เป็นตายไม่ทิ้งกัน! พี่น้องหัวใจแกร่ง เราจะสู้ มะเร็ง ไปด้วยกัน

ศึกมะเร็งของบ้านศรัทธาทิพย์

f05

หลังจากเสียสามีไปด้วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อ 20 ปีก่อน  ทิพย์ธิดา  ศรัทธาทิพย์  เจ้าของนามปากกา  ‘ปราณประมูล’  นักเขียนบทละครโทรทัศน์ที่โด่งดังหลายเรื่อง  ไม่คิดว่าเธอจะอยู่ในสถานภาพผู้ป่วยมะเร็งเต้านม จนกลายเป็นแรงบันดาลใจว่า  หากเขียนบทละครเรื่องใหม่  ตัวละครเป็นมะเร็งแล้วจะไม่ตาย  เหมือนเช่นเธอ

“ปี 2556 แอ๊นท์สังเกตว่ามีก้อนขึ้นที่เนินหน้าอกซ้ายชัดเจนมาก จับแล้วเป็นไตแข็ง  คิดอยู่เหมือนกันว่ามะเร็งแหงม  แต่ยังซ่าชวนเพื่อนไปดูคอนเสิร์ตที่เกาหลี(หัวเราะ)”  และเพราะปล่อยทิ้งไว้นาน  ขนาดของก้อนเนื้อจึงใหญ่มาก  ประมาณ 5 เซนติเมตร  คุณหมอบอกว่าอาจเป็นระยะที่ 3  นาทีนั้นเธอไม่ได้เสียดายเต้านมมากไปกว่ากลัวภาวะตอน ให้คีโม  เพราะยังจำภาพความน่ากลัวตอนที่สามีรักษาด้วยคีโมได้ติดตา ยังดีว่าด้วยอาชีพการงานทำให้เธอมีข้อมูลเรื่องมะเร็งเต้านมอยู่พอสมควร จึงเกิดความมั่นใจว่ามีหนทางเอาชนะได้หลายวิธี และที่สำคัญคือยังโชคดีกว่าเป็นมะเร็งประเภทอื่น

“กรณีแอ๊นท์  หมอบอกว่ามีแผนการรบกับมะเร็งคือ  หนึ่ง ตัด  สอง  ให้คีโม  สาม  ฉายแสงและทานยา แอ๊นท์ผ่านขั้นตอนแรกคือตัด  หลังผ่าตัดหมอบอกมีข่าวดีและข่าวร้ายจะแจ้งให้ทราบ  ข่าวดีคือแอ๊นท์เป็นมะเร็งระยะที่  2  เพราะไม่พบ เซลล์มะเร็งที่ต่อมน้ำเหลือง  แต่ข่าวร้ายคือเนื่องจากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ หมอกลัวลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง  จึงเลาะต่อมน้ำเหลืองออกด้วย”

มะเร็ง

แล้วก็มาถึงขั้นตอนที่เธอกลัวนั่นคือการให้คีโม ซึ่งเธอต้องรับทั้งหมด 6 ครั้ง โดยแต่ละครั้งต้องมีเวลาพักฟื้นประมาณ  3 สัปดาห์จึงค่อยไปอีก  เธอพบว่าด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่มียาแก้อาการแพ้คีโม ทำให้เธอไม่มีอาการแพ้น่ากลัวเหมือนสามีที่เสียชีวิตไปเมื่อ 20 ปีก่อน จะมีก็เพียงแค่รู้สึกอ่อนเพลีย โดยวันแรกๆ ที่ให้คีโมมีอาการเหมือนคนเมา ปากและลิ้นบวมชา  พูดไม่ชัด  ซึ่งคุณหมอก็บอกให้ทานไข่ขาววันละ 6 ฟองเพื่อให้ร่างกายผลิตเม็ดเลือด  แต่ความที่เห็นค่าเลือดดีจึงเกเรทานบ้างไม่ทานบ้าง ปรากฏว่าให้คีโมประมาณครั้งที่ 4  ผลเลือดขึ้นน้อยอย่างเห็นได้ชัด  จุดนี้เองที่น้องสาวต้องเข้ามาคุมเข้ม  ด้วยการสรรหาเมนูไข่ขาวมาทำให้ทาน

“ผ่านไปแค่เดือนเดียวเขาก็เริ่มกลืนไข่ขาววันละ 6 ฟองไม่ลงแล้ว” คุณเล็ก-ดวงหทัย  น้องสาวที่อยู่ดูแลเคียงข้างคุณแอ๊นท์ เปิดเผย “จากอาหารที่เคยชอบทาน  รสชาติจะกลายเป็นตรงข้าม  ยิ่งเขาต้องทาน ไข่ขาวทุกวันที่ให้คีโมประมาณ 6 เดือน  เล็กต้องหาเมนูใหม่ๆ มาหลอกล่อ ทำกระเพาะปลาน้ำใสแล้วใส่ไข่ทำเป็นริ้วเพื่อให้กลืนง่าย  เพราะผู้ป่วยมะเร็งไม่ชอบกับข้าวที่เป็นชิ้นๆ  แล้วทุกอย่างต้องต้มสุก  เขาไม่มีภูมิคุ้มกันโรคเลย  ส่วนของหวานเป็นไข่หวานน้ำขิง  ช่วงนั้นเล็กมีไข่แดงเหลือก็ทำกับข้าวให้รปภ.บ้าง ให้หมาบ้างเยอะมาก  เรียกว่าหมาเห็นหน้าเล็กยังวิ่งหนีเลย(หัวเราะ)”

