เพื่อนคลายเหงาประจำบ้าน “หนูเต่า” กับสามแมวจอมซนของ บดินทร์ พลางกูร

account_circle

“คุณต้น บดินทร์ พลางกูร” เจ้าของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายใน “Context Studio” เลือกให้“เต่าพันธุ์ซูลคาต้า”และสามแมวจอมซนเป็นเพื่อนคลายเหงาประจำบ้าน

เพื่อนคลายเหงาประจำบ้าน “หนูเต่า” กับสามแมวจอมซนของ บดินทร์ พลางกูร

“หลายปีก่อนผมถูกแฟนทิ้ง รู้สึกเหงา จึงหาสัตว์มาเลี้ยง ลังเลว่าเลี้ยงอะไรดี ระหว่างน้องหมา น้องแมว หรือเต่า  หลังจากคิดว่าเราต้องทำงาน อาจไม่มีเวลาดูแลมากนัก จึงเลือกเต่าพันธุ์ซูลคาต้าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรก ตั้งชื่อว่า ‘หนูเต่า’  เพราะตัวเขาเล็กกว่าฝ่ามือ

“ช่วงแรกต้องประคบประหงมมากหน่อย เลี้ยงในกระบะในห้องนอน ให้กินอาหารที่เป็นผักผลไม้ แต่เขาชอบกินผักบุ้งมากที่สุด หนูเต่าชอบเดิน ถ้าเห็นอะไรขวางหน้าจะเอาเข้าปาก ชิมทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่ของกินก็คายออกมา และจำได้ด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ผมไม่เคยแกล้งให้เขากินอาหารแปลกๆหรืออะไรที่ผิดธรรมชาตินะ สงสาร ไม่ค่อยแกล้งแหย่ด้วย เพราะรู้ว่าเขาไม่ชอบสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆใกล้ตัว ถ้าอยู่เฉยๆเขาจะเดินมาหาเราเอง ทั้งที่เขาเป็นสัตว์สมองเล็ก  แต่เขาจำเจ้าของได้ จะค่อยๆเดินมาหาให้ผมลูบหัว แต่ถ้าเป็นคนอื่นคงลูบไม่ได้

“เลี้ยงได้ประมาณ 2 – 3 ปี จากหนูเต่าเริ่มกลายเป็นเต่ายักษ์(หัวเราะ) จนตอนหลังกระบะดูเล็กไป จึงนำไปปล่อยที่สนามหญ้าหน้าบริษัท ซึ่งเขาเป็นเต่าบก กินแต่ผัก จึงไม่ดุ ไม่กัด ไม่ยุ่งกับสัตว์อื่น ถ้ามีแมวแกล้งให้ตกใจ เขาก็แค่หด
เข้าไปในกระดอง แล้วค่อยพุ่งเข้าใส่แมว แต่ถ้าเป็นเต่าทะเลจะค่อนข้างดุ แค่แหย่นิ้วตรงหน้าก็อาจกัดได้ เพราะคิดว่าเป็นปลา”

ไม่รู้ว่าทำไมเวลาใครกลิ่นตัวแรงมักถูกว่า “เหม็นเต่า”หรือ“เต่าเหม็น” ทั้งที่ความจริงอึเต่าไม่ได้มีกลิ่นอย่างนั้น อย่างที่คนเลี้ยงเต่าตัวจริงคอนเฟิร์มว่า

“อึเต่าไม่มีกลิ่นเหม็น เพราะกินแต่ผัก พอขับถ่ายเสร็จเขาจะส่งเสียงร้อง‘อื๊ดๆ’ เป็นสัญญาณ เวลาจะดูว่าเขาอารมณ์ไหน ให้สังเกตวิธีขยับตัวและท่าทางการเดิน ถ้าชิลๆจะเดินเรื่อยๆช้าๆสบายๆ แต่ถ้าหิวเมื่อไหร่จะเดินพุ่งมาที่อาหารเลย

“ปัจจุบันหนูเต่าอายุ 9 ขวบแล้ว ผมปล่อยให้เขาอยู่ที่สนามหญ้า ไม่รู้ว่าเพราะเป็นเต่าแอ๊คทีฟหรือเปล่า วันๆจึงชอบเดินวนรอบสนามแนบไปกับขอบปูนที่กั้นไว้ เวลานอนเขาก็จะเดินไปหลบอยู่ใต้พุ่มไม้ แต่ถ้าเห็นประตูรั้วเปิดแง้มอยู่
เขาจะเดินพุ่งไปอย่างเร็วเลย ท่าทางเหมือนอยากหนีผม (หัวเราะ)

“ผมเคยคิดหาภรรยาให้หนูเต่า อยากเห็นหน้าลูกเขา คงน่ารัก แต่เต่าวางไข่ครั้งละ 20 – 30 ฟอง ถามตัวเองว่าแล้วใครจะเลี้ยง! หรือไม่อย่างนั้นอาจประกาศแจกไข่เต่าทีหลัง เราเก็บไว้1-2 ตัว หรือถ้าขายก็มีคนรับซื้อตัวละ 2,000-3,000
บาท เอาเป็นว่าขอคิดอีกที”

น้องแมวทั้งสามล่ะคะ มาอย่างไร

“เริ่มจากตัวแรกเป็นแมวจรแถวบ้าน ผมเห็นว่าน่ารักดี จึงคอยให้อาหาร มันก็เลยตามติดเข้ามาในบ้านจนถึงในห้องนอน ทุกวันนี้จึงเป็นตัวเดียวที่ได้รับสิทธิ์นอนบนเตียงด้วยกัน ตั้งชื่อให้ว่า ‘ซาฮา’ มาจากชื่อของ ‘ซาฮา ฮาดิด’  สถาปนิกหญิงไอดอลของผมที่เสียชีวิตไปแล้ว ซาฮาเป็นตัวผู้ ทำหมันแล้ว อายุ8 ขวบ

