เป็นอีกหนี่งสาวที่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของความรัก ครอบครัว และการงานเรียกได้ว่าเพียบพร้อมไปกว่า คุณแม่ลูก 4 พลอย-ชิดจันทร์ ฮุง คงไม่มีแล้ว ที่ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ซึ่งเจ้าตัวได้มาเปิดเผยถึงเรื่องราวความรักที่ทุกคิดว่าสวยงาม แต่กว่าที่จะเรียบและเดินสะดวกแบบนี้ จริงๆ แล้วก็ผ่านอุปสรรคมาไม่น้อยเลยล่ะ
กว่ารักจะลงล็อก! เปิดเรื่องเล่ากว่าจะเป็นสะใภ้จีนของ คุณแม่ลูก 4 พลอย-ชิดจันทร์
ในชีวิตพลอยก่อนที่จะมาเจอคุณเคนเคยอกหักไหม?
“ไม่เคยเลยค่ะ (ยิ้มๆ)”
เริ่มต้นรู้จักกับคุณเคนได้อย่างไร?
“เจอกันครั้งแรก คือ เจอกันที่บ้านย่าของพลอย เขามากับคุณอาเพราะว่าพี่เคนเขาเป็นลูกหุ้นส่วนของคุณอา ก็มาร่วมงานปีใหม่ของที่บ้านเพราะตอนนั้นเราก็ทำงานอยู่ กรุงเทพฯ แล้วเราก็บินกลับไปงานที่บ้านแล้วเราก็ได้ไปเจอเขาวันนั้นครั้งแรกที่งาน ตอนที่เจอเขาครั้งแรกก็ไม่ได้ปิ๊งอะไรขนาดนั้น แต่ว่าพอมาคิดย้อนหลังถึงทุกวันนี้ มันก็มีอะไรนิดๆ ความจริงมันก็รู้สึกพิเศษนิดหนึ่งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรขนาดนั้น เขาเป็นคนฮ่องกง-จีน ส่วนมากที่เราคุยกับเขาเลยเป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียวเลย เพราะตอนนั้นเขาก็ยังไม่ค่อยได้ภาษาไทย ตอนนั้นที่พลอยเล่นละครเรื่องแรกเลย”
พลอยบอกว่าเจอกันครั้งแรกก็รู้สึกพิเศษเหมือนกัน แล้วความรู้สึกพิเศษนั้น คืออะไร?
“ถ้าพูดตอนนี้พลอยว่าตอนนี้รู้ตัวว่าเราน่าจะเป็นคนชอบคนตี๋ๆ เพราะเราชอบหนุ่มลักษณะแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนปัญหาที่ได้เจอก็คือระยะทาง หรือแบบมันจะยากหรือเปล่าสำหรับความสัมพันธ์ที่มันห่างแบบนี้ แต่ตรงนั้นที่เราไขว้เขว ไม่ใช่ประเด็นหลักๆ มากกว่ามันเป็นเพียงองค์ประกอบโดยรวมๆ เพราะที่บ้านเราที่บ้านเขาก็ดูจะเป็นไปได้ยากค่ะ”
แปลว่าครอบครัวเราไม่ค่อยถูกใจคนนี้ และครอบครัวเขาก็ดูเหมือนกับไม่ถูกใจเราหรือเปล่า?
“ด้วยความที่เราพูดภาษาจีนไม่ได้ และไม่ได้เจอครอบครัวเขา อีกทั้งคุณอามาบอกคุณแม่ของเราว่าตอนนี้คุณพ่อของเขาก็อยากให้เขาแต่งงานแล้วนะแล้วเหมือนธรรมเนียมที่บ้านเขาจะมีการแบบหาคนที่เหมาะสมคู่ควรให้กับพี่เคน เลยจะพาเขาไปดูตัว แต่พี่เคนเขาก็ปฏิเสธพ่อเขา เขาดื้อบอกไม่เอา ส่วนแม่เราก็ไม่อยากให้เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทะเลาะกับพ่อ เราจึงพิจารณาตัวเองหรือเราต้องถอยออกมาด้วยไหม”
ตอนนั้นที่พ่อเขาก็บินไปบินมา แล้วตัวเขาบินไปบินมา แล้วเขาเคยพาเราไปเจอพ่อเขาบ้างไหม?
