#11

หมิวยอมรับว่าเมื่อก่อนจะเข้าวัดก็ต่อเมื่อมีความทุกข์ แต่ปัจจุบันวันที่มีความสุขก็เข้า เพราะเธอเชื่อว่าการนั่งสมาธิเป็นบุญที่ได้โดยไม่ต้องไปหา เป็นบุญที่บริสุทธิ์ที่สุด  เธอจึงพยายามนั่งสมาธิแบบจริงจังปีละครั้ง แม้อาจจะได้หลักไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ได้ เธอบอกว่าพระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนามีหลายบทที่ช่วยสอนให้คนเราใช้ชีวิตเป็น ขึ้นอยู่กับว่าจะหยิบบทไหนมาใช้ ถ้าจำได้ใช้บ่อยๆ ก็จะกลายเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สำคัญที่สุดคือการไปปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการไปดีท็อกซ์เอาสิ่งสกปรกออกจากใจ แต่ไม่ได้หมายความว่ากลับมาแล้วจะเปลี่ยนเป็นอีกคน หรือฉันเป็นคนดีแล้ว ในสามวันแรกอาจจะใช่ แต่หลังจากนั้นเมื่อกลับสู่สังคม ต้องเจอปัญหาจนทำให้โกรธอีก แต่สิ่งที่เธอได้จากการปฏิบัติจะสอนให้เธอรู้ว่าควรอยู่กับคนอื่นด้วยดีได้อย่างไร

#12

เวลาลูกรับงานโฆษณา รางวัลที่หมิวให้ลูกคือของเล่นราคาไม่ถึงร้อย เพราะอยากให้เขารู้คุณค่าของเงิน ตอนเด็กๆ ของที่จะซื้อต้องราคาไม่เกินหนึ่งศูนย์ศูนย์ บางครั้งเกินมาหน่อยก็จะต่อรองกัน แต่พักหลังเธอยอมให้เลือกของใหญ่ขึ้น แต่เป็นแบบเหมาให้เป็นรางวัลใหญ่ไปทีเดียวเลย ถึงตรงนี้ถ้าคุณกำลังคิดถึงคำๆ นึงอยู่ โปรดจงรู้ไว้ว่าหมิวจะเถียงคอเป็นเอ็นกลับมาทันทีว่า… ไม่ใช่ว่าแม่เค็มซะหน่อย

#13

นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว หมิวยังมีงานประจำอีกอย่างคือเลี้ยงสุนัขจรจัดรวมทั้งจับไปทำหมัน โดยเธอออกตัวว่าไม่ใช่ความใจดี ใจบุญอะไรเลย ที่ทำไปก็เพราะหวังผล เพราะตั้งแต่ทำมามีเงินมางานเข้าไม่ขาดเลย จึงอยากบอกต่อไปถึงทุกๆ คนว่าให้ช่วยกันเลี้ยงหมาข้างถนนเถิด แล้วเงินจะไหลมาเทมา

#14

หมิวเชื่อเรื่องให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว เพราะเคยเจอประสบการณ์ตรงมาด้วยตัวเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นความทรงจำดีๆ ของครอบครัว นั่นคือคุณก้อง-นรบดี อดีตสามีของเธอแพ้ยาแอสไพริน แต่เธอไม่เคยรู้ มีอยู่วันหนึ่งเขาปวดหัวมาก เธอจึงหยิบยาแก้ปวดหัวให้ หลังจากกินยาเข้าไปปรากฏว่าแพ้หน้าเห่อ บวม เธอจึงกลับไปเช็คตัวยาเพื่อจะพบว่าเป็นแอสไพรินจริงๆ หลังจากนั้นไม่นานเธอกับคุณก้องมีเรื่องเม้งกันในรถ ซึ่งปกติรถของเธอจะต้องมีขวดน้ำพลาสติกเปล่าติดไว้ เวลารถติดแล้วลูกๆ ปวดฉี่จะได้ปลดทุกข์  ด้วยวันนั้นหมิวพูดมากจนน้ำลายหมดปาก จึงหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม แล้วก็ต้องพ่นออกมากระจายเต็มกระจกรถไปหมด เพราะขวดที่เธอหยิบเป็นขวดฉี่ของลูก แต่ข้อดีของเรื่องนี้คือจากที่กำลังเม้งๆ กันอยู่ก็กลายเป็นขำกลิ้งกันไปทั้งคู่

#15

หมิวพยายามหัวเราะให้ได้ทุกวัน อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ซึ่งสืบเนื่องมาจากว่าเมื่อก่อนเธอเป็นคนซีเรียส ตึงเกินไปกับหลายๆ อย่าง แต่วันเวลาได้สอนให้รู้ว่าไม่ต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่างนักก็ได้ ผ่อนๆ บ้าง ไม่ต้องเป๊ะนัก เพื่อให้ชีวิตผ่อนคลาย เดี๋ยวนี้เธอจึงสุขง่ายขึ้น แค่ได้ฟังเพลง อ่านหนังสือ ดูทีวี อยู่กับลูก ชงกาแฟหอมๆ นั่งโซฟาสบายๆ ก็สุขแล้ว นั่นทำให้เธอรู้ว่าความจริงสุขมันอยู่ใกล้ๆ แต่เราเองนั่นแหละที่ชอบไปคิดให้มันยาก และไม่มี

ถึงตรงนี้ คุณคงเห็นด้วยกับแพรวแล้วใช่ไหมว่า ในความเป็น หมิว ลลิตา ที่ทั้งจมูกใหญ่ แก้มเยอะ ฟันยาว ผมหยิกตลอดกาล ใส่รองเท้าเบอร์ 9 และมีแนวคิด วิถีการใช้ชีวิตแบบนี้ เธอช่าง#ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกินนน

ที่มาเรื่อง : นิตยสารแพรว/ นิตยสาร Secret

ภาพ : นิตยสารแพรว / [email protected]