Life on the Rock ของเจ้าพ่อร็อกมือขวา

ในยุคแรกที่เล่นคอนเสิร์ต เราใช้รถตู้คันเล็กๆ ขนสัมภาระ เครื่องดนตรีและทีมงานรวมแล้วเกือบ 10 คน อัดกันอยู่ในนั้น ออกเดินทางทั่วประเทศ สนุกและ ลำบากพอสมควรนะมิสเตอร์แพรว พอเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ มีแฟนเพลงกรี๊ดสนั่น พวกเราจะขึ้นรถกลับมาที่โรงแรม เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น ล้อมวงกินข้าวผัดกะเพราในห้องพัก

คุณมีภาพ ‘หนุ่ย-อำพล ลำพูน’ ในใจแบบไหน สำหรับผม สารภาพตรงๆ ว่า มองเขาเป็นศิลปินรุ่นเดอะ ที่น่าจะเซอร์ เอาใจยาก และทำตัวเยอะๆ ตามแบบฉบับซุปตาร์’ ตัวพ่อ (หรือตัวแม่ที่เจอมาแล้วหลายคน)

แต่เอาเข้าจริง ร็อกแอนด์โรว์ มีมุมละเอียดอ่อนมากกว่าที่คิด และคงให้คุณค้นหาเองในบทสัมภาษณ์นี้ ก่อนที่อำพลจะขึ้นเวที ‘คอนเสิร์ตมือขวาสามัคคี’ ร่วมกับเพื่อนร่วมรุ่นในวงการเพลงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อนุญาตให้ยกมือขวาแล้วไปร็อกพร้อมๆกัน

MR.PRAEW : เริ่มจากคอนเสิร์ตมือขวาสามัคคี ดูรายชื่อศิลปินแล้วไม่ธรรมดา
อำพล : จะบอกว่าอายุรวมกันเป็นพันปีใช่ไหม (หัวเราะ) มีไมโคร นูโว แหวน-ฐิติมา บิลลี่ และใหม่ เจริญปุระ เราว่านี่เป็นช่วงแรกๆ ของ ‘ร็อกมือขวา’ ที่ศิลปินกับคนดูได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในคอนเสิร์ตร่วมกัน คำว่าร็อกมือขวาไม่ใช่เฉพาะอำพลหรอก แต่ที่คนติดภาพอาจเพราะเราชอบแหกปากว่า ขอมือขวาหน่อย (ตะโกนจริง) หลังจากนี้ศิลปินทุกคนคงต้องนัดซ้อมเตรียมความพร้อมกัน เพราะมีเพลงที่ต้องแชร์กันเล่น ต้องสนุกมากแน่ๆ

MR.PRAEW : ถามตรงๆ ในวัย 50 อายุมีผลต่อการทำงานไหม
อำพล : อืม… จะว่าไม่มีผลก็คงไม่ใช่ แต่มีวิธีจัดการ นักดนตรีก็เหมือนนักกีฬาที่ต้องซ้อม เหมือนจิตรกรที่ต้องฝึกเขียนรูป ผสมสีวันที่พันย่อมดีกว่าวันแรก ไมโครซ้อมกันบ่อย ยิ่งซ้อมยิ่งมั่นใจ เล่นเพลงเดิมแต่มันกว่าเดิม เพราะแม่นยำและมั่นใจในรายละเอียดที่ดีขึ้น

ทุกวันนี้ก่อนเล่น ผมกับเพื่อนๆ ยังซาวนด์เช็คกันเอง คงเหลือไม่กี่วงแล้วมั้งที่ทำแบบนี้ แต่ผมกับเพื่อนๆ ทำมาตลอด เพราะอยากเมคชัวร์ทุกอย่าง ระบบเสียงตรงไหนยังไม่ลงตัวก็ต้องแก้ให้เป๊ะ แฟนเพลงที่มารอดู 3-4 ชั่วโมง พอขึ้นเพลงแรกมาแล้วปึ้ก กระหึ่มเลยจะได้คุ้มค่ากับการรอคอย และเมื่อเราทุ่มเทคนดูจะรับรู้และรู้สึกได้

MR.PRAEW : ถ้าชวนนึกถึง 30 ปีในวงการเพลง ภาพแรกที่ผุดขึ้นในความคิดคืออะไร
อำพล : ที่เรารู้สึกจริงๆ คือ ในยุคแรกที่เล่นคอนเสิร์ต เราใช้รถตู้คันเล็กๆ ขนสัมภาระ เครื่องดนตรีและทีมงานรวมแล้วเกือบ 10 คน อัดกันอยู่ในนั้น ออกเดินทางทั่วประเทศ สนุกและ ลำบากพอสมควรนะมิสเตอร์แพรว พอเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ มีแฟนเพลงกรี๊ดสนั่น พวกเราจะขึ้นรถกลับมาที่โรงแรม เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น ล้อมวงกินข้าวผัดกะเพราในห้องพัก

พอมองวันนี้ วงเราเป็นมืออาชีพ อุปกรณ์มากขึ้น ทริปไหนเดินทางด้วยรถ ทั้งรถทีมงานกับรถขนอุปกรณ์รวมแล้วก็ 6 – 7 คัน องค์ประกอบรอบตัวแตกต่างจากเมื่อก่อนพอสมควร แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ เรายังคงเดินทางร้องเพลงเล่นดนตรีบนถนนเส้นเดิม ขอแค่ให้ได้ร้องกับเล่น ไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้ เรื่องอาหารการกินก็สบายๆ กระเพราไก่ไข่ดาวยังเป็นอาหารประจำเผ่า ลืมไม่ได้ นี่คือรากเหง้าของเรา นอกจากนั้นกินอะไรก็ได้ขอแค่สุก ร็อกแอนด์โรว์กินได้หมด (หัวเราะ)

ติดตามเรื่องราวของเจ้าพ่อขาร็อคต่อได้ที่นิตยสารแพรวฉบับ 812 วันที่ 25 มิถุนายน 2556 คอลัมน์

Praew Recommend

keyboard_arrow_up