“ไม่เลย ไม่เคยเจอเลย แต่เคยเจอแบบผ่านๆ สมมติว่าพ่อเขามาคุยกับคุณอาแล้วก็เห็นแบบผ่านๆ แต่ไม่เคยมานั่งคุย กินข้าว หรือเจอกัน ไม่เคยเลยค่ะ เพราะเราคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง”
คุณพ่อคุณแม่ฝ่ายชายทราบไหมว่าเราเป็นแฟนลูกชายเขา?
“ทราบค่ะ แต่ตอนนั้นเราคิดว่าท่านต้องเหม็นเราแน่เลย เพราะว่าเราทำให้ลูกเขาไม่ทำตามที่เขาอยากได้”
แต่ทางคุณพ่อคุณแม่ของพลอยคือบอกว่าให้หยุด หรือแปลสั้นๆ ออกมาคือให้เลิกกัน?
“คือตอนนั้นเราทำตามที่พ่อแม่ขอ เราก็หายไปจากเขา ไม่ได้รับโทรศัพท์เลย ประกอบกับตอนนั้นเราไปเที่ยวทะเลกับแม่อยู่เกาะด้วยเลยปิดเครื่องเงียบหาย เขาเลยขับรถมาหาแม่กับพลอยแล้วก็ร้องไห้ ซึ่งครั้งนั้นเป็นครั้งเดียวที่เห็นพี่เคนร้องไห้ คุกเข่าบอกแม่เราว่าขอคุยกับพลอย หน่อยได้ไหมเพราะเขารู้ว่าแม่ของเราห้ามไม่ให้คุยกัน”
“หลังจากนั้นก็ได้คบกัน จนมาถึงวันที่เขาพูดกับเราเรื่องแต่งงานแล้ว ตอนแรกเราอยากให้อีก 2 ปีค่อยแต่งเพราะว่าเราอยากเรียนให้จบ เพราะคือหน้าที่ที่แม่เราอยากให้เราทำให้สำเร็จ แต่เขาก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้วจริงๆ เพราะทางพ่อเขาอยากให้แต่งงาน เราก็เข้าใจเขามาก จริงๆว่าเขาโดนเยอะ แล้วช่วงนั้นคุณย่าของเขาก็ป่วย เขาอยากให้มีงานมงคลก่อนที่คุณย่าจะป่วยมากกว่านี้”
ที่พ่อเขาเร่งให้แต่ก็แปลว่าตอนนั้นพ่อของคุณเคน เขาก็โอเคกับเราแล้วหรือเปล่า?
“เหมือนพ่อเขาก้ำกึ่ง ไม่เชิงโอเคแต่ว่าบังคับไม่ได้แล้ว เพราะว่าพี่เคนดื้อ คือเขาจะไม่พูดเลยแบบไม่คุยด้วย พลอยคิดว่าเขาคงจะดื้อกับพ่อเขาพอสมควร เพราะเขาเป็นคนชัดเจน ตอนนั้นเราเลยต้องตัดสินใจ เพราะว่าถ้ารอบนี้เราบอกว่าไม่ก็คือจบจริงๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เพราะว่าเราคบกันมาขนาดนี้แล้วเราก็รู้สึกว่าเขาคือคนที่ใช่สำหรับเรา ซึ่งตอนที่พลอยไปบอกคุณแม่คุณพ่อว่าจะแต่งงาน ตอนนั้นมันยากมาก เราก็ร้องไห้เข้าไปก่อนเลย เราบอกท่านว่าเราเลือกแล้วเราขอเลือกแบบนี้ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เราเลือกที่จะไม่เชื่อฟัง แล้ววันนั้นก็คือเป็นครั้งแรกด้วยที่ได้บอกพ่อกับแม่ว่าแอบคบกับพี่เคน ซึ่งอารมณ์ตอนนั้นเราก็เหมือนจะสู้ไปด้วยกันกับพี่เคน เพราะเราเองก็ยังไม่รู้ด้วยว่าพ่อแม่ของสามีเขาจะอย่างไรกับเราด้วยซ้ำ แต่เราสองคนรู้แค่ว่าเราโอเคกันเราจะไม่เลือกใครแล้ว แล้วเขาก็รู้ว่าเขาเลือกเราแล้วแค่นั้นเลยแล้วๆ “
อีกเรื่องที่ถ้ามองย้อนกลับไป คือ สิ่งที่แรงที่สุดที่เข้ามากระทบในชีวิต วันที่พลอยออกมาแถลงข่าว เป็นวันที่เรามีน้องอยู่ในท้องแล้ว 7 เดือน ก็มีข่าวออกมาต่างๆ นานาแน่นอนพอออกมาแถลงข่าวว่ามีน้องก็มีข่าวว่าท้องก่อนแต่งส่วนใหญ่ไปในทิศทางนี้ พูดได้ว่า พลอย ไม่ได้อธิบายในเรื่องนี้เลย วันนี้อยากจะบอกอะไรบ้าง?
