ชาล็อต ออสติน

ชาล็อต ออสติน นางเอก มนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่นที่ 5ของประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
ชาล็อต ออสติน
ชาล็อต ออสติน

ขึ้นแท่นเป็น “นางเอก” ครั้งแรก และเป็น “นางเอกเวอร์ชั่นที่ 5” ของละครและภาพยนตร์ในตำนาน “มนต์รักลูกทุ่ง” โดยสานต่อบท “ทองกวาว” จากนางเอกรุ่นพี่ โดยเวอร์ชั่นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2513 คือ เพชรา เชาวราษฎร์ เวอร์ชั่นละครในปีพ.ศ. 2538 น้ำผึ้ง ณัฐริกา ส่วนในปีพ.ศ. 2548รับบทโดย กบ สุวนันท์ และ จ๊ะ จิตตาภา ในปีพ.ศ. 2554พอมาในเวอร์ชั่นปี 2567 แน่นอนว่า ชาล็อต ออสติน ถูกจับตามองมากที่สุดว่าเธอจะเป็น “ทองกวาว” ในละคร “มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗” ได้ดีแค่ไหน? โดย สาวชาล็อต เผยถึงบท “ทองกวาว” ในเวอร์ชั่นนี้ว่า

ปี พ.ศ. 2513 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย มิตร ชัยบัญชา และ เพชรา เชาวราษฎร์
ปี พ.ศ. 2538 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย ตั้ว ศรัณยู และ น้ำผึ้ง ณัฐริกา
ปี พ.ศ. 2548 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ และ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง
ปี พ.ศ. 2553 คล้าว กับ ทองกวาว รับบทโดย ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ และ จ๊ะ จิตตาภา แจ่มปฐม

สัมภาษณ์ ชาล็อต ออสติน นางเอก มนต์รักลูกทุ่ง เวอร์ชั่นที่ 5ของประเทศไทย

มนต์รักลูกทุ่ง

“รู้สึกว่า ทองกวาว เป็นคนที่สวย แสบ อ่อนโยน สามคำนี้ เป็นคนที่แบบต้องเป็นคนสวย เป็นดาว ความแสบคือเป็นเหมือนเด็กแก่น คอยแกล้ง แล้วก็เป็นคนซนๆ โก๊ะๆ อ่อนโยนด้วย ไม่ได้แบบแสบซนแบบกัาวร้าว แต่แซบซนแบบอ่อนโยน แต่ต้องเป็นคนที่เราอยากอ่อนโยนด้วยเท่านั้น อย่าง สายใจ แสบซนมา เราก็แสบซนกลับ” ซึ่งเธอบอกว่า ทองกวาว เวอร์ชั่นนี้ สู้คนนะ!!

“ใช่ค่ะ ถ้าดูในละครอยากให้ดูต่อไปเรื่อยๆ จะเห็นถึงความเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่ รักตัวเองจะประมาณว่า ถ้าพี่คล้าว รัก ทองกวาว จริง ต้องทำทุกอย่างให้ ทองกวาว เห็นว่ารัก แต่ถ้าสมัยก่อนผู้ชายไม่รักก็จะแบบเศร้า ตัวเองไม่ดีพอ ไม่รักตัวเอง พอมาเวอร์ชั่นนี้คือแบบรักตัวเอง ถ้าไม่ดีพอคือฉันปล่อยเธอนะ”

สิ่งที่ดีที่สุดของการรับบทเป็น “ทองกวาว” ของชาล็อตคืออะไร? เราถามต่อ

“คือการได้รับบทเป็น ทองกวาว ค่ะ ด้วยความที่เวอร์ชั่นก่อนๆ ตัวละครทองกวาวคือ ทำได้ดีมาตลอด เราเลยรู้สึกว่าห้ามต่ำกว่ามาตรฐาน ต้องไม่เท่าหรือว่าสูงกว่ามาตรฐาน ถือเป็นตัวละครที่เป็นตำนาน เป็นตัวละครที่ไม่ใช่ใครก็ได้ ต้องเหมาะจริงๆ ที่จะสามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ว่านี่คือ ทองกวาว ในเวอร์ชั่นใหม่และเก่า ยากมากๆ แต่ก็ทำออกมาได้ค่ะ”

ชาล็อต ออสติน

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเป็น “ทองกวาว” ในเวอร์ชั่นนี้คือ?

