เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ 

เรียนรู้อยู่เป็นในแบบ พระเอกสายบู๊  เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ 

Alternative Textaccount_circle
เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ 
เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ 

สิบกว่าปีในวงการบันเทิง เรียนรู้อยู่เป็นแบบ พระเอกสายบู๊  เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ เข้าใจเก่าไปใหม่มา อย่าไปยึดติดทั้งงานและความรัก

เรียนรู้อยู่เป็นแบบ พระเอกสายบู๊  เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์

พูดถึง “ดาวคนละดวง” มีปมเกี่ยวกับอะไร

“ดาวคนละดวง” เป็นเรื่องเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในชีวิต ทุกๆ คนมี “ดาว” ที่ต้องการจะไขว่คว้าและต้องไปให้ถึง ตัวละครแต่ละตัวจะมีเส้นทางและการตัดสินใจเลือกเดินต่างสถานะต่างความคิดกัน แต่ทุกตัวละครจะมีข้อคิดสอนใจเราในหลายๆมุม อยากให้ติดตามกัน ที่สำคัญเป็นละครบู๊แอ็คชั่นจัดเต็มที่สุดครั้งแรกในชีวิตของผมเลย (หัวเราะ) เรียกว่าบู๊ทุกเบรกไม่มีได้พัก แล้วก็จะมีเส้นเรื่องความรัก ดราม่ารักสามเส้า  พัวพันกันไปหมด แต่ก็มีจังหวะตลกๆ ฮาๆ ให้ได้ขำกันเป็นช่วงๆ”

บทบาทในเรื่องแตกต่างจากที่ผ่านมาไหม

“บางครั้งเป็นความใฝ่ฝันนะ ผมว่าผู้ชายก็คงอยากเล่นอะไรแนวๆ นี้ ในเรื่องเล่นเป็น ธนัท ก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ (หัวเราะ) ถือเป็นเรื่องที่ 2 หลังจากเป็นตำรวจใน เขาวานให้หนูเป็นสายลับ แต่เรื่องนั้นจะเน้นสืบสวน เน้นความรักเยอะ แต่ในดาวคนละดวงจะมีพาร์ของการทำงาน การปฏิบัติหน้าที่แบบจริงจัง เพราะในเรื่องเราเป็นหัวหน้าหน่วยไอราวัณ เป็นทีมสืบสวน มีบู๊ มีต้องตามจับคนร้าย มีบทบาทต้องลงพื้นที่ ต้องปราบปรามยาเสพติด คือมีฉากที่ต้องแอ็คชันเยอะ ต้องใช้พลังเยอะมาก เป็นอะไรที่มันมากจริงๆ บางวันถ่ายฉากเดียวแต่ใช้เวลาทั้งวัน แสนสาหัสแต่สะใจมาก แล้วค่ายอาหลองก็รู้กันดีเรื่อง ระเบิดภูเขาเผากระท่อม เขาจัดเต็ม ผมก็ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำหลายอย่าง เช่นต้องไปฝึกกับหน่วยคอมมานโดจริงๆ ทั้งท่าทางการใช้อาวุธ เพื่อให้รู้ว่ามันต้องเป็นยังไง ต่อย เตะ เป็นยังไง ท่าได้ไหม การใช้อาวุธถูกต้องไหม เพื่อให้ภาพออกมาสมจริงถูกต้องที่สุด คือทุ่มเทสุดๆ ฟิตร่างกายให้พร้อมก่อนถ่ายเต็มที่มาก”

เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ 

ร่วมงานกับค่ายอาหลองกรุ๊ป ผู้จัด พี่แก้ว พี่กู๊ด ครั้งแรกเป็นอย่างไร

“ใช่ๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เล่นกับค่ายนี้ ก็ต้องขอบคุณที่ไว้ใจเลือกผมให้มารับบท “ธนัท” ดีใจมากๆ ครับ ผมชอบนะได้เล่นบู๊แอ็คชั่น เป็นอะไรที่สนุกสุดๆ เหมือนได้ปลดปล่อย แล้วกองนี้น่ารักมาก ทำงานเข้าขากัน รู้สึกดีที่เขาเห็นว่าเราเหมาะกับบทนี้ ก็เป็นการร่วมงานกับพี่แก้วพี่กู๊ดเป็นครั้งแรก สัมผัสได้ถึงความใจดีของพี่เขา ใจดีจนเราเกรงใจ และที่สำคัญเรื่องนี้ได้บู๊เต็มตัวเลย รู้ตั้งแต่ตอนตัดสินใจรับเล่นละว่าบู๊แน่นขนาดนี้ต้องเหนื่อยแน่ (หัวเราะ)  แต่ชอบ มีความสุข แล้วเราเชื่อฝีมือพี่โหน่งผู้กำกับ พี่เขาเก่งทางในบู๊อยู่แล้ว คิวแอ็คชั่นคือเป๊ะมาก ตอนถ่ายก็คือจัดเต็มมาก ภูมิใจครับ ขอบคุณมากครับ”

ร่วมงานกับบูมสุภาพรกับป๊อบฐากูรเป็นยังไงบ้าง

“กับบูมก็เป็นน้องที่น่ารัก ร่าเริง ที่สำคัญเป็นคนกตัญญู ขอบคุณที่ได้ร่วมงานกัน ในส่วนของการทำงาน กับบูมนี่เป็นครั้งแรกเลย ก่อนทำงานด้วยกัน ความรู้สึกแรกคือ สวย เก่ง เป็นดีเจ แต่พอได้รู้จัก (ยิ้มมีเลศนัย) ก็สวยอยู่ บูมเป็นคนสนุกมากเอ็นเนอร์จี้เยอะ แล้วแรงเยอะ หัวเราะมีพลังมาก ในจอดราม่ามาก แต่หลังกองเราตลกมาก คือตลกทั้งกอง เวลาไม่ได้เข้าฉากจะรวมตัวกันทำกิจกรรมตลอด ปาร์ตี้ของกิน”

