“บุ๊ค” นักธุรกิจทายาทตึกใบหยก เป็นอีกคนที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบคนรุ่นใหม่ คือไม่ได้เข้างานเป็นรูทีน แต่เน้นการทำงานผ่านออนไลน์ และก่อนนอนคือช่วงเวลาส่วนตัว สำหรับนั่งคิดไอเดียใหม่ๆ
ไลฟ์สไตล์การทำงานแบบคนรุ่นใหม่ ของ บุ๊ค พิมพ์เลิศ นักธุรกิจทายาทตึกใบหยก
Good Afternoon
“ตารางการทำงานของบุ๊คอาจไม่ได้กำหนดเวลาตายตัว ตอนนี้บุ๊ครับหน้าที่เป็น Assistant to the Chairman โรงแรมในเครือใบหยก เนื่องจากธุรกิจครอบครัวมีโรงแรมหลายแห่ง คุณพ่อก็จะส่งลูกไปดูแล เหมือนเป็นหัวเมืองต่างๆ โดยมีบุ๊คเป็นคนกลางระหว่างโรงแรมกับคุณพ่อคอยประสานงานและดูแลภาพรวมทั้งหมด
“ย้อนกลับไปช่วงที่เริ่มทำงานแรกๆก็เป็นตามกำหนดคือเข้าตอนเช้า เลิกตอนเย็น แต่ ความที่ตั้งแต่เด็กและช่วงเรียนบุ๊คค่อนข้างนอนดึกแล้วตื่นสายมาตลอด ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองแปลก จากเพื่อนๆ แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนได้เจอเพื่อนสไตล์เดียวกัน ทำรายงานกันตอนดึกๆ ส่งข้อความไปหาตอนตี3 เพื่อนก็ยังตอบ (หัวเราะ)
“จึงรู้สึกว่าเราก็ไม่ได้แปลกนะ ช่วงนั้นพอเลิกเรียนกลับบ้าน ตอนเย็นจะนอนก่อน 1 รอบ แล้วตื่นมาตอนดึกๆเพื่อนั่งทำงาน (หัวเราะ) จึงทำให้บุ๊คชินกับการทำอะไรตอนดึกๆ โดยเฉพาะการนั่งคิดงานและไอเดียต่างๆ
“ฉะนั้นพอทำงานไปสักพัก เวลาก็เริ่มปรับกลับไปตามปกติ ของเราเมื่อก่อน ยิ่งช่วงสถานการณ์โควิดที่ต้องทำงานที่บ้าน กลาย เป็นว่าเวลาขยับไปเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้เริ่มจากตื่นประมาณ 10 โมงกว่า ดื่มกาแฟ จากนั้นเปิดมือถือเช็กอีเมล เช็กไลน์ เพราะ หลักๆจะทำงานผ่านออนไลน์อยู่ตลอด จากนั้นอาบน้ำ ออกไปถึง โรงแรมประมาณ 13.00 น.
“โดยทุกวันบุ๊คจะเริ่มมื้อแรกประมาณบ่ายโมง เหมือนเป็น การทำ IF (Intermittent Fasting) ไปในตัว (หัวเราะ) เนื่องจาก งานของบุ๊คเน้นการบริหารและประสานงานเป็นหลัก จึงไม่ได้ต้อง เข้างานตามเวลาเป๊ะๆ และบุ๊คไม่ได้ต้องคุมหน้างาน อย่างดูโซน อาหารเช้าตั้งแต่ 6 โมงเช้า แต่เข้าไปโรงแรมเพื่อดูความเรียบร้อย ในส่วนต่าง ๆ และดูว่าพนักงานมีปัญหาอะไรที่อยากให้ช่วย จัดการบ้าง
“จากนั้นทำงานจนถึงประมาณ 18.00 น. พนักงานเลิกงาน ก็จะเป็นช่วงที่บุ๊คคุยงานโปรเจ็กต์อื่นๆ ดูแบบกับดีไซเนอร์ จากนั้น ก็กลับบ้านกินข้าวกับครอบครัวประมาณ 1 – 2 ทุ่ม แล้วก็ใช้เวลา กับครอบครัว พูดคุยกัน เล่นกับหลาน จนถึงประมาณ 4 ทุ่ม จึงเริ่มทำงานในส่วนของตัวเองอีกที อย่างคิดไอเดียหรือหา เรเฟอเรนซ์งานออกแบบ ทำกราฟิก และบางวันจะเปิดซีรี่ส์ หรือเพลงคลอระหว่างทำงานไปด้วยตลอดทั้งคืน โดยมีพนักงาน หนึ่งคนที่สามารถคุยกับบุ๊คได้ตอนกลางคืน เวลามีงานอะไรบุ๊คจะพิมพ์ไว้ในไลน์ พอตอนเช้าเขาจะได้ประสานงานต่อเลย