“คือเราไม่ได้อธิบายไทม์ไลน์ขนาดนั้นว่า เหมือนเราได้มาคุยกันตั้งแต่แรก วันนั้น เราก็อธิบายเพียงแค่ว่า ที่เขียนอักษรย่อกันคือเราแหละ แต่เราแต่งงานกันแล้วนะ แต่เราไม่ได้อธิบายว่าเราแต่งงานกันมานานแล้วแต่แต่งกันเงียบๆเฉพาะคนในครอบครัวเราที่รู้ ซึ่งในรายการ Club Friday Show เป็นครั้งแรกของ พลอย เลยค่ะ ที่มานั่งเล่าไทม์ไลน์ ทั้งหมดแบบละเอียดมาก”
คุณพ่อคุณแม่เขาเคยมีกำแพงกับเราไหมช่วงแรก?
“ไม่ได้รู้สึกว่ามันยากขนาดนั้นนะคะ คุณแม่คือน่ารักมากใจดีมาก เป็นคุณแม่ที่เข้าใจนะคะ ส่วนคุณพ่อ ก็คงจะมีแผนในมุมนักธุรกิจการทำงานของเขาที่พลอยก็เข้าใจ แต่ในเมื่อมันไม่เป็นแบบนั้นเขาก็เข้าใจยอมรับได้ ตั้งแต่ที่พลอยมาอยู่กับครอบครัวเขาก็รู้สึกดีตลอด ไม่ได้มีความรู้สึกแบบที่เรากังวลเลย มันคือความคิดที่เราคิดไปเองทั้งนั้น”
แต่ตอนนี้พลอยคือสะใภ้คนโปรด เพราะคุณพ่อคุณเคนรักพลอยมาก คุยกับลูกสะใภ้มากกว่าลูกตัวเองแล้วทุกวันนี้?
“ใช่ค่ะ ทุกวันนี้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ”
อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่มีปัญหาในความรักพ่อแม่เขาไม่ชอบเรา หรือ พ่อแม่เราไม่ชอบเขา ที่สำคัญสุดคือ คนสองคนจริงๆ?
“เขาคงเห็นความพยายามของเรา สุดท้ายเขาก็ยอมรับ เขาอยู่ไหนเราก็อยู่นั่น เป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของพลอยเลยในตอนนั้น ซึ่งพี่เคนก็พูดกับพลอยประโยคหนึ่ง You Jump I Jump ด้วยกันนะ”
ข้อมูลจาก : รายการ CLUB FRIDAY SHOW
สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เปิดบ้าน พลอย ชิดจันทร์ ชีวิตแม่ลูกสี่ ดินแดนสร้างสุขและทรัพย์ที่เชียงใหม่
วิถีแม่สายโหด พลอย ชิดจันทร์ ดัดนิสัยลูก จับอยู่ดอย อดข้าว เพราะสบายจนเคยตัว