คือการต้องทิ้งความเป็นตัวเองไป เพราะเราไม่ได้เล่นเป็นตัวเอง เราเล่นเป็นทองกวาว คนคนนี้ ทองกวาวเวอร์ชั่นใหม่ แต่ก็ต้องเอา ทองกวาว เวอร์ชั่นเก่ามาใส่ไปด้วย ทำให้คนนึกเป็นภาพจำ สิ่งที่ยากคือ จะสื่อสารออกมายังไงให้คนจำว่านี่คือ ทองกวาว ค่ะ”

ความแตกต่างของ ทองกวาว กับ ชาล็อต อยู่ตรงไหน?

“ทองกวาว จะเป็นคนที่สู้เพื่อความรักมากเกินไป ในเรื่องคือมีตัวเลือกมากมายมาให้เลือก แต่ไปเลือกคนคนเดียวที่เราไม่รู้ว่าอนาคตจะมีด้วยกันหรือเปล่า แต่ถ้าขีวิตจริง ถ้าเค้าไม่ได้ดีพอเท่าหนู หรือมากกว่าหนู หนูก็ไม่เอาดีกว่า หนูทำงานหาเงินเองได้ รักตัวเองดีกว่า แต่ ทองกวาว จะเป็นแบบไม่ได้ต้อง พี่คล้าว ซึ่งเราไม่ใช่แบบนั้น ส่วนความเหมือนคือเป็นนักสู้ สู้เพื่องาน สู้เพื่อเพื่อน สู้เพื่อความรักจนถึงที่สุด สุดท้ายคือถ้าทองกวาวไม่ได้ลงเอยกับพี่คล้าว แต่ก็ถือว่าสู้แล้ว แต่ถ้าสู้แล้วลงเอยกันด้วยดี ก็ถือว่าสู้สำเร็จเพื่อความรัก”

ชาล็อต ออสติน

นอกจากเป็น “นางเอก” แล้ว เธอต้องสวมบทเป็น “นักร้อง” ร้องเพลงประกอบในละครเรื่องนี้ด้วย!!

เครียดกว่าตอนคอนเสิร์ตอีก เพราะว่าอันนี้คือประกอบละครที่มันจะอยู่กับละครเรื่องนี้ไปตลอด เพลงนี้ ละครเรื่องนี้ ตัวเรา ทองกวาว2567 ก็เลยรู้สึกว่าต้องทำออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งกว่าจะได้ รักเธอที่สุด เพลงเดียวเนี่ย หนูแก้ 3 รอบ รอบแรกรู้สึกร้องแข็งไป รอบที่ 2 ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเข้ากับทำนอง เลยขอแก้รอบที่3 ลดเสียงตัวเอง เหมือนบิดเสียงตัวเองให้ดูใส ดูน่ารัก เพราะเวลาเอาไปประกอบกับฉาก มันจะได้เข้ากับฉากละคร พวกทำนองเนื้อเพลงที่มีความน่ารัก พอผสมรวมกันก็จะเฟอร์เฟคมากกว่าเดิม ที่ต้องแก้เพราะตอนแรกรู้สึกเป็นชาล็อตก็เลยออกมาแข็ง เพราะว่าเสียงเราทุ้ม พอรอบ 3 รู้สึกว่าเป็น ทองกวาว ร้องเพลงนี้ให้ พี่คล้าว มันก็เลยออกมาตามนั้น ถ้าดูละครนะ ก็จะรู้ว่า ทองกวาว เนี่ยแสบซนซ่า อยู่กับพี่คล้าวจะเป็นแบบตัวเล็กตัวน้อย ฟีลคลั่งรัก เขินๆ อายๆ ค่ะ”

ชาล็อต ออสติน

ทำไมคนดูต้องดู มนต์รักลูกทุ่ง๒๕๖๗

“อยากให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ความทันสมัยของ มนต์รักลูกทุ่ง ถึงชื่อเรื่องมันจะเก่า แต่เราเพิ่ม 2567 ให้คนได้รู้ว่าเป็นเรื่องของปัจจุบัน แต่เราก็เอามารีเมคได้ในอีก10 ปีข้างหน้าก็อาจจะมี มนต์รักลูกทุ่ง เหมือนกัน มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ก็อยากให้ติดตามในเวอร์ชั่นนี้ ด้วยรู้ว่าต้องมีเปรียบเทียบ แต่ดูให้สนุกไม่ต้องเปรียบเทียบอะไรเยอะ ดูให้บันเทิงดีกว่า อยากให้เห็นถึงการแสดงของทุกคน เพราะทุกคนที่แสดงต้องมีผลงานอีกมากมายแน่นอนค่ะ”

Praew Recommend

keyboard_arrow_up