“อีกอย่างที่หลายคนสงสัย เวลานอนดึกหรือทำงานตอนกลางคืนมีหิว บ้างไหม บุ๊คไม่ค่อยหิวนะคะ น่าจะเพราะร่างกายชินกับตารางชีวิตแบบนี้ไปแล้ว วันไหนหิวจริงๆก็จะอดทนค่ะ” (หัวเราะ)
Private Time
“บุ๊คชอบตอนกลางคืน เพราะนอกจากจะเป็นช่วงเวลาสำหรับคิดงานและไอเดีย ต่างๆ ยังรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาส่วนตัวด้วย อาจเพราะบุ๊คนอนห้องเดียวกับคุณแม่ จนอายุประมาณ 27 ปีเลยค่ะ บวกกับบ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่ และบุ๊คติดหลานมาก จะเล่นกันตลอดเวลา ฉะนั้นช่วงเวลาส่วนตัวที่จะได้ทำโน่นทำนี่ของตัวเอง ก็คือตอนที่ทุกคนนอนหลับ พอทุกคนเข้าห้องนอนปุ๊บ…จะรู้สึกว่าถึงเวลาของเรา แล้ว เหมือนเป็น Comfort Zone มีแอบดีใจนิดหน่อย (หัวเราะ)
“ช่วงเวลาเช้าและกลางคืนเป็นความรู้สึกคนละแบบ อย่างวันไหนที่ตื่นเช้า ก็จะรู้สึกดีอีกแบบหนึ่ง เพราะว่าไม่ค่อยได้ตื่นเช้า (หัวเราะ) แต่พอช่วงกลางคืน เป็นช่วงเวลาส่วนตัวของเรา ก็รู้สึกดีอีกแบบหนึ่ง (ยิ้ม) เหมือนถึงเวลาของฉันแล้ว ได้อยู่กับตัวเองเงียบๆ มีเวลาส่วนตัวอย่างแท้จริง
“แต่ก็ต้องยอมรับว่าการนอนดึกแล้วตื่นเช้าส่งผลนะคะ รู้เลยว่าร่างกาย อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น เหนื่อยง่าย ผิวพรรณก็ไม่สดใส เพราะเราพักผ่อนไม่พอ ช่วงที่ต้องตื่นเช้าติดกันหลายๆวันก็ต้องอาศัยตัวช่วยอย่างวิตามินหรือกาแฟเสริม เข้าไป และบุ๊คชดเชยโดยการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงในวันถัดไป เพื่อให้ร่างกาย ได้พักอย่างเต็มที่
“บวกกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ด้วยตารางชีวิตของบุ๊คเริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย จึงเลือกออกกำลังกายตอนเย็น อย่างตอนที่สถานการณ์ปกติ บุ๊คเข้ายิม สัปดาห์ละ 5 วัน หลังเลิกงานช่วง 6 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม ก็มีทั้งฟิตเนส โยคะ ต่อยมวย หรือเต้นซุมบ้า สลับกันไปในแต่ละวัน ถ้าช่วงไหนเข้ายิมไม่ได้ก็จะ ออกกำลังกายที่บ้านให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน พยายามบาลานซ์และรักษา สมดุลร่างกายให้ดีที่สุด ให้เลือดลมได้สูบฉีดบ้าง (หัวเราะ)
“ส่วนเรื่องผิวพรรณก็ดูแลตามปกติเลยค่ะ ทาครีมบำรุง เข้าคลินิกบ้าง และดื่มน้ำเยอะๆ แต่หลักสำคัญคือไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหน ต้องพยายามนอน ให้ครบ 8 ชั่วโมง “ร่างกายก็จะสดชื่นเหมือนเดิมค่ะ”
เรื่อง: นิตยสารแพรว ฉบับที่ 982