ที่นั่นปูทำอะไรบ้าง?
“ส่วนชีวิตแม่บ้าน ก็ทำค่ะ อยู่แอลเอทำอาหาร จะปลูกสวนผัก เลี้ยงหมา 4 ตัว เลี้ยงไก่เพื่อเก็บไข่สด ปูอินกับการปลูกผัก มีสวนกุหลาบ แล้วก็ทำอาหาร”
ค่อนข้างแตกต่างจากที่หลายคนคิดไว้?
“ปูแฮปปี้มากแบบนี้ ปูเชื่อว่าถ้าปูหยุดทำงานเลยมันก็ไม่ใช่ปู หยุดทำงานแล้วช้อปปิ้งแบบนี้เหรอ เบื่อตาย ทำงานดีแล้ว ซึ่งจริงๆ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันเป็นเดือน ปูก็ไม่ทำอะไรเลยก็ได้ แต่ปูรู้สึกว่าเงินที่เขาหามาเขาเหนื่อยมากปูไม่อยากจะเป็นภาระเขา”
แล้วเรื่องทายาท?
“อาจจะต้องแป๊บหนึ่ง แต่อย่างที่บอกปูไม่ได้กลัว ปูแต่งงานในวัยที่สมควรแต่ง มีลูกก็ในช่วงเวลาเร็วๆ นี้ แต่ว่าตอนนี้ปูอยากช่วยสามีทำงานจริงๆ ปูรู้สึกว่าเราเป็นคนมีความสามารถ แล้วครอบครัวเขาก็ทำงานกันหนักมาก เราได้รับเกียรติเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา เรามีมือ มีสมอง มีชื่อเสียง ก็ควรจะใช้มันให้ถูก เป็นสะใภ้ที่ทำงาน”
แล้วฝั่งครอบครัวเขามีถามถึงเรื่องนี้ไหม?
“ครอบครัวเขาค่อนข้างสมัยใหม่ค่ะ เราก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่มีเลย แต่ปูว่าในยุคนี้เรามีในวันที่พร้อม แต่ก็มีการวางแผนไว้ แต่ ณ เวลานี้อย่างที่เห็น คิวงานปูถึงปลายปี งงมากแต่งงานแล้วงานเยอะขึ้นกว่าเดิม พอบินกลับไปแอลเอได้พัก ได้ทำสวน ชิลๆ ทำอาหาร เลี้ยงหมา เพราะอยู่ไทยเหนื่อยมาก อยู่โน่นเลยไม่อยากทำอะไรแล้ว (หัวเราะ) ”
ดูเหมือนงานตอนนี้จะเยอะกว่าเมื่อก่อนอีก?
“ก่อนปูทุกข์มาก เพราะปูกลัวว่างานจะหาย แต่พอตอนนี้ละมือกลับมีงานเยอะ ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องเหนื่อย จากเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้รู้สึกว่าพอแล้ว เราก็ไปงานเมืองนอกว่า 6-7 ปี ติดแล้ว ณ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ ปูคิดอย่างเดียวว่าถ้าเหตุการณ์เป็นอีกแบบหนึ่ง ก็คุยกับพี่ๆ ที่สนิทกันว่าพรุ่งนี้เราคงอยู่โรงพยาบาลกัน คงไม่ได้มานั่งกินข้าวกัน ก็คิดในใจว่าให้มันจบๆ เถอะ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย บางทีอะไรที่ยากมากไม่ต้องทำก็ได้ อะไรที่มันใช้เราจะไม่ต้องดิ้นรน ก็เหมือนความรักของปู เมื่อก่อนดิ้นรนแทบตาย ก็จะไม่เจอ พอหยุดดิ้นรนก็เจอ งานก็ทำแบบไม่คาดหวัง ไม่กดดัน ไม่แข่งขัน จะได้ทำแบบมีความสุข”