“กับป๊อปคือพลังเยอะมาก คนนี้จริงจังสุด เวลาเล่นฉากบู๊กับเขาต้องสติดีมาก ประสาทสัมผัสต้องไวมาก ตอนซ้อมเล่นเท่านี้ พอถ่ายจริง เอ้า มาเต็มมาก ต้องระวังตัวเองเป็นพิเศษ”

กับวันนี้มองชีวิตในวงการบันเทิงของเราอย่างไร

“รู้สึกตัวเองแก่ขึ้น (หัวเราะ) วงการบันเทิงเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะมาก มีคลื่นลูกใหม่เกิดขึ้นมากมาย มีช่องทางมีโอกาสที่ได้แสดงความสามารถมากกว่าเมื่อก่อน ทุกคนเป็นศิลปินได้ถ้าคุณมีของ ในส่วนของดารานักแสดงก็ได้แสดงตัวตนมากขึ้น สื่อสารกันง่ายขึ้น เข้าถึงกันได้มากขึ้น ซึ่งผมว่าดีนะ ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น กับนักแสดงใหม่ๆ ผมว่าเดี๋ยวนี้น้องๆ รุ่นใหม่เก่งๆ กันทั้งนั้น เด็กใหม่ๆ ที่มีความสามารถก็มีโอกาสได้แสดงฝีมือมากกว่าเมื่อก่อน ตัวผมเองก็เคยเป็นเด็กใหม่ เคยมองนักแสดงรุ่นพี่เป็นแบบอย่าง วันนี้เราเป็นรุ่นพี่ เด็กๆ ก็คงมองผมเป็นรุ่นพี่เหมือนที่ผมเคยมอง เป็นวัฏจักร เก่าไปใหม่มา จุดนี้เราต้องยอมรับความจริง อย่าไปยึดติด แต่เราต้องรักษามาตรฐานตัวเองให้ดี”

สิ่งที่ได้รับจากวงการบันเทิง

“การที่ผมได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ได้มาถึงจุดนี้ เป็นสิ่งที่เกินเป้าหมายของผมมากแล้ว คือเหนือความคาดหมายของผมไปมาก มันเลยคำว่า ประสบความสำเร็จ ไปแล้ว คือไม่ได้หมายถึงปัจจัยภายนอก คำว่าประสบความสำเร็จ มันคือข้างในจิตใจของเราเอง ในวันที่ผมอายุ 35 ปี ผมมีความสุขกับชีวิตนะ ทั้งในเรื่องการทำงาน สิ่งต่างๆ ที่ได้มาเป็นกำไรในชีวิต วงการนี้ให้อะไรกับผมมาก โดยเฉพาะเรื่องนิสัย การวางตัว ความมีระเบียบวินัย ความอดทน ความตั้งใจในการทำงาน หลายอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เข้าวงการมา สอนอะไรเราหลายอย่างมาก และไม่ใช่ว่าใครก็เข้ามาทำได้ เมื่อโอกาสมาเราต้องทุ่มเทให้เต็มที่ ยอมรับว่ามันเหนื่อยไหมเหนื่อยนะ แต่ในความเหนื่อยมันคือความสุข ความสนุก และเป็นการท้าทายความสามารถของเรา ทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นนักแสดงที่เก่งมาก แต่ผมตั้งใจในบทบาทที่ได้รับมา อยากจะทำให้ดีที่สุดในทุกบทบาท วันหนึ่งถ้าไม่ได้เป็นพระเอก ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่า บทบาทนั้นเราเล่นแล้วมีความสุขไหม ไม่ได้ยึดติด ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติ ผมแค่อยากจะอยู่ตรงนี้ไปเรื่อยๆ แต่ต้องอยู่กับมันอย่างมีความสุข”

พระเอก เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ 

มุมมองความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

“เอาจริงๆ ผมชอบให้เป็นความลับ ผมคิดแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาคิดตอนนี้ แต่ก็เข้าใจได้ว่า ต้องนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ผมจะเห็นแก่ตัวคนเดียวไม่ได้ ระยะเวลาสอนผมให้ปรับตัว ชีวิตคู่เป็นความรู้สึกของคนสองคนที่ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ส่วนตัวผมว่าผมก็ไม่ได้ปิด แต่ก็ไม่ได้เปิดมาก เรื่องความรักที่ผ่านมา ทำให้เราโตขึ้น ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต ผมอยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ได้อยากไปขวนขวาย ถ้าเจอก็เจอ ถ้าไม่เจอก็อยู่ไป ผมมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ทุกข์ เวลาเราทุกข์ เราก็ต้องยอมรับและรู้จักจัดการชีวิตให้ดี ไม่มีใครจะสุขไปได้ตลอด คนเราต้องมีทั้งสองด้าน มันเป็นสัจธรรม แต่อะไรก็ได้ที่เข้ามา ถ้าเราสุขก็ทำไป ถ้าทุกข์ก็ไม่ต้องทำ ผมบอกตัวเองเสมอ อย่าไปยึดติด ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความรัก”


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ไม่มีคู่ก็ต้องอยู่แบบสตรอง เกรท-วรินทร คนโสด 2018

เกรท – วรินทรตกใจ! บวชได้เงินเป็นล้าน ไม่แตะสักบาท ใช้การกุศลบุญต่อบุญ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up