มะเร็ง

แต่นอกจากมหกรรมโภชนาการไข่ขาวแล้ว สิ่งสำคัญคือเธอต้องพักผ่อนให้เต็มที่  เพื่อให้ร่างกายพร้อมสู้ศึก ไม่ไปไหน  ยกเว้นโรงพยาบาล  และไม่ให้ใครมาหาด้วย  เพราะช่วงที่ให้คีโมเป็นช่วงที่ร่างกายไม่มีภูมิต้านทานโรค  ต้องอยู่ในภาวะปลอดเชื้อเป็นเวลา 6 เดือนเต็ม “ขณะเดียวกันทางใจก็ต้องฝึกเช่นกัน  หลายปีก่อนแอ๊นท์มีโอกาสไปทิเบตกับนายแพทย์บรรจบและพระอาจารย์ ดร.สิงห์ทน นราสโภ  ท่านแจกหนังสือสวดมนต์  ในนั้นมีบทสวดดุริยมนตรา  บทสอนเจ้ากรรมนายเวร สำหรับบำบัดโรค  พอได้มาก็วางไว้ที่ไหนไม่รู้ กระทั่งป่วย  ไม่น่าเชื่อว่าหนังสือท่านวางอยู่บนหัวนอน  แอ๊นท์สวดมนต์ เช้า-เย็น  เคล็ดลับคือต้องสวดเสียงดัง  เพราะถือเป็นการบำบัดชนิดหนึ่ง การออกเสียงแต่ละคำจะเกิดคลื่นสั่นสะเทือนในแต่ละอวัยวะ  เล็กยังชม เลยว่าแอ๊นท์สวดมนต์เพราะมาก  แอ๊นท์เชื่อว่านอกจากการรักษาแล้ว ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาการดีขึ้นคือการสวดมนต์  อ้อ  อาหารเสริมด้วยเนอะ” ท้ายประโยคคุณแอ๊นท์ถามน้องสาว

“ใช่ค่ะ  ดีมากเลย” คุณเล็กยืนยัน  “แต่สิ่งสำคัญที่สุดของครอบครัวเราคือตลก  เราอยู่กันสองคนพี่น้อง  ดูแลกันอย่างดีงาม  เล็กทำตลกให้ดูทุกวันเพื่อให้เขาหัวเราะ  โดยแกล้งร้องเพลงเพี้ยน  เขาชอบมาก  แล้วพอทำคีโมครบคอร์ส  พี่แอ๊นท์ก็ไปฉายแสงที่โรงพยาบาลรามาฯ ทุกวันติดต่อกัน 25 ครั้ง  เล็กไปด้วยทุกครั้ง  ภาพที่เห็นจนชินตาคือผู้ป่วยมะเร็งมารอฉายแสงมหาศาล  ตั้งแต่เด็ก 5 – 6 ขวบที่เป็นมะเร็งสมอง  บางคนไม่มีญาติ  เล็กก็ทำตลกเพื่อให้บรรยากาศสดชื่นขึ้น”

ณ วันนี้ผ่านมา 3 ปีแล้ว  ศึกมะเร็งยังอยู่ในช่วงสงบและยังต้องติดตามผลต่อเนื่อง แต่ในฐานะที่มีประสบการณ์มาแล้ว เธอจึงอยากฝากให้ทุกคนตระหนักว่าโรคภัยไม่เข้าใครออกใครจริงๆ  ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง  ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่  ไม่เครียด  กรรมพันธุ์ก็ไม่มีใครเป็นมะเร็ง  จะมีพฤติกรรมที่เลวร้ายสุดก็คือการนอนดึก  เพราะไอเดียเด็ดๆ มักจะมาหลังเที่ยงคืน  กว่าจะได้นอนก็ตี 3 ตี 4 เข้าไปแล้ว ซึ่งการนอนดึกส่งผลให้ร่างกายสูญเสียภูมิต้านทานบางอย่าง นอกจากนี้คือเรื่องอาหาร เพราะมีผลต่อร่างกายจริงๆ  อย่าทานซ้ำ  พยายามทานให้หลากหลายและหลากสี  โดยเฉพาะมะเร็ง เต้านมหรือมะเร็งปากมดลูก  ต้องทานยาแอนตี้ฮอร์โมนให้ครบ 5 ปี แม้จะตัดมดลูกกับรังไข่ไปแล้วก็ยังต้องทานยาอยู่ เพราะร่างกายยังมีต่อมใต้สมองที่ผลิตฮอร์โมนได้อยู่  ทุกวันนี้เธอจึงไม่ทานอาหารที่ กระตุ้นฮอร์โมนเอสโทรเจน  เช่น  น้ำเต้าหู้  น้ำมะพร้าว

ถึงบรรทัดนี้ เราเชื่อว่าความคิดที่มีต่อ  มะเร็ง  ว่าเป็นโรคร้ายของคุณยังไม่เปลี่ยนไปไหนแน่ๆ  แต่จะดีกว่าไหมถ้าเป็นแล้วรู้จักแปรให้เป็นพลังบวก เพื่อใช้สู้ศึกกับมัน สำคัญเหนืออื่นใดคือความตระหนักรู้ว่าเราไม่ได้สู้เพียงลำพัง แต่ยังมีมือของคนที่รักคอยจับจูงให้ก้าวข้ามไปด้วยกัน จะเป็นพี่น้อง พ่อแม่ คนรัก หรือลูก ขอเพียงให้มีคนๆ นั้นเท่านั้นเอง

ที่มาเรื่อง : คอลัมน์ ‘ครั้งหนึ่ง’ นิตยสารแพรว

ที่มาภาพ : นิตยสารแพรว / นิตยสาร Secret / IG@rugtoo

Praew Recommend

keyboard_arrow_up