“อีกตัวอายุ12 ขวบ เป็นตัวผู้เหมือนกัน หน้ากลมขาวดูง่วงๆ ชื่อ‘โมโม่’ เป็นพันธุ์Exotic Longhair ได้จากฟาร์มเพื่อนพี่สาว ซึ่งเขาจะปิดตัวจึงหาคนรับอุปการะแมว พี่สาวเลยพาโมโม่มาให้ผมเลี้ย ความที่เขาอายุเยอะ สำไส้และระบบ
ขับถ่ายไม่ดี ท้องเสียบ่อย จึงให้ไปนอนที่ออฟฟิศคู่กับ ‘ชานม’ อายุ1 ขวบ พันธุ์วิเชียรมาศ แต่แค่ 80 เปอร์เซ็นต์ คือถ้าเป็นวิเชียรมาศของแท้ต้องมีแต้มสีน้ำตาลเข้มบนตัวครบ 9 จุด ได้แก่ ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง จมูก
และที่อวัยวะเพศ แต่ชานมมีแค่ 5 จุด ยกเว้นที่ปลายเท้าซึ่งมีสีขาว เขาเป็นลูกของแมวจรที่มาคลอดหลังออฟฟิศ ชานมดูดีที่สุดจึงนำมาเลี้ยง ส่วนแม่กับพี่น้อง ปล่อยให้อยู่หลังออฟฟิศ คอยให้อาหารกินเรื่อยๆ”

ในบรรดาแมวเหมียวสามตัว ดูเหมือนเจ้าชานมจะซนและขี้อ้อนที่สุด เพราะยังเด็ก ส่วนซีเนียร์ที่สุดคือ“โมโม่” ขณะที่ “ซาฮา” เหมือนจะรู้ตัวว่าเป็นเบอร์หนึ่งของคุณต้น เวลาอยู่ร่วมกับตัวอื่นๆจึงมีอารมณ์ข่มเพื่อนอยู่ในที

“ความที่ซาฮามีความเยอะในตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาจะขี้งอน เหมือนรู้ว่าสั่งให้ทาสอย่างเราทำนั่นนี่ได้ เช่น ถ้าอยากออกไปข้างนอกจะเดินมาร้องเสียงโทนประจำตัวเขาที่หน้าประตู เป็นสัญญาณให้รู้ว่าช่วยเปิดประตูหน่อย หรือถ้าอาหารหมดก็จะเดินมาร้องแง้วๆเรียกให้เสิร์ฟอาหาร

“ส่วนโมโม่ขี้งอนแบบเงียบๆ ไม่ค่อยร้อง แต่ใช้วิธีเดินมามองเพื่อกดดันให้เรารู้ว่าเขาอยากได้อะไร แมวจะขี้อ้อนแบบนี้แหละ ยิ่งเป็นแมวเด็กยิ่งอ้อน พอโตขึ้นก็จะลดลง”

คุณต้นเล่าถึงวีรกรรมแมวให้ฟังอีกว่า “ก่อนหน้านี้โมโม่เคยหนีหายออกไปจากบ้าน เราตกใจนะ แต่คิดในทางดีว่าต้องพยายามหาให้เจอ จึงแชร์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวและของบริษัท รวมทั้งทำป้ายประกาศไปแปะแถวบ้าน ผ่านไปเกือบสามสัปดาห์มีคนโทร.มาบอกว่าเห็นป้ายประกาศแล้วนำโมโม่มาส่งคืน เข้าใจว่าเราเลี้ยงแบบให้อยู่แต่ในบ้าน พอหลุดออกไปเลยงง กลับไม่ถูก

“การเลี้ยงสัตว์อะไรก็ตาม ต้องทำความเข้าใจพื้นเพ ซึ่งถ้าเราอยู่กับเขานานๆ จะเข้าใจความเป็นเขา และบางครั้งก็ได้อะไรกลับมาด้วย อย่างการเลี้ยงเต่าสอนให้เรารู้จักความมุ่งมั่น เพราะเวลาเขาจะทำอะไรสักอย่าง เช่น ขุดดิน จะตั้งใจทำมา 3-4 ชั่วโมงต่อเนื่อง หรือถ้าจะเดินไปไหน เขาจะเดินไปช้าๆ แต่ไม่หยุด ส่วนการเลี้ยงแมวไม่ค่อยได้ข้อคิดอะไร  เหมือนเขามาเพื่อสั่งทาสอย่างเรามากกว่า (หัวเราะ) ผมคิดว่าการเลี้ยงสัตว์ช่วยแก้เหงาได้ดี เวลาเหนื่อยๆนั่งเล่นกับเขาแล้วช่วยให้สบายใจ คลายเครียด

“อ้อ ตอนนี้ผมมีคนคุยด้วยแล้ว ซึ่งเขาคงต้องเริ่มรักสัตว์ทุกตัวที่ผมเลี้ยงแล้วแหละ (หัวเราะ) เพราะต่อไปผมคงไม่มีลูก ก็เรามีพวกเขาเป็นลูกอยู่แล้วนี่”


ที่มา :นิตยสารแพรว ฉบับ 975

Praew Recommend

keyboard_arrow_up